xs
xsm
sm
md
lg

สภาทนายฯ ตั้งคณะทำงาน กม.ช่วยประชาชนถูกตำรวจทำร้าย

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

สภาทนายความ ออกแถลงการณ์ประณามความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง ระบุกฎหมายตาม รธน.ปี 50 บางมาตราส่งผลให้พนักงานสอบสวนลุแก่อำนาจทรมานกลั่นแกล้งข่มขู่ผู้ต้องหาได้ง่าย พร้อมเรียกร้องให้องค์กรกระบวนกายุติธรรม กล้าออกมาทวงคืนสิทธิเสรีภาพในการต่อสู้คดีอย่างเป็นธรรม บอกได้ตั้งคณะทำงานช่วยประชาชนสู้กรณีถูกทำร้ายจากตำรวจในคดีแพ่ง-อาญาเต็มที่

วันนี้ (10 ต.ค.) นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ ฐานะประธานคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย สภาทนายความ ได้ออกแถลงการณ์สภาทนายความ เรื่องอำนาจพนักงานสอบสวนที่ขัดรัฐธรรมนูญและขัดต่อกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง จากกรณีที่พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นในคดีที่กล่าวหาแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นกบฏและข้ออื่นๆ เป็นตัวอย่างให้เห็นถึงการใช้อำนาจที่เหลื่อมล้ำและไม่ชอบธรรมกับประชาชนที่สุจริต ซึ่งเรื่องนี้สภาทนายความไม่คัดค้านให้ความเห็นแย้งมาโดยตลอดว่ากระบวนการใช้อำนาจสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณความอาญาที่พนักงานสอบสวนมักอ้างเสมอว่าจะขออำนาจศาลให้คุมตัวผู้ต้องหา เป็นกรณีที่ไม่ชอบด้วยหลักนิติธรรมและขัดกับหลักกฎหมายโดยชัดแจ้ง สภาทนายความจึงขอแถลงการณ์มาเพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องโปรดพิจารณาไตร่ตรองและดำเนินการให้มีการบังคับใช้กฎหมายให้สมจริงตามหลักนิติธรรมและมาตรฐานสาลกทั่วโลก 7 ข้อ

1.สภาทนายความขอขอบคุณศาลยุติธรรมและศาลปกครองที่ทำให้การบังคับใช้กฎหมายในการสอบสวนและการตั้งข้อหาในคดีอาญา รวมทั้งการให้กำลังปราบปรามประชาชนที่ไม่ชอบยุติลงได้ในระดับหนึ่ง และขอขอบคุณและชื่นชมทนายความอาสาทุกท่าน โดยเฉพาะนายนิติธร ล้ำเหลือ ที่เป็นหัวหน้าคณะทำงาน รวมถึงผู้เสียหายและญาติที่ได้ช่วยผลักดันทำให้ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในคดีมีความกระจ่างชัดเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีของศาล

2.กรณีดังกล่าวตามข้อเท็จจริงที่ปรากฎในการพิจารณาคดีของศาล ทั้งศาลยุติธรรมและศาลปกครองนั้นได้ให้ความรู้ทางกฎหมายแก่ประชาชนว่าบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 66, 86, 87, 90 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 26, 28, 39 วรรค 2, 3 และมาตรา 40(4) ที่ให้พนักงานสอบสวนมีอำนาจยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ในระหว่างการสอบสวนที่ยังไม่เสร็จสิ้นนั้น เป็นเรื่องที่ทำให้ผู้ต้องหาหรือผู้ถูกควบคุมตัวเสียเปรียบ เพราะพนักงานสอบสวนมีอำนาจหาพยานหลักฐานมากล่าวอ้างผู้ถูกควบคุมตัวได้แต่เพียงฝ่ายเดียว ในขณะที่ผู้ต้องหาไม่มีโอกาสที่จะออกไปหาหลักฐานหรือรวบรวมหลักฐานเพื่อต่อสู้คคดี เป็นการเขียนกฎหมายที่เกิดขึ้นในสมัยยุคทรราชทางการทหารตั้งแต่ปี พ.ศ 2500 และเป็นกฎหมายที่มีความยติธรรมต่อประชาชน จนมีคำกล่าวกันว่า “เกิดเป็นคนไทยมีสิทธิติดคุกฟรี 84 วัน” เพราะหลังจากที่ปล่อยให้พนักงานสอบสวนไม่สามารถจะหาพยานหลักฐานได้แล้ว ก็ต้องยื่นคำร้องขอต่อศาลให้ปล่อยตัวไปโดยที่ไม่ได้คำตอบแทนใดๆ นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้าอย่างยิ่งที่มีกฎหมายอย่างนี้อยู่ในประเทศไทย

3.การมีกฎหมายตามข้อ 2 ข้างต้น ทำให้พนักงานสอบสวนลุแก่อำนาจและใช้กฎหมายนี้บีบบังคับผู้ต้องหาในความควบคุมของตนเอง มีการทรมานกลั่นแกล้งและข่มขู่ผู้ต้องหาทุกกระบวนการทุกวิธีการเพื่อให้ผู้ต้องหารับสารภาพ เพื่อต่อรองข้อหาใหญ่เป็นข้อหาเล็ก เพื่อต่อรองให้ตัวเองทำสำนวนได้ทันเวลาที่ขอฝากขังไว้ และกลัวว่าผู้ต้องหาจะฟ้องกลับ นี่คือสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นในกระบวนการยุติธรรมที่สภาทนายความเห็นว่าเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งและหยิบยกให้มีการแก้ไขและยกเลิกโดยรีบ่วนอย่าปล่อยให้เป็นไปไหม้ฟางเหมือนเรื่องที่ประเทศไทยไม่เคยดูแลเรื่องสิทธิของเด็ก โดยกว่าจะมีศาลเยาวชนที่คุ้มครองเด็กได้ก็ประมาณ 50 ปี เกือบครึ่งศตวรรษที่เด็กต้องติดคุกเดียวกันกับผู้ใหญ่ กว่าประชาชนจะมีสิทธิหาหลักฐานมาต่อสู้กับพนักงานสอบสวนเวลาผ่านไปประมาณ 50 ปี ก็ยังไม่สามารถแก้กฎหมายนั้นได้แต่อย่างไร

