xs
xsm
sm
md
lg

ครม.เห็นชอบ 2 คณะกรรมการฟอกผิด เหตุสังหาร ปชช.7 ตุลา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วันที่ 14 ต.ค. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุมเห็นชอบ กรณีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ ลงนามในคำสั่งสำนักนายกฯ แต่งตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบ วันที่ 7 ต.ค.2551 เพื่อให้ได้ข้อมูลข้อเท็จจริงและรายละเอียดต่างๆ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ประกอบกับเพื่อให้การดำเนินงานในเรื่องนี้มีความเป็นกลาง ทั้งนี้เพื่อความเป็นธรรม ตลอดจนสร้างความเข้าใจอันดีและความปรองดองสมานฉันท์ในหมู่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายและประชาชนทั่วไป

อาศัยความตามในมาตรา 11 (6) และ (9) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 นายกฯ โดยความเห็นชอบของ ครม.จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระฯ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นคณะหนึ่งมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ดังนี้ นายปรีชา พานิชวงศ์ เป็นประธานกรรมการ นายเจริญจิตต์ ณ สงขลา พลเรือเอกชลินทร์ สาครสินธุ์ นายสหาย ทรัพย์สุนทร นายแพทย์จรัส สุวรรณเวลา นายประเสริฐ บุญศรี คุณพรทิพย์ จาละ นายยุวรัตน์ กมลเวชช นายสมชาย ผลเอี่ยมเอก นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ เป็นกรรมการ และนายวิชัย ตันติกุลานนท์ เป็นกรรมการและเลขานุการ

อำนาจหน้าที่ 1.รวบรวมและตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงตลอดจนรายละเอียดต่างๆ รวมทั้งรับฟังความเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องและใกล้ชิดกับเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น 2.ในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการตามคำสั่งนี้ให้ทุกกระทรวง กรม รัฐวิสาหกิจให้ความร่วมมือและสนับสนุนในการจัดส่งข้อมูลเอกสารและหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ รวมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ไปชี้แจงตามที่คณะกรรมการร้องขอ 3.แต่งตั้งคณะอนุกรรมการและคณะทำงานตามความจำเป็นเพื่อช่วยปฏิบัติงานตามที่คณะกรรมการมอบหมาย 4.จัดทำรายงาน ข้อเสนอแนะและมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อนายกฯเพื่อสร้างความเข้าใจอันดีและความปรองดองสมานฉันท์ 5.ในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการฯลฯให้ได้รับเบี้ยประชุม ค่าตอบแทน และสิทธิประโยชน์อื่นตามที่ได้ตกลงกับกระทรวงการคลังและเบิกจ่ายงบประมาณจากสำนักเลขาธิการนายกฯ 6.ให้สำนักเลขาธิการนายกฯจัดหาสถานที่ปฏิบัติงานและสถานที่ประชุมตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาน 7.ให้สำนักเลขาธิการนายกฯ และสำนักงบประมาณจัดสรรเงินงบประมาณให้เพียงพอกับการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ ฯลฯ

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ครม.ยังอนุมัติคำสั่งสำนักนายกฯเรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการเยียวยาและช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบ7ต.ค.2551และเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อเยียวยาและช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้เสียหายตลอดจนสร้างความเข้าใจอันดีและความปรองดองสมานฉันท์ในหมู่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายและประชาชนโดยทั่วไป อาศัยความตามในมาตรา 11 (6) และ (9) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดินพ.ศ.2534 นายกฯโดยความเห็นชอบของ ครม.จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเยียวยาฯ โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกฯ เป็นประธาน ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปลัด กทม.ผอ.สำนักงบประมาณ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผบ.ตร. อัยการสูงสุด อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ผอ.สำนักการแพทย์กทม. เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (ศูนย์นเรนทร) เจ้ากรมกิจการพลเรือน ที่ปรึกษารองนายกฯและเลขาธิการรองนายกฯเป็นกรรมการและปลัดสำนักนายกฯเป็นกรรมการและเลขานุการ

อำนาจหน้าที่ 1.กำหนดกรอบการพิจารณาเยียวและช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ 7 ต.ค.2551 และเหตุการณ์เกี่ยวเนื่องก่อนหน้าและหลังนั้นตามที่เห็นสมควร 2.รวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริง รายละเอียดต่างๆ รวมทั้งรับฟังความเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องและใกล้ชิดเหตุการณ์ตามข้อ1 เพื่อประกอบพิจารณาดำเนินการ 3.ตรวจสอบและรับรองบุคคลที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ซึ่งสมควรได้รับการเยียวยาและช่วยเหลือ 4.ประสานงานหรือขอความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน 5.เรียกเอกสารและเจ้าหน้าที่มาให้ข้อมูล 6.แต่งตั้งคณะอนุกรรมการฯมาช่วยเหลือตามความจำเป็น 7.รายงานผลการดำเนินงานให้นายกฯรับทราบเป็นระยะ 8.จัดทำรายงานและข้อเสนอแนะหลักเกณฑ์มาตรการอื่นๆในการเยียวยาและช่วยเหลือต่อนายกฯและครม.ตามลำดับเมื่อได้รับการอนุมัติจากครม.แล้วให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป 9.ให้คณะกรรมการฯดำเนินการตามคำสั่งนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 90 วันและขอขยายเวลาได้ตามความจำเป็น 10.ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่นายกฯหรือครม.มอบหมาย 11.ให้คณะกรรมการ ฯลฯ ให้ได้รับเบี้ยประชุม ค่าตอบแทน และสิทธิประโยชน์อื่นตามที่ได้ตกลงกับกระทรวงการคลังและเบิกจ่ายงบประมาณจากสำนักเลขาธิการนายกฯ 12.ให้สำนักปลัดสำนักนายกฯ และสำนักงบประมาณจัดสรรเงินงบประมาณให้เพียงพอกับการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ ฯลฯ

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระฯ ชุดของนายปรีชานั้น รัฐบาลไม่มีส่วนเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบการสรรหากรรมการฯ โดยมอบให้นายปรีชาทาบทามบุคคลมาเป็นกรรมการได้อย่างเต็มที่ และน่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมได้พอควรในการทำหน้าที่และเรื่องสำคัญที่สังคมจับตามองและเชื่อว่าคณะกรรมการฯ น่าจะทำงานอย่างเต็มความสามารถเพื่อนำความจริงมาสู่สังคม ทั้งนี้จะดำเนินการโดยเร่งด่วนแม้รัฐบาลจะไม่ได้กำหนดระยะเวลาการทำงาน
กำลังโหลดความคิดเห็น