วิปฝ่ายค้านยืนยันข้อมูล ส.ส.พปช.และอดีต รมต.ปลุกระดมเกณฑ์ประชาชนกักตัวไว้ที่วัดทางเหนือของ กทม. เตรียมใช้ทำร้ายผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ หวั่นเกิดมิคสัญญีและนองเลือดครั้งครั้งใหญ่ แฉแผนปฏิวัติตัวเองหวังแก้ รธน.ช่วยเหลือ “นายใหญ่”
วันนี้ (14 ต.ค.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้หยิบยกปัญหาการเมืองซึ่งจะส่งผลวิกฤตเศรษฐกิจ และทำให้การเมืองมาถึงทางตันมากขึ้น โดยเฉพาะกรณีที่คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เดินหน้าประชุมสภาในสัปดาห์หน้า ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์พร้อมทำหน้าที่ในสภา หากเงื่อนไขไม่เป็นเหมือนกับวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ปมปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ คือ ท่าทีของวิปรัฐบาลที่เตรียมขนคนมาเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับ ส.ส.รัฐบาลที่เข้าร่วมประชุมการตรวจสอบฝ่ายค้านที่ไม่เข้าร่วมประชุมในการแถลงนโยบาย และการมอบหมายให้สมาชิกพรรคพลังประชาชนไปแจ้งความดำเนินคดีต่อกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งท่าทีดังกล่าวของวิปรัฐบาลจะทำให้การเมืองมาถึงทางตันและเกิดการเผชิญหน้ากันมากขึ้น
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ท่าทีของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ยังไม่ตัดสินใจว่าจะยุบสภา หรือลาออก ซึ่งขณะนี้จะส่งผลกระทบต่อการบริหารนโยบายของรัฐที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ โดยเฉพาะราคายางพาราที่ตกต่ำมาถึง 10 บาท ขณะเดียวกัน การจับประกันจำนำราคาข้าวจะอยู่ที่ 1.4 หรือ 1.2 หมื่นบาทต่อเกวียน สถานการณ์ทั้งหมดมีความน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง และท่าทีของคนในรัฐบาลที่มีการขนคนเข้ามาในกรุงเทพฯ เพื่อให้เกิดการปะทะกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถามว่าเป็นความจงใจที่จะให้ทหารเข้ามาปฏิวัติใช่หรือไม่ เพราะจากเหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ทำให้คนเสียชีวิต ภาคสังคมรวมถึงผู้บัญชาการเหล่าทัพได้เรียกร้องให้นายสมชายได้แสดงความรับผิดชอบ แต่จนถึงขณะนี้ก็ไม่มีทีท่าว่าจะยุบหรือลาออก แต่จงใจอยู่ในตำแหน่งเพื่อให้เกิดการปฏิวัติ และนำไปสู่การหาเสียงเลือกตั้งครั้งใหม่ โดยโจมตีการปฏิวัติ และให้บางคนกลับมามีบทบาททางการเมืองอีกครั้ง และอาศัยช่วงจังหวะนี้เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อนิรโทษกรรมบางคนบางกลุ่ม และเอาบางคนกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง
“การกระทำของนายสมชายครั้งนี้จะทำให้การเมืองยุคมิคสัญญีที่ประชาชนใช้กำลังประหัตประหาร หรือสุ่มเสี่ยงต่อการใช้ความรุนแรง เพราะนอกจากวิปรัฐบาลจะมีการขนคนเข้ามาแล้ว ยังทราบว่ามีอดีตรัฐมนตรีในภาคเหนือมีการขนคนมาไว้ที่วัดแห่งหนึ่งทางทิศเหนือของ กทม. ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงก็จะเกิดการปะทะรุนแรงเสียเลือดเนื้อมากกว่าครั้งใดๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ดังนั้น จึงอยากให้นายสมชายได้ตัดสินใจบนจิตสำนึกของคนไทยมากกว่าที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาของญาติพี่น้องของตัวเอง ซึ่งพรรคมีความไม่สบายใจในการกระทำดังกล่าวของวิปรัฐบาลเพราะรู้อยู่ว่ามีการเกณฑ์คนขึ้นมาจะมีการเผชิญหน้า”