“สมเกียรติ” เหน็บ “อนุพงษ์” มัวนั่งเป็นกลางดูตำรวจยิง ปชช.แขนขาดขาขาด พร้อมเผยตำรวจให้การในศาลติดกับดักตัวเอง พิรุธตั้ง กก.สอบคดีกบฏล่วงหน้าก่อนออกหมายจับ 2 เดือน ส่อผิด ม.200 ฐานกลั่นแกล้งผู้ต้องหาให้รับโทษสูงขึ้น มีโทษจำคุกตลอดชีวิต ลั่นฟ้องกราวรูดแน่ พร้อมเผย 5 แกนนำเคารพศพ “น้องโบว์” เย็นวันนี้
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย
เมื่อเวลา 22.40 น.วันที่ 9 ต.ค. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยหน้าทำเนียบรัฐบาล โดยได้แจ้งว่าในวันนี้ (10 ต.ค.) องค์กรผู้รักชาติรักประชาธิปไตยในจังหวัดนครราชสีมา ประกอบด้วย ภาคีมวลชนคนโคราช และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนครราชสีมา จะเดินขบวนทั่วเมืองนครราชสีมาและไปวางหรีดไว้อาลัยที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา และขณะนี้กำลังคิดว่าจะไปวางหรีดให้กับคนที่มีอำนาจในประเทศและบอกว่าตัวเองเป็นกลางดีหรือไม่
นายสมเกียรติได้กล่าวประชด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบกว่า ข้างซ้ายมีประชาชนถูกยิงแขนขาขาด น้องโบว์ถูกยิงเสียชีวิต สารวัตรเมธีถูกระเบิดตาย อีกด้านหนึ่งตำรวจกำลังยิง แล้ว พล.อ.อนุพงษ์ยังบอกว่าขอเป็นกลาง แล้วยังไม่พอ พอส่งทหารมาก็บอกว่ามาช่วยตำรวจ ทหารที่ส่งมาก็ถูกสั่งให้อยู่เฉยๆ เพราะต้องเป็นกลาง
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า ในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการ พล.อ.อนุพงษ์ ได้บอกว่า ทหารต้องวางตัวเป็นกลางอย่างยิ่ง ทั้งที่ตนเองรับเงินเดือนจากพสกนิกรของพระเจ้าอยู่หัว ได้ติดยศ ได้ดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยาไปแล้ว แต่พอมีขบวนการจาบจ้วง มีเว็บไซต์ดูหมิ่นสถาบันเป็นพันเว็บ ทั้งกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศก็ยังบอกว่าเป็นกลาง ขณะที่พันธมิตรฯ กลับถูกตั้งหาว่าโค่นล้มรัฐธรรมนูญ
ต่อมา นายสมเกียรติ ได้เล่าถึงการไปฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ในคดีการออกหมายจับ 9 แกนนำพันธมิตรฯ ในข้อหากบฏว่า พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ ไม่ได้มาฟังด้วย เนื่องจากยังไม่ทราบคำสั่งว่าจะออกมาอย่างไร คดีดังกล่าวเป็นคดีแดงเลขที่ 8627-8268/2551 ลงวันที่ 8 ตุลาคม 2551 แต่นำมาอ่านวันที่ 9 ตุลาคม ซึ่งสรุปได้ว่า เมื่อศาลอุทธรณ์พิจาณาแล้ว พนักงานสอบสวนตั้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 9 คนกระทำความผิดฐานกบฏ แต่ก็ยังไม่มีเหตุอันควรที่จะออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 9 คนในความผิดดังกล่าว เพราะเป็นการตั้งข้อกล่าวหาที่ค่อนข้างจะเลื่อนลอย จึงเพิกถอนกบฏ 9 คนให้มีอิสรภาพ
