xs
xsm
sm
md
lg

“ลุงจำลอง” เผยชีวิตในคุกไร้ปัญหา-ระบุผู้คุมล้วนเป็นพันธมิตรฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“จำลอง” จวกยับ “สมชาย” แค่จอมโกหก หลังจับมือ “ตำรวจ” แจงสังคม อ้างใช้เพียง “แก๊สน้ำตา” สลายการชุมนุม พร้อมยก “ผลตรวจแพทย์” ตบหน้า “นายกฯ” ระบุชัด บาดแผลของ ปชช.ที่ถูกทำร้ายไม่เกี่ยวกับแก๊สน้ำตา ท้าลั่นหากแน่จริงให้ยืนเป็น “เป้ายิง” ในระยะเผาขน เผยชีวิตในคุกไร้ปัญหา เหตุผู้คุมก็เป็นพันธมิตรฯ ไปไหนมีแต่เสียงเรียก “ลุงจำลอง” ไม่มีคำด่าอย่างที่เป็นข่าว

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พลตรีจำลอง ศรีเมือง ปราศรัย 

วานนี้ (9 ต.ค.) เมื่อเวลา 21.05 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นครั้งแรกหลังจากได้รับอิสระภาพจากข้อหากบฏ โดยกล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้อาวุธหนักสลายการชุมนุม เป็นเหตุให้ประชาชนเสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมากว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี กับนายตำรวจ ออกมาชี้แจงเป็นพัลวัน เรื่องใช้เพียงแก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมของพันธมิตรฯ แต่คำชี้แจงเหล่านั้นโกหก โดยเฉพาะนายสมชายที่บอกว่าจะไม่สลายการชุมนุม และที่เขาไม่สลายการชุมนุม เพราะเขากลัวว่าประชาชนจะลุกฮือขึ้นต่อสู้ อีกทั้งวันนี้ศาลปกครองได้ออกคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉินห้ามาตำรวจใช้ความรุนแรง ดังนั้น ขอให้พี่น้องประชาชนไม่ต้องกลัว และถ้ารัฐบาลอยากจะสลายการชุมนุมก็ทำได้เลย เพราะจะได้จบสิ้นเสียที

“ที่นายสมชายออกมาระบุว่า การสลายการชุมนุมนั้น เป็นการปฏิบัติการที่ไม่รุนแรง แต่แพทย์ซึ่งรักษาคนเจ็บออกมามาเปิดเผยว่า บาดแผลที่รักษาคนที่ไปร่วมชุมนุมนั้น ไม่ได้เกิดจากแก๊สน้ำตา อีกทั้งการยิงแก๊สน้ำตาตามหลักสากลที่นายสมชาย ระบุนั้น ก็ไม่ใช่วิธีการตามที่หลักสากลเขาใช้กัน ถ้านายสมชายแน่จริง ก็ขอให้มายืนแล้วให้ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาใส่ตัวในระยะเผาขน” พล.ต.จำลอง กล่าว

พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า ที่แย่ที่สุด คือ ตำรวจทำร้ายประชาชน ถ้าหากใครมีญาติเป็นตำรวจที่สลายการชุมนุม ขอให้ฝากไปบอกด้วยว่า หากแน่จริงให้ลงไปในพื้นที่ 3 จ.ชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ ตนผ่านสนามรบมามากมาย ถึงขนาดฆ่าต้องฆ่า จับต้องจับ และถ้าฆ่าศึกไม่มีอาวุธ เราก็ต้องจับ แต่ตำรวจที่สลายการชุมนุมกลับใช้อาวุธกับประชาชนมือเปล่า ฉะนั้นขอให้พี่น้องประชาชนไม่ต้องกลัวว่าจะโดนสลายการชุมนุม

หลังจากนั้น พล.ต.จำลอง กล่าวถึงเหตุการณ์ก่อนถูกจับกุมเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ว่า วันที่ตนตัดสินใจว่า จะไปลงคะแนนเลือกตั้งนั้น นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ได้มาปรึกษา ซึ่งตนก็บอกไปว่า ตนเป็นผู้ว่าฯ กทม.มาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังได้รับรางวัลแมกไซไซ ซึ่งมีตนคนเดียวเท่านั้นที่ได้รับรางวัลนี้ และนี่คือ เหตุผลที่ต้องไปลงคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.

“เมื่อผมไปถึงคูหาเลือกตั้ง ก็ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นไม่นาน ก็มีตำรวจมาเชิญตัว โดยตำรวจเหล่านั้นเป็นลูกศิษย์ของผมทั้งสิ้น โดยตำรวจที่มาควบคุมตัวต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า คนที่ออกหมายจับนั้น ไม่ใช่พวกผม คุณจำได้หรือไม่ นายตำรวจที่ไปเรียนกับผม 3 วัน 4 คืน โดยให้พวกคุณเดินป่า ปีนเขาไปในถ้ำ ผมยังตำหนิพวกคุณเลยว่า ทำไมถึงกระย่องกระแย่งกันขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ตนอายุกว่า 70 แล้ว ยังแข็งแรงอยู่เลย ซึ่งพวกเขาก็คงละเลยเพลงมาร์ชตำรวจ ที่ระบุว่า “แข็งกว่าเหล็กนั้น ตำรวจไทย” ไม่ใช่มาไล่ทำร้ายประชาชน โดยเฉพาะผู้หญิงกับคนชราที่มาชุมนุมอย่างนี้” พล.ต.จำลองระบุ

