ผู้จัดการออนไลน์ – แกนนำพันธมิตรฯ สะเทือนใจระหว่างเดินสายเยี่ยมผู้ป่วย ระบุทุกคนห่วงชาติมากกว่าตัวเอง แม้จะเจ็บหนัก บางคนถึงขั้นพิการ อัดสื่อเครือมติชนบิดเบือนภาพใส่ร้ายศิลปิน-ข่าวราชวงศ์ ชี้สถาบันอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงยิ่ง ชี้ TOTV ในสหรัฐฯ ปลุกระดมล้มศาล-สถาบันตลอด แต่ทหารกลับไม่สนใจ แฉตำรวจกลบเกลื่อนหลักฐานฆ่าปชช.ที่รัฐสภา ยันเดินหน้าตั้งมูลนิธิน้องโบว์สานต่องานกู้ชาติ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย
วานนี้ (11 ต.ค.) นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวว่า มีผู้ปล่อยข่าวว่าในการเดินทางไปดาวกระจายที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในวันจันทร์ที่ 13 ต.ค. ที่จะถึงนี้ พันธมิตรฯ จะเดินทางไปเผาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งนายสมเกียรติ ระบุว่า เป็นข่าวเท็จ เพราะถ้าหากเผาจริง เหล่าจำเลย (ตำรวจ) ที่ก่อเหตุฆ่าประชาชนในวันที่ 7 ต.ค. ก็คงจะตายหมด
“เราไม่มีทางที่จะจุดไฟเด็ดขาด เพราะถ้าจุดไฟเผาแล้วจำเลยจะตายหมด เพราะว่าต้องลากคอมาติดคุกและจ่ายค่าชดเชยเสียหาย 1 พันล้านให้เรียบร้อยก่อน นี่เรื่องจริง เรียนผู้บัญชาการระดับสูง แต่ว่าผมไปเยี่ยม สตช. ขับรถผ่าน ปรากฏเค้าย้ายอนุสาวรีย์ผู้พิทักษ์สันติราษฏร์อุ้มเด็กจูงเด็กไปที่อื่น ตอนนี้ไม่มีแล้ว ใช้อนุสาวรีย์ใหม่แทนเป็นเตารีดเครื่องหนึ่งและไถนาเครื่องหนึ่งมาแทน” นายสมเกียรติกล่าวเสียดสี
ต่อมา นายสมเกียรติ กล่าวว่า วานนี้ (11) ตนไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บไอซียูซึ่งยังไม่รู้ตัว 2 คน ทั้งนี้ตนรู้สึกสะเทือนใจมาก เนื่องจากผู้บาดเจ็บบางคนกลับแสดงความเข้มแข็งโดยไม่ได้แสดงความห่วงอาการบาดเจ็บตัวเอง แต่กลับบอกว่าผ้าพันคอและหมวกที่มีลายเซ็นต์ของแกนนำว่าหายไป ตนจึงตอบกลับไปว่า ต้องการกี่ผืน ต้องการลายเซ็นใครบ้าง ตนจะหามาให้ได้หมด
“เมื่อไปถึง พลตรีจำลองขอคุยเรื่องธรรมมะ กับภิกษุนี กับญาติผู้ป่วย เราไปเซ็นสมุดเยี่ยมคนป่วยที่รับรู้ตัวและอ่านให้ฟัง เราบอกว่าขอสดุดีวีรสตรีผู้กล้า ท่านเสียสละทรัพย์เพื่อรักษาธรรมมะและประเทศไทย เค้าหลั่งน้ำตาเลยครับ เราจะอ่านทุกอันที่มีอยู่ พอเราจะกลับซึ่งเราต้องสวมชุดกันเชื้อ พอเราจะกลับเค้าบอกว่าผ้าพันคอที่เซ็นชื่อหายไปแล้ว คิดว่าจะเสียดายใบหน้าและแขน เค้ากลับเสียดายผ้าและหมวกที่ใส่และมีลายเซ็น ผมเลยบอกว่าอยากได้กี่ผืน แกนนำห้าคน นักร้อง พิธีกร เซ็นหมด เอากี่ผืน กี่ใบบอกมา ไม่ต้องเสียใจ โดยเฉพาะผู้บาดเจ็บเล็กน้อย นอกจากจะได้ผ้า พี่น้องประชาชนยังกรุณาบริจาคเงินไปทำขวัญ แ ม้จะไม่มากมายแต่เป็นสินน้ำใจของพวกเรา คนละ ห้าพันบาท 400 คนก็ 2 ล้านบาท” นายสมเกียรติกล่าว
วีรชนพันธมิตรฯ สู้สุดใจ
จากนั้นกล่าวถึงวีรสตรีผู้หนึ่งชาวนครสวรรค์ที่ต้องนอนคว่ำหน้า เนื่องจากเนื้อสะโพกหายไปจากเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค. มารดาของผู้ป่วยวีรสตรีท่านนี้บอกว่า ทันทีที่หายเขาพร้อมบุตรสองคนจะมาที่นี่ทันที ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและจิตใจความเป็นนักสู้ของชาวพันธมิตรฯ