นายสมเกียรติกล่าวต่อว่า ในวันนี้ (10 ต.ค.) จะอ่านรายชื่อนักวิชาการที่ออกแถลงการณ์ด่าแกนนำและเรียกร้องให้ไปมอบตัว แต่เราไม่ยอมมอบตัวเพราะว่าข้อหาเกินจริง และถ้าเราไปมอบตัววันนั้น เราจะไม่มีวันประวัติศาสตร์ ในวันนี้ เราขอไว้อาลัยแด่นักวิชาการชาติสุนัข กระบือ มหาวิทยาลัย 6 ทุ่ม แห่งเชียงใหม่ และอีกหลายแห่งขอไว้อาลัยด้วย
นายสมเกียรติ ได้เล่าว่า ขณะที่ไปรับลูกสาวที่สนามบินดอนเมืองวานนี้ (9 ต.ค.) ได้มีตำรวจชั้นผู้น้อยยศสิบตรีเข้ามาไหว้และบอกว่าเป็นพันธมิตรฯ เพราะฉะนั้น เวลาพูดถึงตำรวจหลังจากนี้ ขอให้ด่าเฉพาะตำรวจทรราช เพราะตำรวจชั้นผู้น้อยเป็นพันธมิตรฯ จำนวนมาก บางคนบอกว่าต้องฟังอาจารย์สมเกียรติพูดทุกวัน ไม่เช่นนั้นจะไม่มีแรงถือปืน นอกจากนี้ ระหว่างอยู่ที่สนามบินมีคนของสหภาพฯ คนหนึ่งบอกว่าภรรยาของนายตำรวจที่ทำงานในสนามบินทุกวันนี้ต้องห่อข้าวไปกินเอง เพราะไม่มีใครนั่งกินด้วย นั่นแสดงว่ามาตรการลงโทษทางสังคมได้เกิดขึ้นแล้ว
นายสมเกียรติได้เล่าย้อนไปถึงการสู้คดีให้ถอนข้อหากบฏว่า เราได้ต่อสู้ในประเด็นที่ ตำรวจและพนักงานสอบสวนจับกุม พล.ต.จำลอง ในท้องที่ สน.สามเสน ตามกฎหมายแล้วจะต้องนำตัวส่ง สน.นางเลิ้งก่อน แล้วค่อยเอาไปที่ ตชด.ปุทมธานี แต่ตำรวจอ้างว่า ไม่สามารถรำมาที่ สน.นางเลิ้งได้ เพราะอยู่ใกล้กับพันธมิตรฯ
“เราต่อสู้ในศาลอีกว่า คุณจับในท้องที่ สน.สามเสน ทำไมไม่เอาพนักงานสอบสวนจาก สน.สามเสน สน.นางเลิ้งไปสอบสวนที่ ตชด.ด้วย ตำรวจได้ให้การต่อศาลว่า ไม่ต้องให้ สน.สามเสน สน.นางเลิ้งร่วมทำการสอบสวน เพราะได้มีการตั้งคณะกรรมการไว้สอบสวนล่วงหน้าตั้งแต่ 27 พ.ค.แล้ว ทั้งที่เราเพิ่งจัดชุมนุมวันที่ 25 พ.ค. แต่ตำรวจกลับตั้งข้อหากกบฏไว้รอแล้ว ทั้งที่กินน้ำยังไม่ถึง 3 ขวด หรือกินข้าวฟรียังไม่ถึง 10 กล่องเลย”
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า วันที่ 27 พ.ค.มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน แล้ววันที่ 27 สิงหาคม จึงมีการตั้งข้อหาและออกหมายจับ เท่ากับว่ามีการตั้งกรรมการสอบสวนไว้ล่วงหน้า 2 เดือน
“พอเราถามในศาล ตำรวจก็จนมุมก็บอกว่าตั้งกรรมการสอบไว้ล่วงหน้า ในนั้นมีคำสั่งที่เท่าไหร่ด้วย มีรายชื่อคณะกรรมการชุดเล่นงานกบฏ ตอนนี้ เราไปขอคำสั่ง ปรากฏว่าคำสั่งหาย เพราะอะไร มันกลัวจะถูกฟ้องตามมาตรา 200 ของประมวลกฎหมายอาญา ที่ระบุว่า พนักงานสอบสวน ถ้าแกล้งผู้ต้องหาให้ได้รับโทษสูงขึ้นมีโทษจำคุกตลอดชีวิต ตามมาตรา 200 เราจะฟ้องกราวรูด และจะมีหนังสือ ตำรวจฆ่าประชาชนอีก 5 ล้านเล่ม” นายสมเกียรติกล่าว
หลังจากนั้น นายสมเกียรติได้อ่านรายชื่อทีมทนายความ 13 คนที่ช่วยให้พันธมิตรฯ ชนะคดี อาทิ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ นายณัฐพร โตประยูร นายนิติธร ล้ำเหลือ นายนคร ชมพูชาติ เป็นต้น และขอสดุดีวีรชนคนกล้า ทั้งน้องโบว์ สารวัตรเมธี และผู้บาดเจ็บอีก 400 กว่าคน ซึ่งพันธมิตรฯ ได้เห็นชอบให้เงินช่วยเหลือเยียวยารวมแล้วประมาณ 3 ล้านบาท และในวันนี้ (10 ต.ค.) ตนและ พล.ต.จำลองจะไปเยี่ยมผู้ป่วยทุกคน และในตอนเย็นไปคารวะศพน้องโบว์ พร้อมกันทั้ง 5 แกนนำ
