“ประพันธ์” แฉแผนชั่ว “รบ.โจร” ลุอำนาจยัดข้อหากบฏให้ “พันธมิตรฯ”

“ประพันธ์” ปลุกกระแสธาร “พันธมิตรฯ” หลั่งไหลเข้ากรุงร่วมเผด็จศึก “รัฐบาลโจร” ครั้งสุดท้าย พร้อมยก “จำลอง-ไชยวัฒน์” ยอมเสียสละทุกอย่างถือเป็นวีระบุรุษตลอดกาล จวกยับ “ทายาทอสูร” ทรยศ ปชช. เพราะยอมให้มีการจาบจ้วงสถาบัน แฉแผนชั่วใช้อำนาจรัฐยัดข้อหากบฏให้ “แกนนำพันธมิตรฯ”

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายประพันธ์ คูณมี ปราศรัย 

วันนี้ (6 ต.ค.) เมื่อเวลา 22.30 น. นายประพันธ์ คูณมี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ขึ้นเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวถึงกรณีที่ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศ เดินทางเข้า กทม.เพื่อร่วมชุมนุมต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลว่า ขณะนี้พี่น้องพันธมิตรฯ ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ ต่างสนับสนุนการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ โดยพร้อมที่จะเดินทางเข้าร่วมชุมนุมอีกจำนวนมาก เพราะศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก แม้ชีวิตก็สามารถที่จะสละได้ และถ้าหาก 9 แกนนำพันธมิตรฯ เป็นกบฏ พวกเราที่ชุมนุมกันอยู่ก็พร้อมที่จะเป็นกบฏด้วย ฉะนั้นวันนี้จึงเป็นวันที่เราจะต้องร่วมกันเผด็จศึกรัฐบาล

“ผมเห็นพี่น้องทุกคนหน้าตายิ้มแย้ม และเห็นพี่น้องที่เดินไปยังหน้ารัฐสภา เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง และความเชื่อมั่นแห่งชัยชนะ โดยทุกคนไม่หวั่นไหว หรือหวาดกลัว ส่วนข้อหาตลกที่ตำรวจตั้งให้ 9 แกนนำพันธมิตรฯ นั้น ถือเป็นข้อหาตลกที่ตำรวจไทยทำกับพี่น้องประชาชน ซึ่งสะท้อนวุฒิภาวะของตำรวจ และที่น่าชื่นชมที่สุดคือ แกนนำพันธมิตรฯ ของเราไม่มีใครหวาดกลัวจนต้องร้องขอแต่อย่างใด และผมเชื่อมั่นว่า พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ จะเป็นวีระบุรุษของประชาชนตลอดกาล เพราะเขาเสียสละทุกสิ่งทุกอย่าง และพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกสิ่งทุกอย่าง” นายประพันธ์ กล่าว

นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า การที่ผู้นำของเราได้แสดงความกล้าหาญเช่นนี้ ช่วยสร้างความฮึกเหิมให้กับพี่น้องพันธมิตรฯ ที่จะร่วมกันต่อสู้ และการที่แกนนำพันธมิตรฯ ตัดสินใจให้แกนนำฯ รุ่น 2 ไปยึดรัฐสภา ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะแกนนำฯ รุ่น 1 ต้องเฝ้าทำเนียบฯ ส่วนประชาชนที่มาร่วมชุมนุมในครั้งนี้ ถือเป็นการชุมนุมที่เข้มแข็ง และยิ่งใหญ่ เพราะทุกคนอยู่ในระเบียบวินัย เชื่อฟังแกนนำฯ โดยจะมีการสับเปลี่ยนกำลังกัน เพื่อให้ทุกคนได้ไปรัฐสภา โดยต่อสู้กับรัฐบาลจนกว่าพวกเราจะได้ชัยชนะ ดังนั้นกำลังของเราต้องไม่พร่อง เพราะเป็นบทพิสูจน์ครั้งสุดท้ายว่าพี่น้องพันธมิตรฯ พร้อมที่จะสู้หรือไม่

