“ปลื้ม” ปากมอมเจอดี หลังหว่านเงินบริจาค 2 แสน แต่กลับไม่มีชื่อเป็นผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ แล้วพาลทวงเงินคืนกลางอากาศ ถูกพลพรรค ปชป.ยกขบวนนำเงินไปคืนให้ถึงที่ แต่หนีเตลิดไม่ยอมเผชิญหน้า “องอาจ” โต้อย่าสำเร็จความใคร่ด้วยปาก ใช้สื่อของรัฐด่าคนอื่น
วันนี้ (10 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล (คุณปลื้ม) ผู้ดำเนินรายการชื่อดัง ได้วิพากษ์วิจารณ์พรรคประชาธิปัตย์ ผ่านรายการวิทยุ FM 106.0 กรณีพรรคประชาธิปัตย์ไม่เข้าร่วมประชุมในวันแถลงนโยบายในวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา พร้อมทั้งระบุว่าเสียดายเงิน 2 แสน ที่ได้บริจาคให้กับพรรคประชาธิปัตย์
ล่าสุด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มอบหมายให้ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.กทม. นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.กทม.รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย ส.ส.กทม.ส่วนหนึ่ง อาทิ นายบุญยอด สุขถิ่นไทย นายสกลธี ภัทธิยกุล นายชนินทร์ รุ่งแสง นายอรรถวิทย์ สุวรรณภักดี เพื่อนำเงินไปคืน ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เพื่อนำเช็คจำนวน 2 แสนบาท มาคืน ปรากฏว่า เมื่อเวลา 14.00 น.คณะได้เดินทางไปคืนเงินที่สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศ ที่ถนนวิภาวดี แต่ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ ได้เดินทางออกจากสถานี เพื่อมาจัดรายการได้เดินทางไปที่บริษัท ฟาติมา บรอดคาสติ้ง อินเตอร์แนลชั่นแนล จำกัด ซึ่ง ม.ล.ณัฏฐกรณ์ มีตารางจัดรายการในเวลา 14.30-15.00 น.
โดยคณะได้ไปดักรอพบ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ โดยได้ไปสอบถามฝ่ายผลิตรายการของบริษัทดังกล่าว แต่ได้รับแจ้งว่า ม.ล.ณัฏฐกรณ์ ติดธุระ ไม่สามารถจัดรายการได้ โดยแจ้งฝ่ายรายการว่า จะขอจัดรายการผ่านโทรศัพท์ หรือโฟนอิน แทน แต่คณะพรรคประชาธิปัตย์ไม่เชื่อ จึงขออนุญาตเจ้าหน้าที่ขึ้นไปตรวจที่ห้องจัดรายการ บริเวณชั้น 5 ของอาคารดังกล่าว ปรากฏว่า ม.ล.ณัฏฐกรณ์ ไม่มาจัดการจริง โดยเจ้าหน้าที่ในห้องส่ง ระบุว่า ม.ล.ณัฏฐกรณ์ ได้แจ้งมาก่อนหน้านี้ ประมาณ 30 นาที ว่า จะไม่มาจัดรายการด้วยตนเอง ทั้งที่ปกติแล้วจะมาจัดรายการด้วยตนเอง
จากนั้น เวลา 15.00 น.หลังจากที่ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ จัดรายการทางโฟนอินเสร็จ นายองอาจ ได้ขอเบอร์โทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ เพื่อจะติดต่อนัดแนะคืนเงิน ปรากฏว่า ม.ล.ณัฏฐกรณ์ ได้ปิดโทรศัพท์มือถือ นายองอาจ จึงได้ฝากข้อความผ่านมือถือ โดยระบุว่า “พรรคประชาธิปัตย์ได้นำเงิน 2 แสนบาท มาคืน หลังจากที่ คุณปลื้ม ระบุว่า เสียดายเงิน 2 แสน ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางนำเงินไปคืนที่ สวท.แล้ว แต่ไม่พบ จึงได้ตามมาที่บริษัท ฟาติมา แต่คุณก็ไม่มาจัดรายการ ผมจึงได้ฝากข้อความนี้ไว้ หากคุณได้รับข้อความนี้แล้ว กรุณาโทร.กลับหาผมด้วย หากคุณยังประสงค์ที่ต้องการที่คุณบ่นว่าเสียดายคืน ซึ่งพรรคยินดีนำเงินไปมอบคืนและพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ประสงค์จะรับเงินจากคนที่ไม่มีอุดมการณ์เดียวกันกับพรรค”
นายองอาจ กล่าวว่า นอกจาก ม.ล.ณัฏฐกรณ์ บ่นเสียดายเงิน ยังมีการพาดพิงพรรคประชาธิปัตย์ กรณีทำเอกสารชี้แจงสถานทูตในต่างประเทศ ว่า เป็นการวิจารณ์ประเทศไทย ซึ่งความจริงพรรคต้องการชี้แจงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่มีการบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อสังคมได้เข้าใจ ถือเป็นการปกป้องประเทศชาติ แต่ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ กับใช้สื่อของรัฐในการบิดเบือนข้อเท็จจริง และกล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้น อยากเรียกร้องบริษัทที่ผลิตรายการและสื่อของรัฐ ทบทวนการจัดรายการของ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ ด้วย
