“พิภพ” จวก “หมัก” นายกฯ จอมโกหกหลอกลวง บอกพันธมิตรฯ ต้านแก้ รธน.เพราะกลัวแก้ ม.63 ที่แท้ตนเองแอบร่าง กม.จัดระเบียบชุมนุมหวังจัดการกับพันธมิตรฯ ชี้การแต่งตั้ง “โกร่ง” เป็นที่ปรึกษา ขัดหลักธรรมาภิบาลและขัด รธน.มาตรา 84 เตรียมยื่นศาล รธน.ตีความพร้อม ร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบชุมนุม
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย
วันนี้ (4 ส.ค.) เมื่อเวลา 21.00 น. นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่สะพานมัฆวานฯ กล่าวถึงการชุมนุมของพันธมิตรฯ ที่ผ่านมามาถึง 71 วันว่า ส่งผลให้รัฐบาลนั้นสั่นคลอนอย่างมากและก็มีคนเห็นด้วยกับพันธมิตรฯ รวมทั้งในเรื่องการใช้ความรุนแรงนั้น ทุกคนเห็นเหมือนกันว่ารัฐบาลเป็นฝ่ายกระทำ ไม่ใช่พันธมิตรฯ และยังได้ชื่นชมความเสียสละของพันธมิตรที่จังหวัดอุดรธานีที่ไม่ใช้ความรุนแรงจนเห็นว่ารัฐบาลนั้นเป็นฝ่ายที่ใช้ความรุนแรงฝ่ายเดียว
นายพิภพ กล่าวต่อว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีพยายามเต้าข่าวว่าพันธมิตรฯ ต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพราะกลัวการแก้ไข มาตรา 63 ในเรื่องสิทธิการชุมนุม ซึ่งเมื่อเช้านี้ ตนได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า เราไม่เคยกลัว เพราะไม่คิดว่ารัฐบาลจะแก้มาตรานี้ เนื่องจากเป็นหลักสากลว่าด้วยสิทธิการจัดชุมนุมที่มีอยู่ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตั้งแต่ปี 2517 อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่าย จึงทราบว่า รัฐบาลได้เสนอร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบการชุมนุมที่ออกตามมาตรา 63 เข้าสู่สภาแล้ว จึงทำให้รู้ว่านายสมัครเป็นนายกฯ ที่โกหกหลอกลวงที่สุด ตอนแรกบอกว่าจะแก้ มาตรา 63 แต่แล้วก็ออกกฎหมายจัดระเบียบการชุมนุมมาเพื่อจัดการกับพันธมิตรฯ
โดยเฉพาะ เมื่อดูจากมาตราต่างๆ เห็นได้ชัดว่ามุ่งจัดการกับพันธมิตรฯ เช่น ห้ามชุมนุมบนพื้นผิวการจรจร ห้ามตั้งเวที ห้ามใช้เครื่องขยายเสียง ห้ามถ่ายทอดสด ห้ามมีจอฉายภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว ห้ามใช้ยานพาหนะ ห้ามเคลื่อนย้ายการชุมนุม เป็นต้น แต่ถ้าจะทำสิ่งเหล่านี้จะต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการก่อน ทั้งที่เรื่องของการชุมนุมนั้นเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนซึ่งไม่ต้องมีการขออนุญาตใดๆ ทั้งสิ้น ขณะเดียวกันรัฐบาลจะต้องอำนวยความสะดวกให้แก่การชุมนุมด้วย เช่นกรณีการชุมนุมที่ประเทศฝรั่งเศส จะมีการนัดวันล่วงหน้า แล้วแต่ละคนก็จะเตรียมตัวพร้อมรับกับการชุมนุม โดยยอมลำบากในบางเรื่อง เพื่อให้มีการแก้ไขในเรื่องที่สำคัญกว่า
ฉะนั้น จะเห็นได้ว่านายกฯ นั้นหลอกลวงประชาชนซึ่งไม่มีนายกประเทศใดในโลกที่โกหกเท่ากับนายสมัคร สุนทรเวช และเป็นนายกฯ ที่ไม่เคยขอโทษประชาชนเลย นอกจากนี้รัฐบาลนี้ยังเป็นรัฐบาลที่ถูกยื่นถอดถอนชื่อมากที่สุดรวมทั้งทำผิดรัฐธรรมนูญมากที่สุด
นายพิภพ กล่าวถึง การแต่งตั้งนายวีรพงษ์ รามางกูร เป็นประธานที่ปรึกษาของนายกฯ โดยที่ยังมีตำแหน่งในบริษัทเอกชนว่า เป็นการกระทำที่ผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 84 ที่ว่าด้วยรัฐต้องจัดให้มีการแข่งขันโดยเสรีและเป็นธรรม เพราะกรณีนี้ นายวีรพงษ์ สามารถเข้าไปนั่งในที่ประชุม ครม.ล่วงรู้ข้อมูลภายในของรัฐบาลทั้งยังอาจชี้นำรัฐบาลได้ด้วย บริษัทที่ไม่ได้จ้างนายวีรพงษ์เป็นที่ปรึกษาจะเสียเปรียบแน่นอน และเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักธรรมาภิบาล ไม่โปร่งใส นี่ต่างหากที่จะทำให้นักลงทุนต่างประเทศหวาดกลัว ไม่กล้าเข้ามาลงทุน ไม่ใช่เป็นเพราะพันธมิตรฯ หยิบมือเดียวจัดชุมนุมกลางกรุงตามที่นายวีรพงษ์กล่าวหา
นายพิภพ กล่าวต่อว่า ทั้งการออก พ.ร.บ.จัดระเบียบการชุมนุม และการแต่งตั้งนายวีรพงษ์ เป็นที่ปรึกษานั้น ขัดต่อรัฐธรรมนูญแน่นอน ดังนั้นพันธมิตรฯ จะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยทั้ง 2 เรื่อง
นายพิภพ กล่าวในตอนท้ายว่า การที่รัฐบาลพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือออกฎหมายเพื่อให้ตัวเองพ้นจากความผิดและเพื่อจัดการกับฝ่ายตรงข้ามนั้น สะท้อนว่ารัฐบาลกำลังสิ้นคิดและจนตรอกแล้ว