00ในที่สุด"รัฐบาลทายาทอสูร" สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็เผยตัวตนออกมาอย่างล่อนจ้อน ว่าการเข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อรับช่วงสืบทอดอำนาจ ฟื้นฟู "ระบอบทักษิณ" และช่วยเหลือ"พี่เมีย" ให้พ้นคุก โดยมียุทธศาสตร์สำคัญคือ สร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองเพื่อนำไปสู่การ "นองเลือด"
00 เห็นชัดเจนจากพฤติกรรม "ตีสองหน้า" ที่ด้านหนึ่งก็พร่ำว่า ต้องการสร้างความสมานฉันท์ในบ้านเมือง แต่ในขณะเดียวกันก็ได้สร้างเงื่อนไข เพื่อโหมสถานการณ์ให้นำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงยิ่งขึ้น ทั้งเกมนอกสภา และเกมในสภา ก่อนจะถึงวันที่ 21 ต.ค.นี้ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง จะตัดสินคดีที่ดินรัชดา ซึ่งมีการเลื่อนมาจากวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยมี "แม้ว-อ้อ" สองคนผัวเมีย เป็นจำเลยสำคัญ
00 เกมในสภานั้นก็มี"ปาหี่"ประชุม 4 ฝ่าย ประกอบด้วย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา นายกรัฐมนตรี และผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งมีข้อสรุปร่วมกันว่า จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เพื่อตั้ง ส.ส.ร. ที่มีตัวแทนจากทุกภาคส่วนมายกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อการปฏิรูปการเมืองใหม่ สร้างภาพว่ากำลังโอนอ่อนผ่อนตามข้องเรียกร้องของพันธมิตรฯ ที่กำลังจะสร้าง"การเมืองใหม่"
00 แต่อีกด้านหนึ่ง "ชัย ชิดชอบ" ประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็เร่งบรรจุ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 "ฉบับนปก." ที่เสนอโดย "หมอเหวง โตจิราการ" เข้าสู่การพิจารณาของสภา ซึ่งร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับนปก.นี้ นอกจากจะลอกรัฐธรรมนูญปี 40 มาเกือบทั้งดุ้นแล้ว ยังมีเนื้อหาลิดรอนพระราชอำนาจ ยกเลิกองคมนตรี ยกเลิกองค์กรอิสระที่มีหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล และยกเลิกประกาศ คปค. ทั้งหมด เพื่อช่วยเหลือ "ทักษิณและพวกพ้อง" จากคดีความต่างๆ ที่กำลังเข้าสู่การพิจารณาของศาลและป.ป.ช. ในขณะนี้
00 "ชัย ชิดชอบ" อ้างว่า จำเป็นต้องบรรจุ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนปก. เพราะเสนอมาตามช่องทางที่ถูกต้อง ไม่บรรจุไม่ได้ ขณะที่ "สมชาย วงศ์สวัสดิ์" นายกรัฐมนตรี และรักษาการหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ก็อ้างว่า "ร่าง นปก." จะผ่านหรือไม่ผ่านเป็นเรื่องของสภา รัฐบาลไม่สามารถไปก้าวก่ายได้ อย่างดีก็แค่ปล่อยให้ ส.ส.ของพรรค "ฟรีโหวต" จะไปสั่งให้ "คว่ำ" คงไม่ได้
00 แนวโน้มว่า "ร่างนปก." จะผ่านหรือไม่ผ่าน ต้องจับตาที่การประชุมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งจะมีขึ้นในวันนี้ ตามที่ประธานสภาฯได้นัดหารือ แต่ก็พอจะคาดเดาได้ไม่ยาก เนื่องจากพรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตยก็กำลังดิ้นหนีการยุบพรรคอยู่ แน่นอน หากร่าง นปก. ผ่าน แนวคิดเรื่องแก้มาตรา 291 เพื่อตั้ง ส.ส.ร. มาปฏิรูปการเมือง ย่อมเป็นหมันไปโดยปริยาย