“การแสดงความเห็นเป็นสิทธิของแต่ละคน แต่ไม่ควรใช้สื่อรัฐมาบิดเบือนความจริง โดยไม่รู้ความจริง และไม่ควรใช้เวลาจัดรายการผ่านสื่อของรัฐมาระบายความใคร่ทางปาก โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง รับผิดชอบชั่วดี” นายองอาจ กล่าว
นายกรณ์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำเช็ค 2 แสนบาท พร้อมลายเซ็น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค และตน ในฐานรองหัวหน้าพรรคมาคืน พรรคประชาธิปัตย์รู้สึกซาบซึ้งกับเงินทุกบาททุกสตางค์ที่นำมาบริจาคให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ในการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง แต่ก่อนที่พรรคจะรับ พรรคได้มีการตรวจสอบว่า ผู้บริจาคมีอุดมการณืทางการเมืองที่สอดคล้องกับพรรคหรือไม่ เมื่อปรากฏว่า ม.ล.ณัฏฐกรณ์ อุดมการณ์เปลี่ยนไปและแสดงอาการเสียใจต่อการมีส่วนร่วมของพรรค พรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมยินดีคืนเงิน
โดยวันนี้ ได้มีการตามตัว ม.ล.ณัฏฐกรณ์ มาตลอดแต่น่าเสียดายที่ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ กับหนีพวกเราจากสถานีหนึ่งไปอีกสถานีหนึ่ง ขอยืนยันว่า หากอยากได้เงินคืนพรรคเตรียมเช็คไว้พร้อมแล้วและหากพบตัวเมื่อใดก็พร้อมคืนเงินได้ทุกเวลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อค่ำวันที่ 21 ก.ค.2550 พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดงานระดมทุนของพรรค ภายใต้ชื่องาน “ร่วมสร้างอนาคตใหม่ เพื่อไทยทั้งแผ่นดิน” ที่ไบเทค โดยมีการจัดโต๊ะจีน จำนวน 400 โต๊ะ ราคาโต๊ะละ 1 แสนบาท ในครั้งนั้น ม.ล.ณัฏฐกรณ์ ได้ร่วมบริจาคซื้อโต๊ะ 2 แสนบาท แต่ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ ไม่ได้มาร่วมงานด้วย โดยในช่วงนั้นมีกระแสข่าวว่า ม.ล.ณัฏฐกรณ์ พยายามวิ่งเต้นเพื่อจะลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2550 โดยถึงกับได้เดินทางมีที่พรรคประชาธิปัตย์เพื่อพบกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และคณะผู้บริหารพรรคด้วยตัวเอง แต่ปรากฎว่าในการเลือกตั้งก็ไม่มีรายชื่อของ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ รวมอยู่ด้วย
วันนี้ (10 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล (คุณปลื้ม) ผู้ดำเนินรายการชื่อดัง ได้วิพากษ์วิจารณ์พรรคประชาธิปัตย์ ผ่านรายการวิทยุ FM 106.0 กรณีพรรคประชาธิปัตย์ไม่เข้าร่วมประชุมในวันแถลงนโยบายในวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา พร้อมทั้งระบุว่าเสียดายเงิน 2 แสน ที่ได้บริจาคให้กับพรรคประชาธิปัตย์
ล่าสุด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มอบหมายให้ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.กทม. นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.กทม.รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย ส.ส.กทม.ส่วนหนึ่ง อาทิ นายบุญยอด สุขถิ่นไทย นายสกลธี ภัทธิยกุล นายชนินทร์ รุ่งแสง นายอรรถวิทย์ สุวรรณภักดี เพื่อนำเงินไปคืน ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เพื่อนำเช็คจำนวน 2 แสนบาท มาคืน ปรากฏว่า เมื่อเวลา 14.00 น.คณะได้เดินทางไปคืนเงินที่สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศ ที่ถนนวิภาวดี แต่ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ ได้เดินทางออกจากสถานี เพื่อมาจัดรายการได้เดินทางไปที่บริษัท ฟาติมา บรอดคาสติ้ง อินเตอร์แนลชั่นแนล จำกัด ซึ่ง ม.ล.ณัฏฐกรณ์ มีตารางจัดรายการในเวลา 14.30-15.00 น.