4.ความรู้ทางกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนอีกเรื่องหนึ่ง คือ การควบคุมตัวผุ้ต้องหาของพนักงานสอบสวนในประเทศไทยก็ขัดต่อหลักปฏิบัติสากลที่จะต้องควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้เฉพาะในที่ที่เป็นสถานที่ที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาเท่านั้น ไม่อาจจะไปควบคุมตัวในเรือนจำ ซึ่งเป็นสถานที่คุมขังนักโทษที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วได้โดยอ้างว่ามีการแยกแดนขังระหว่างผู้ต้องหา แต่ในทางปฏิบัติผู้ต้องหากับนักโทษก็อยู่ในเรือนจำเดียวกัน เป็นการปฏิบัติที่ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล และปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เรามักจะอ้างอยู่เสมอว่าไม่มีงบประมาณ แต่ 70 กว่าปีนับตั้งแต่ประเทศไทยใช้ระบอบประชาธิปไตย สิ่งเหล่านี้ก็ยังมีให้เห็นและสร้างความไม่เป็นธรรมให้กับประชาชนตลอดมา

5.สภาทนายความ ขอเสนอให้ทนายความผู้ประกอบวิชาชีพทนายความทุกท่าน เมื่อมีโอกาสยื่นคำร้องต่อศาลให้เสนอประเด็นข้อกฎหมายข้างต้นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมืองของประชาชนให้ต่อสู้ด้วยความเป็นธรรม ไม่ใช่ถูกควบคุมตัว แล้วให้โอกาสแต่เพียงฝ่ายเดียวหาหลักฐานมากล่าวหาใส่ตน และใคร่ขอให้ศาลทุกศาลที่ได้รับคำร้องได้ส่งประเด็นนี้ไปยังศาลรัฐธรรมนูญโดยด่วยเพื่อขอให้พิจารณา สภาทนายความเชื่อว่าหากได้มีการพิจารณาข้อกฎหมายตามหลักนิติธรรมและหลักกฎหมายที่ถือปฏิบัติเป็นหลักสากล โดยเฉพาะกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองที่ประเทศไทยเป็นสมาชิกก็จะนำมาซึ่งความยุติธรรมและการให้โอกาสประชาชนสู้อย่างเต็มที่ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่การผูกขาดที่เป็นผลทำให้เกิดการควบคุมตัวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายมากมาย รวมทั้งการปั้นและการจ้างพยานเท็จของพนักงานในชั้นสอบสวนที่ยังมีอยู่อย่างประจำในปัจจุบัน

6.สภาทนายความอยากเห็นความกล้าหาญขององค์การกระบวนการยุติธรรมที่จะคืนสิทธิเสรีภาพในการต่อสู้คดีอย่างเป็นธรรม พนักงานสอบสวนมีโอกาสสืบสวนผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยข้อเท็จจริงอยู่แล้ว แต่การที่มีบทบัญญัติให้พนักงานสอบสวนมีโอกาสควบคุมตัวทำให้ขี้เกียจทำงานและเกิดความมักง่ายในการสรุปสำนวน ทำให้เกิดโอกาสที่จะใช้อำนาจโดยมิชอบ ดังนั้นจึงขอให้หน่วยงานของกระบวนการยุติธรรมทุกหน่วยงานร่วมกันรับผิดชอบให้มีการดำเนินการแก้ไขกฎหมาย สภาทนายคาวมพร้อมที่จะเป็นผู้ให้ข้อมูลและแก้กฎหมายเพื่อประชาชนตลอดเวลา ขอให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภารวมทั้งสมาชิกพรรคการเมืองร่วมกันพิจารณาแก้ไขความไม่เป็นธรรม ความอยุติธรรมให้กับประชาชน เพื่อเป็นของขวัญให้กับประชาชนให้ทันภายใน 2552 โดยพร้อมเพรียงกัน

7.กรณีที่ประชาชนถูกรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ที่เกี่ยวข้องทำร้ายถึงแก่ชีวิตและบาดเจ็บสาหัสหลายร้อยรายนั้น สภาทนายความขอแจ้งว่าสภาทนายความได้จัดคณะทำงานเตรียมพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นคดีแพ่งคดีอาญาให้กับผู้ที่ต้องประสบเคราะกรรมเพราะการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจและรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรมในครั้งนี้ ขอให้บรรดาญาติและผู้ที่ได้รับความเสียหายติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ สนง.คณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย สภาทนายความ เลขที่ 7/89 อาคาร 10 ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กทม.10200 โทร.0-2-629-1430 ต่อ 112, 113 โทรสาร 0-2281-7611 ได้ตลอดเวลา หากมีข้อสงสัยสอบถามไปที่สภาทนายความ 0-2282-7722 ได้ทุกเมื่อ
ตำรวจรัวยิงไม่ยั้ง เพื่อให้ได้มาซึ่งการเข่นฆ่าประชาชน

สภาพที่น่าเวทนา ของประชาชนมือเปล่าถูกตำรวจเข้าสลายการชุมนุม เมื่อ 7 ต.ค. หน้าสภา
กำลังโหลดความคิดเห็น