แกนนำพันธมิตรฯ เปิดเผยอีกว่า ตนบอกกับตำรวจในวันที่โดนจับว่าจะจับก็จับเลย อย่าคิดว่าเคยเป้นอาจารย์แล้วจะยกเว้น อย่าทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง โดยวันต่อมาตำรวจพาตนไปศาล โดยนำใส่รถที่มีลูกกรงแน่นหนา พร้อมทั้งใส่กุญแจมือ แต่ที่สำคัญ คือ ถึงอย่างไรตนก็ไม่หนีให้โง่อย่างแน่นอน และเมื่อศาลพิพากษาเสร็จสิ้น ตำรวจก็พาตนไปฝากขังที่เรือนจำลาดยาว โดยในวันรุ่งขึ้นตำรวจพาตนไปศาลอีกครั้ง แต่วันนั้นตำรวจไม่ยอมใส่กุญแจมือ เพราะกฎหมายบอกว่า ไม่สามารถใส่กุญแจมือคนที่อายุเกิน 60 ปีได้

“ผมไปถึงคุก ผู้คุมเป็นพันธมิตรฯ ทั้งหมด และเป็นกันทั้งครอบครัว ผมบอกกับผู้คุมขังว่า ต้องทำให้ผมเหมือนกับนักโทษทั่วไป ดังนั้นเขาจึงให้ผมเข้าไปนอนในห้องขังร่วมกับคุณไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ซึ่งถูกจับไปก่อนหน้านี้ โดยห้องขังดังกล่าวมีห้องน้ำทันสมัย คือ อยู่ติดกับที่นอน ส่วนห้องที่เขาพาผมไปนอนนั้น เขียนหน้าห้องว่า “ผู้ต้องขังเด็ดขาด” นั่นคือ ผู้ต้องหาที่ถูกตัดสินให้ถูกจำคุกสถานเดียว” พล.ต.จำลอง ระบุ

พล.ต.จำลอง เปิดเผยต่อว่า ตนกับนายไชยวัฒน์พิเศษกว่าคนอื่นๆ โดยผู้ต้องขังคนอื่นสามารถเดินไปไหนมาได้ แต่ตนกับ นายไชยวัฒน์ ถูกขอร้องให้ติดคุก 24 ชั่วโมง ส่วนที่มีการถามว่า ทำไมแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 9 คน ถึงไม่ไปมอบตัวตั้งแต่ต้น นั่นก็เพราะว่าเราไม่ยอมรับข้อหากบฏ ทั้งๆ ที่พวกเขานั่นแหละที่เป็นกบฏ ที่สำคัญวันนี้ศาลตัดสินแล้วว่า ข้อหากบฏที่เราถูกกล่าวหานั้น เลื่อนลอย รวมทั้งศาลยังรับรองว่า จะให้ประกันโดยไม่มีเงื่อนไข ฉะนั้นเราจึงประกันตัวออกมา

พล.ต.จำลอง กล่าวเตือนว่า พวกเราแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 7 คนที่เคยถูกออกหมายจับด้วยกันว่า จะต้องระวังตัวเอาไว้ ถ้าประกันตัวโดยไม่มีเงื่อนไข เราถึงจะยอมไปมอบตัว และตนถือว่า การที่เอาตนไปขังคุกนั้น คือการที่ตนแสดงละครในบทบาทนักโทษข้อหากบฏ และก่อนที่ตนจะออกมาจากคุก ตนได้คุยข่มผู้คุมเรือนจำว่า ตนตั้งใจที่จะขึ้นบ้านใหม่ในเรือนจำ จากนั้นผู้คุมจึงได้ออกปากเชิญให้ไปเลือกใช้ห้องขังเดี่ยว

“ผมบอกกับผู้คุมว่า ขอบคุณที่ช่วยเหลือให้ผมได้รับความสะดวก อีกทั้งที่มีข่าวว่าเวลาเดินไปทางไหน ก็มีคนตะโกนร้องด่า ซึ่งจริงๆ แล้วไม่มีใครด่า มีแต่ตะโกนว่า “ลุงจำลองครับๆ” ที่สำคัญผู้คุมเกือบทุกคน ทำความเคารพผมแทบทุกครั้งที่เจอกัน ผมอยู่ที่นั่นไม่มีปัญหา เพราะใช้เวลานั่งสมาธินานๆ ทำกายบริหาร และปฏิบัติธรรม ผมทราบดีว่า พวกเราเป็นห่วง เพราะรู้ว่าเมื่อไปลงคะแนนแล้วจะถูกจับ อีกทั้งคุณสนธิ ยังจัดรายการให้ ซึ่งไม่รู้ว่าไปเอารูปผมมาจากไหน ฉะนั้น เราต้องไม่กลัวการสลายการชุมนุม และต้องไม่ตกใจเสียงดังที่เกิดขึ้นจากอะไรก็ตาม” พล.ต.จำลอง กล่าวทิ้งท้าย















กำลังโหลดความคิดเห็น