นอกจากนี้ นายสมเกียรติ ยังกล่าวด้วยว่าตั้งแต่เหตุการณ์โศกนาฎกรรม เมื่อวันที่ 7 ต.ค. มีชายหนุ่มไทยเชื้อสายจีนที่มีภูมิลำเนาอยู่แถวเยาวราช คอยรับส่งและดูแลผู้ป่วยที่อยู่ที่ รพ.วชิรพยาบาลทุกวันไม่ขาด
“ผมถามว่ามาส่งแล้วทำไมยังอยู่ เค้าบอกว่าเมื่อมาส่งแล้วผมมีความผูกพันกับผู้บาดเจ็บทุกคน ดังนั้นจึงต้องมารอดูอาการ ดังนั้นตอนนี้งดงานทุกอย่างมาประจำที่วชิระพยาบาลตั้งแต่วันที่ 7 มาแล้ว นี่สะท้อนน้ำใจ และความกรุณรา และความผูกพันของพันธมิตร” นายสมเกียรติกล่าว
อัด “สื่อชั่ว” ใส่ร้ายศิลปินกำระเบิด
ส่วนกรณีที่มีหนังสือพิมพ์สองฉบับคือข่าวสดและเดลินิวส์ได้ตีพิมพ์ภาพ “ตี๋” นายชิงชัย อุดมเจริญกิจ ศิลปินนักวาดภาพที่ออกมาเคลื่อนไหวร่วมกับประชาชน และได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์ 7 ต.ค. โดยระบุว่านายชิงชัยถือระเบิดอยู่ในมือ นายสมเกียรติระบุว่า ตนสนับสนุนให้เลิกซื้อหนังสือพิมพ์สองฉบับนี้เช่นเดียวกับนายสนธิ
อย่างไรก็ตาม นายสมเกียรติได้ยกย่องหนังสือพิมพ์ในเครือเนชั่น โดยเฉพาะเนชั่นสุดสัปดาห์ที่อุทิศเนื้อที่ให้กับการลงภาพการกระทำอันชั่วร้ายของตำรวจจำนวนมาก
“สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เขียนแนชั่นมาแล้ว 12 ปี มาเลิกตอนเป็นนักการเมือง หนังสือเนชั่นสุดสัปดาห์เป็นหนังสือสุดยอดการต่อสู้ของประชาชนครับพี่น้อง นี่ออกมาจากกาแฟดำ สุทธิชัย หยุ่นแล้วนะ กล้าพูดเลยว่า ในหน้า 1 หน้า2 หน้า3 หน้า4 หน้า5 หน้า6 หน้า7 เค้าอุทิศการถ่ายภาพพิเศษว่า ตำรวจเขวี้ยงระเบิด กำระเบิด เล็งปืน มีในฉบับเดียวคือเนชั่นสุดฯ ของสุทธิชัย หยุ่น”
เผย TOTV สื่อระบอบทักษิณในอเมริกา
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ “เอเอสทีวี” เป็นที่สนใจของคนไทยในต่างประเทศเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะวิกฤตที่สื่อโทรทัศน์ต่างบิดเบือนข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตามก็มีสถานีโทรทัศน์ไทยในต่างประเทศที่เป็นของระบอบทักษิณ และพยายามจะนำเสนอข่าวสารล้มล้างสถาบันตุลาการและสถาบันพระมหากษัตริย์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง คือ สถานีโทรทัศน์ไทยโพ้นทะเล (TOTV)
“ในอเมริกามี Thai Oversea Television (TOTV) ออกโจมตีเรามาประมาณ 1 ปีแล้ว แต่ส่วนใหญ่ไม่มีคนดู ยกเว้นสุนัขในสหรัฐอเมริกาที่มันงงว่าเรื่องอะไรกัน ช่องนี้จะโจมตีเอเอสทีวีตลอด เมื่อเร็วๆ นี้จัดสัมมนาขนาดใหญ่ เผยแพร่เอกสาร ซีดี เกี่ยวกับ เรื่องที่ไม่ควรพูด ถล่มประเทศไทย และ หนังสือรัฐธรรมนวยฉบับหัวคูน มันเขียนอย่างใหญ่ รูปไข่และตัวเงินตัวทองออกจากไข่ (ก็คือตัวมันเอง) มันเขียนด่าสถาบันและประเทศไทยเละเลย ประมาณ 182 หน้า