00 สำหรับเกมการเมืองนอกสภา ที่ก่อนหน้านี้มีแนวโน้มว่าจะหาข้อยุติกันได้ ตามแนวทางเจรจาเพื่อความสมานฉันท์ มีการพูดคุยกันทางโทรศัพท์ ระหว่าง"บิ๊กจิ๋ว" พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี กับพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ และมีแผนจะคุยกันอย่างเป็นทางการหลังรัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในสัปดาห์นี้
00 แต่แล้วแนวทางการเจรจาก็ถูกปิดตายไป หลังมีการจับกุม "ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์" เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ตามมาด้วยการจับกุม "พล.ต.จำลอง ศรีเมือง" เมื่อเช้าวันที่ 5 ต.ค. ระหว่างไปลงคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ซึ่งไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า รัฐบาลจงใจสร้างเงื่อนไข ที่จะนำไปสู่ความรุนแรงขึ้นมาอีกครั้ง และครั้งนี้ อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ถึงขั้นแตกหัก เลือดนอง ตามเป้าประสงค์ที่ได้วางไว้
00 แน่นอนว่า เมื่อมีการจับกุมระดับแกนนำพันธมิตรฯ ไปถึง 2 คน ย่อมเป็นการปลุกกระแสพันธมิตรฯ ให้มาชุมนุมกันเพื่อคัดค้าน "หมายจับที่ไม่ชอบธรรม" และขณะนี้พันธมิตรฯ จากทั่วประเทศ เรือนแสน เรือนล้าน ก็กำลังหลั่งไหลสู่ทำเนียบรัฐบาล ร่วมกันประกาศเจตนารมย์ คัดค้าน"อำนาจเถื่อน" ด้วยการชุมนุมโดยสันติ อหิงสา เพื่อเป็นการยืนยันว่า ไม่ยอมรับรัฐบาลที่ใช้อำนาจอย่าง "ไร้ยางอาย" นี้
00 บัดนี้ การเผชิญหน้าครั้งสำคัญ ระหว่างพันธมิตรฯ ที่ยึดเอา"ธรรมนำหน้า" ต่อสู้เพื่อธำรงไว้ซึ่งความถูกต้อง เพื่อพิทักษ์ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กับ"อสูรกาย" ปล้นชาติ ปล้นแผ่นดิน ที่พรางตัวอยู่ใต้ "เสื้อคลุมประชาธิปไตย" และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่การล้มล้างสถาบันสูงสุด ได้เริ่มเดินเข้าใกล้จุดแตกหักแล้ว
00 วิธีเดียวที่จะหยุดยั้ง "การนองเลือด" ตามที่ฝ่ายอสูร ซาตาน ต้องการ คือ ฝ่าย"ธรรมะ" ต้องออกมาร่วมกันยืนหยัด ยืนยันในสิ่งที่ถูกต้อง ด้วยการ "ใส่เสื้อเหลือง" ออกมาชุมนุมให้เต็มท้องถนน ทุกที่ ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ปฏิบัติการ "อารยะขัดขืน" หยุดทุกองคาพยพ ที่เป็นมือเป็นไม้ของเหล่า"อสูรกาย" ไม่ว่าจะเป็น ผู้ใช้แรงงาน รัฐวิสาหกิจ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ต้องออกมาร่วมประกาศสัจธรรมว่า "ธรรมะ ย่อมชนะอธรรม"
00 เห็นชัดเจนจากพฤติกรรม "ตีสองหน้า" ที่ด้านหนึ่งก็พร่ำว่า ต้องการสร้างความสมานฉันท์ในบ้านเมือง แต่ในขณะเดียวกันก็ได้สร้างเงื่อนไข เพื่อโหมสถานการณ์ให้นำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงยิ่งขึ้น ทั้งเกมนอกสภา และเกมในสภา ก่อนจะถึงวันที่ 21 ต.ค.นี้ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง จะตัดสินคดีที่ดินรัชดา ซึ่งมีการเลื่อนมาจากวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยมี "แม้ว-อ้อ" สองคนผัวเมีย เป็นจำเลยสำคัญ
00 เกมในสภานั้นก็มี"ปาหี่"ประชุม 4 ฝ่าย ประกอบด้วย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา นายกรัฐมนตรี และผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งมีข้อสรุปร่วมกันว่า จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เพื่อตั้ง ส.ส.ร. ที่มีตัวแทนจากทุกภาคส่วนมายกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อการปฏิรูปการเมืองใหม่ สร้างภาพว่ากำลังโอนอ่อนผ่อนตามข้องเรียกร้องของพันธมิตรฯ ที่กำลังจะสร้าง"การเมืองใหม่"
