ผู้จัดการออนไลน์ - สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ กล่าวแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บและครอบครัว สดุดีครอบครัว “ระดับปัญญาวุฒิ” ที่สูญเสียบุตรสาว ยกย่องพันธมิตรฯ ผู้เสียสละคือ วีรชนเดือนตุลา รุ่นที่ 3 ยันจะไม่ให้อาชญากรปกครองประเทศอีกต่อไป
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย
วานนี้ (7 ต.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 23.00น. ณ เวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำเนียบรัฐบาล นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แสดงความรู้สึกเสียใจต่อผู้สูญเสียและครอบครัวผู้สูญเสียทุกคน โดยได้กล่าวสดุดีครอบครัวระดับปัญญาวุฒิ ที่บิดา คือ นายจินดา ระดับปัญญาวุฒิ ต้องสูญเสียบุตรสาวคือ น.ส.อังขณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือน้องโบว์ จากเหตุการณ์การทำร้ายประชาชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระหว่างที่เธอเดินอยู่บริเวณ ลานพระบรมรูปทรงม้า นอกจากนี้ภรรยาคือ นางวิชชุดา ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเข้ารักษาตัวที่ รพ.ศิริราชด้วย
นายสมเกียรติ กล่าวต่อโดยยกบทความชิ้นหนึ่งของนายสุวิชชา เพียราษฎร์ คอลัมนิสต์แห่งผู้จัดการรายวัน ที่ระบุว่า “ช่วงสายวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ประวัติศาสตร์การเมืองไทยต้องจารึกว่า ขณะที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ยืนอ่านแผ่นเอกสารที่คัดลอกต่อๆ กันโดยเรียกว่านโยบายรัฐบาลในรัฐสภานั้น ทางหนึ่งตำรวจที่ลงมือปฏิบัติการตั้งแต่เช้าตรู่ก็ยังไม่ได้หยุดยั้งที่จะใช้อาวุธร้ายแรงสลายการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่อาศัยสิทธิตามรัฐธรรมนูญอย่างสงบ สันติ อหิงสา ปราศจากอาวุธอยู่หน้ารัฐสภา”
ทั้งนี้ นายสมชายระบุว่า รัฐบาลชุดนี้สมควรแล้วที่จะถูกขนานนามว่า รัฐบาลสัตว์นรก เพราะในช่วงเช้า ขณะที่พิธีกรบนเวทีกำลังประกาศว่า สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถได้มอบทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 1 แสนบาทให้กับประชาชนกลุ่มพันธมิตรฯ ผู้ได้รับบาดเจ็บ ตำรวจก็กำลังเดินหน้าเข่นฆ่าประชาชนของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ ในเวลาเดียวกัน
“คุณเป็นนายกรัฐมนตรีกระหายเลือด คุณทนอยู่ได้อย่างไรที่ปล่อยให้ตำรวจชั่วยิงพสกนิกรของพระองค์ หลังจากพระองค์พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์มาแล้ว คุณปล่อยให้เขายิงได้อย่างไร ไอ้สัตว์นรก ไอ้อาชญากร ไอ้คนชั่วครองเมือง คุณมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร ...” นายสมเกียรติกล่าว
นอกจากนี้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ยังกล่าวด้วยว่า ขนาดทหารเสนารักษ์ ซึ่งเป็นหน่วยแพทย์พระราชทานของสมเด็จพระนางเจ้าฯ ที่มาคอยดูแลสถานการณ์ยังได้รับบาดเจ็บจากการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เขากล่าวต่อว่า วันนี้พวกเราได้รับรู้แล้วว่าประเทศนี้ได้ก่อให้เกิดวีรชนคนกล้ารักษาประชาธิปไตยเพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่งแล้ว และพันธมิตรฯ ทุกคนในวันนี้ได้กลายเป็นคนเดือนตุลาฯ เผ่าพันธุ์ที่สามของประเทศไทยไปแล้ว
จากนั้น หนึ่งในห้าแกนนำพันธมิตรฯ ได้อ่านหนังสือลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่ยื่นต่อ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ที่มีการอ้างถึงเหตุผล 5 ข้อ ทั้งยังเรียกร้องให้ พล.อ.ชวลิต ผู้เขียนหนังสือเรื่องขบวนการล้มปืน-ล้มทุน-ล้มเจ้า ที่กำลังบ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศ (อ่านต่อ : “ชวลิต” ลาออกพ้นรองนายกฯ แล้ว ชี้ ตร.ไม่สนองนโยบาย)
“ประชาชนไทยไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นผู้พ่ายแพ้ ใช่ไหมครับพี่น้อง เราจะไม่ยอมให้อาชญากรครองประเทศนี้อีกต่อไป” นายสมเกียรติกล่าวในตอนท้าย