เข้าใจหรือยัง ว่าตอนนี้ประเทศไทยอยู่ในภาวะอันตรายยิ่ง เข้าใจหรือยัง พอพวกมันเอาขนมให้ศาล สองล้าน ศาลจำคุก 6 เดือน มันไปออกหนังสือเลยเดือนรุ่งขึ้น เรื่อง ‘ตุลาการวิบัติหายนะประเทศไทย’ ด่าศาลอย่างเดียวเลย ด่าศาลเละเลย แล้วก็ถ่ายรูปผู้พิพากษารัฐธรรมนูญบางรายไปลง ด่ากันเละ ผู้เขียนไม่รู้นามจริงหรือเปล่า วิรัตน์ สุคนธกานต์ ณ ชาติสุนัข แล้วมันตรงกับใคร คำว่าตุลาการวิบัติเนี่ย มันตรงกับใคร คนเดียวที่พูดคนแรก ชื่อสมชาย ปรีชาศิลปกุล คณะบดีคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยหกทุ่ม ความหนา 58 หน้า มันเอารูปป๋าเปรมไปใส่ปกเยาะเย้ย ข้างในเป็นรูปพ่อมันยกมือไหว้ หน้าปกเป็นรูปพ่อมัน มันใกล้แล้วประเทศไทย ทำทองไม่รู้ร้อน” พร้อมกล่าวว่า พันธมิตรฯ พยายามนำเรื่องนี้ไปให้กองทัพไทยรับทราบ แต่ทหารกลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ และละเลยหน้าที่ตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ ที่ต้องรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะราชบังลังก์
“สถาบันพระมหากษัตริย์ ตกอยู่ในภาวะอันตรายและเสี่ยงสูงยิ่ง ดังนั้น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงมาฟังเพลงเทียนแห่งธรรมที่บอกว่า ขอเอาชีวินพิทักษ์ราชัน …” หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ กล่าว
แฉ รบ.-ตร.กลบเกลื่อนหลักฐานที่รัฐสภา
นายสมเกียรติ กล่าวด้วยว่า วานนี้ในระหว่างเดินทางกับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ตนเห็นคนเอาสีมาทารั้วรัฐสภา พล.ต.จำลองจึงต่อสาย ขอให้พาสื่อไปถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน (ชมภาพชุด : จนท.ทำความสะอาด-ทาสี ทับรอยเลือดผู้ชุมนุม กลบหลักฐานหน้ารัฐสภา 11 ต.ค.)
จากนั้น นายสมเกียรติได้อ่านบทกลอนชิ้นหนึ่งโดย บุคคลที่ใช้นามแฝงว่า ช รักชาติ จากเว็บไซต์ “ผู้จัดการออนไลน์” ที่ระบุถึงการกระทำอันชั่วช้าของรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
มันชั่วช้าสามานย์สัตว์นรก
ช่างเวียนวกสุดเลวไอ้ชาติหมา
ทำลายล้างหลักฐานหน้าสภา
แล้วก็มาสร้างภาพให้ร้ายอีก
ตำรวจชั่วเลวทรามช่างต่ำช้า
เห็นประจักษ์ชัดเจนยังย่ำยี
ตายเป็นผีไอ้ฉิบหายตำรวจโจร
หลังเกิดเหตุไม่กันสถานที่
ชั่วสิ้นดีล้างพยานไอ้ใจโฉด
อัปยศเวรกรรมสุดเศร้าโศก
วันวิปโยค ประชาจะพึ่งใคร
ตั้งมูลนิธิน้องโบว์กู้ชาติ
ในช่วงท้ายของการปราศรัย นายสมเกียรติ ระบุว่า วานนี้ 5 แกนนำได้รับจดหมายจาก นายจินดา ระดับปัญญาวุฒิ บิดาของนางสาวอังคณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือ “น้องโบว์” วีรชนผู้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ระบุว่า เงินที่ได้รับบริจาคเพื่อช่วยเหลือน้องโบว์ทั้งหมด ครอบครัวไม่ประสงค์จะเก็บไว้เลย หากแกนนำทั้ง 5 จะได้พิจารณาว่าโดยเจตนารมณ์ของสตรีที่บริสุทธิ์ในการกู้ชาติก็สมควรตั้งเป็น “มูลนิธิน้องโบว์กู้ชาติ”
“พอผมอ่านเสร็จ เป็นจิตกุศลอย่างยิ่ง เมื่อวานผมไปพบ ท่านไม่รับเงินใครเลย บอกว่าพอแล้วเสียลูกไปจะต้องให้รับเงินทำไม เสียลูกไปควรมีอนุสรณ์ให้คนรักชาติ คนที่อยู่จะได้มีกำลังใจ จึงได้ทำเรื่องมา เมื่อผมเรียนลุงจำลอง ลุงจำลองต่อสายถึงคุณสนธิทันที ทุกฝ่ายเห็นร่วมกัน พรุ่งนี้นัดหมายจะไปคุยกับคุณพ่อจินดา และคุณแม่ และบุตรสาว ไปคารวะน้ำใจอันงดงามยิ่งของพวกเขา” นายสมเกียรติกล่าว
จากนั้นกล่าวว่า วานนี้มีนสพ.ฉบับหนึ่งได้บิดเบือนคำสัมภาษณ์ของเชื้อพระวงศ์องค์หนึ่ง โดยบิดเบือนจากดำเป็นขาว ขาวเป็นดำ และหนังสือพิมพ์ฉบับนี้สมควรแล้วที่จะถูกเรียกว่าเป็น “ดาวสยามยุคใหม่”