“เราจำเป็นต้องอาศัยกำลังของพี่น้องพันธมิตรฯ ทั้งประเทศ มาร่วมกันชุมนุมตลอดวัน ตลอดคืน จนกว่าจะได้รับชัยชนะ โดยจะมีการสับเปลี่ยนกำลังกันตลอดเวลา จึงอยากกราบเรียนพี่น้องพันธมิตรฯ ทั่วประเทศว่า ขอให้ออกมาร่วมกันชุมนุม เพราะเราจะร่วมกันปฏิบัติการครั้งสุดท้าย ฉะนั้นวันนี้ จึงเป็นวันที่เรารอคอย จงถามตัวเองว่าพร้อมที่จะสละตัวเองเพื่อแผ่นดิน และพระเจ้าอยู่หัวแล้วหรือยัง” อดีต สนช.ระบุ

อดีต สนช.กล่าวต่อว่า คงไม่ต้องพูดซ้ำแล้วว่า รัฐบาลนี้ไม่ใช่รัฐบาลของประชาชน ที่สำคัญรัฐบาลนี้ไม่ใช่รัฐบาลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของระบอบทักษิณ เนื่องจากทรยศต่อประชาชน โดยปล่อยให้คนชั่วจาบจ้วง ทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ฉะนั้นรัฐบาลนี้จึงไม่มีสิทธิ์ที่จะปกครองประชาชน และประเทศนี้อีกต่อไป รวมทั้งไม่มีสิทธิ์ที่จะแสดงปาหี่แถลงนโยบายปกป้องประชาธิปไตย เพราะสิ่งนั้นเป็นเรื่องโกหก เราจึงไม่ยอมรับรัฐบาลนี้ เนื่องจากเราไม่ได้ใช้อาวุธ จึงไม่ใช่กบฏ และนี่คือมาตราขั้นเด็ดขาดที่สำคัญที่สุดของพันธมิตรฯ เพื่อหยุดรัฐบาลชั่วที่สืบเชื้อสายมาจากระบอบทักษิณ

“คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะไปทำความตกลงใดๆ และไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้อำนาจทางการเมืองไปในทางที่ไม่ชอบ นี่คือฉันทามติของพันธมิตรฯ และถ้ามี ส.ส.คนมาบอกว่า การชุมนุมที่รัฐสภา ถือเป็นการยึดเขตพระราชฐานนั้น ในความเป็นจริงแล้วถือว่าไม่ใช่ เพราะรัฐสภาไม่ใช่ที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ แต่เป็นที่ดินในทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์ ที่ทรงพระราชทานให้เป็นที่ทำการรัฐสภา เพื่อให้ฝ่ายนิติบัญญัติใช้ประชุมสภาเท่านั้น ฉะนั้นจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะมาบิดเบือนประชาชน” นายประพันธ์ กล่าว

นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า ในอดีตการชุมนุมที่หน้ารัฐสภาเกิดขึ้นมาโดยตลอด ที่สำคัญในยุคสมัยของ สนช. ได้มีกลุ่ม นปก. และประชาชนที่สนับสนุนระบอบทักษิณ เคยบุกเข้าไปยึดรัฐสภามาแล้ว ถามว่าทำไมถึงไม่เคยตั้งข้อหากบฏกับคนเหล่านั้น ฉะนั้นการชุมนุมที่หน้ารัฐสภาวันนี้ ถือเป็นการชุมนุมทางการเมืองของประชาชน เพื่อแสดงการคัดค้าน ปฏิเสธ และไม่ยอมรับรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เพราะเป็นสมุนหุ่นเชิดตัวใหม่ของระบอบทักษิณ นี่คือการชุมนุมทางการเมืองที่เข้มแข็ง และยิ่งใหญ่ เพราะรัฐบาลชุดนี้ซื้อเสียง และโกงเลือกตั้ง เพื่อโกงบ้านกินเมือง

“ฉะนั้น การตั้งข้อหากบฏกับพันธมิตรฯ จึงเป็นการใช้อำนาจรัฐโดยไม่ชอบ และเป็นนโยบายของนายสมชาย จากการยอมรับของผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และเขาคงคิดว่าเราจะไปชุมนุมกันที่หน้ากองบัญชาการนครบาล แต่เราหลอก เพราะเราตีไปทางตะวันออก คือไปยึดรัฐสภา แค่นี้ก็ถูกเราต้ม แผนการนี้ ต้องปรบมือให้กับแกนนำ และพี่น้องพันธมิตรฯ ทุกคน ที่ปกปิดความลับได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญ เราจะไม่ไปรบกวนอำนาจตุลาการ แต่อำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจบริหารนั้นล้มเหลว ดังนั้นเราจึงยอมไม่ได้” อดีต สนช.กล่าวทิ้งท้าย