โดยคณะได้ไปดักรอพบ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ โดยได้ไปสอบถามฝ่ายผลิตรายการของบริษัทดังกล่าว แต่ได้รับแจ้งว่า ม.ล.ณัฏฐกรณ์ ติดธุระ ไม่สามารถจัดรายการได้ โดยแจ้งฝ่ายรายการว่า จะขอจัดรายการผ่านโทรศัพท์ หรือโฟนอิน แทน แต่คณะพรรคประชาธิปัตย์ไม่เชื่อ จึงขออนุญาตเจ้าหน้าที่ขึ้นไปตรวจที่ห้องจัดรายการ บริเวณชั้น 5 ของอาคารดังกล่าว ปรากฏว่า ม.ล.ณัฏฐกรณ์ ไม่มาจัดการจริง โดยเจ้าหน้าที่ในห้องส่ง ระบุว่า ม.ล.ณัฏฐกรณ์ ได้แจ้งมาก่อนหน้านี้ ประมาณ 30 นาที ว่า จะไม่มาจัดรายการด้วยตนเอง ทั้งที่ปกติแล้วจะมาจัดรายการด้วยตนเอง
จากนั้น เวลา 15.00 น.หลังจากที่ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ จัดรายการทางโฟนอินเสร็จ นายองอาจ ได้ขอเบอร์โทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ เพื่อจะติดต่อนัดแนะคืนเงิน ปรากฏว่า ม.ล.ณัฏฐกรณ์ ได้ปิดโทรศัพท์มือถือ นายองอาจ จึงได้ฝากข้อความผ่านมือถือ โดยระบุว่า “พรรคประชาธิปัตย์ได้นำเงิน 2 แสนบาท มาคืน หลังจากที่ คุณปลื้ม ระบุว่า เสียดายเงิน 2 แสน ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางนำเงินไปคืนที่ สวท.แล้ว แต่ไม่พบ จึงได้ตามมาที่บริษัท ฟาติมา แต่คุณก็ไม่มาจัดรายการ ผมจึงได้ฝากข้อความนี้ไว้ หากคุณได้รับข้อความนี้แล้ว กรุณาโทร.กลับหาผมด้วย หากคุณยังประสงค์ที่ต้องการที่คุณบ่นว่าเสียดายคืน ซึ่งพรรคยินดีนำเงินไปมอบคืนและพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ประสงค์จะรับเงินจากคนที่ไม่มีอุดมการณ์เดียวกันกับพรรค”
นายองอาจ กล่าวว่า นอกจาก ม.ล.ณัฏฐกรณ์ บ่นเสียดายเงิน ยังมีการพาดพิงพรรคประชาธิปัตย์ กรณีทำเอกสารชี้แจงสถานทูตในต่างประเทศ ว่า เป็นการวิจารณ์ประเทศไทย ซึ่งความจริงพรรคต้องการชี้แจงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่มีการบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อสังคมได้เข้าใจ ถือเป็นการปกป้องประเทศชาติ แต่ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ กับใช้สื่อของรัฐในการบิดเบือนข้อเท็จจริง และกล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้น อยากเรียกร้องบริษัทที่ผลิตรายการและสื่อของรัฐ ทบทวนการจัดรายการของ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ ด้วย
“การแสดงความเห็นเป็นสิทธิของแต่ละคน แต่ไม่ควรใช้สื่อรัฐมาบิดเบือนความจริง โดยไม่รู้ความจริง และไม่ควรใช้เวลาจัดรายการผ่านสื่อของรัฐมาระบายความใคร่ทางปาก โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง รับผิดชอบชั่วดี” นายองอาจ กล่าว
นายกรณ์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำเช็ค 2 แสนบาท พร้อมลายเซ็น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค และตน ในฐานรองหัวหน้าพรรคมาคืน พรรคประชาธิปัตย์รู้สึกซาบซึ้งกับเงินทุกบาททุกสตางค์ที่นำมาบริจาคให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ในการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง แต่ก่อนที่พรรคจะรับ พรรคได้มีการตรวจสอบว่า ผู้บริจาคมีอุดมการณืทางการเมืองที่สอดคล้องกับพรรคหรือไม่ เมื่อปรากฏว่า ม.ล.ณัฏฐกรณ์ อุดมการณ์เปลี่ยนไปและแสดงอาการเสียใจต่อการมีส่วนร่วมของพรรค พรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมยินดีคืนเงิน
โดยวันนี้ ได้มีการตามตัว ม.ล.ณัฏฐกรณ์ มาตลอดแต่น่าเสียดายที่ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ กับหนีพวกเราจากสถานีหนึ่งไปอีกสถานีหนึ่ง ขอยืนยันว่า หากอยากได้เงินคืนพรรคเตรียมเช็คไว้พร้อมแล้วและหากพบตัวเมื่อใดก็พร้อมคืนเงินได้ทุกเวลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อค่ำวันที่ 21 ก.ค.2550 พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดงานระดมทุนของพรรค ภายใต้ชื่องาน “ร่วมสร้างอนาคตใหม่ เพื่อไทยทั้งแผ่นดิน” ที่ไบเทค โดยมีการจัดโต๊ะจีน จำนวน 400 โต๊ะ ราคาโต๊ะละ 1 แสนบาท ในครั้งนั้น ม.ล.ณัฏฐกรณ์ ได้ร่วมบริจาคซื้อโต๊ะ 2 แสนบาท แต่ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ ไม่ได้มาร่วมงานด้วย โดยในช่วงนั้นมีกระแสข่าวว่า ม.ล.ณัฏฐกรณ์ พยายามวิ่งเต้นเพื่อจะลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2550 โดยถึงกับได้เดินทางมีที่พรรคประชาธิปัตย์เพื่อพบกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และคณะผู้บริหารพรรคด้วยตัวเอง แต่ปรากฎว่าในการเลือกตั้งก็ไม่มีรายชื่อของ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ รวมอยู่ด้วย