00 แต่อีกด้านหนึ่ง "ชัย ชิดชอบ" ประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็เร่งบรรจุ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 "ฉบับนปก." ที่เสนอโดย "หมอเหวง โตจิราการ" เข้าสู่การพิจารณาของสภา ซึ่งร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับนปก.นี้ นอกจากจะลอกรัฐธรรมนูญปี 40 มาเกือบทั้งดุ้นแล้ว ยังมีเนื้อหาลิดรอนพระราชอำนาจ ยกเลิกองคมนตรี ยกเลิกองค์กรอิสระที่มีหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล และยกเลิกประกาศ คปค. ทั้งหมด เพื่อช่วยเหลือ "ทักษิณและพวกพ้อง" จากคดีความต่างๆ ที่กำลังเข้าสู่การพิจารณาของศาลและป.ป.ช. ในขณะนี้
00 "ชัย ชิดชอบ" อ้างว่า จำเป็นต้องบรรจุ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนปก. เพราะเสนอมาตามช่องทางที่ถูกต้อง ไม่บรรจุไม่ได้ ขณะที่ "สมชาย วงศ์สวัสดิ์" นายกรัฐมนตรี และรักษาการหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ก็อ้างว่า "ร่าง นปก." จะผ่านหรือไม่ผ่านเป็นเรื่องของสภา รัฐบาลไม่สามารถไปก้าวก่ายได้ อย่างดีก็แค่ปล่อยให้ ส.ส.ของพรรค "ฟรีโหวต" จะไปสั่งให้ "คว่ำ" คงไม่ได้
00 แนวโน้มว่า "ร่างนปก." จะผ่านหรือไม่ผ่าน ต้องจับตาที่การประชุมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งจะมีขึ้นในวันนี้ ตามที่ประธานสภาฯได้นัดหารือ แต่ก็พอจะคาดเดาได้ไม่ยาก เนื่องจากพรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตยก็กำลังดิ้นหนีการยุบพรรคอยู่ แน่นอน หากร่าง นปก. ผ่าน แนวคิดเรื่องแก้มาตรา 291 เพื่อตั้ง ส.ส.ร. มาปฏิรูปการเมือง ย่อมเป็นหมันไปโดยปริยาย
00 สำหรับเกมการเมืองนอกสภา ที่ก่อนหน้านี้มีแนวโน้มว่าจะหาข้อยุติกันได้ ตามแนวทางเจรจาเพื่อความสมานฉันท์ มีการพูดคุยกันทางโทรศัพท์ ระหว่าง"บิ๊กจิ๋ว" พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี กับพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ และมีแผนจะคุยกันอย่างเป็นทางการหลังรัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในสัปดาห์นี้
00 แต่แล้วแนวทางการเจรจาก็ถูกปิดตายไป หลังมีการจับกุม "ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์" เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ตามมาด้วยการจับกุม "พล.ต.จำลอง ศรีเมือง" เมื่อเช้าวันที่ 5 ต.ค. ระหว่างไปลงคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ซึ่งไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า รัฐบาลจงใจสร้างเงื่อนไข ที่จะนำไปสู่ความรุนแรงขึ้นมาอีกครั้ง และครั้งนี้ อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ถึงขั้นแตกหัก เลือดนอง ตามเป้าประสงค์ที่ได้วางไว้
00 แน่นอนว่า เมื่อมีการจับกุมระดับแกนนำพันธมิตรฯ ไปถึง 2 คน ย่อมเป็นการปลุกกระแสพันธมิตรฯ ให้มาชุมนุมกันเพื่อคัดค้าน "หมายจับที่ไม่ชอบธรรม" และขณะนี้พันธมิตรฯ จากทั่วประเทศ เรือนแสน เรือนล้าน ก็กำลังหลั่งไหลสู่ทำเนียบรัฐบาล ร่วมกันประกาศเจตนารมย์ คัดค้าน"อำนาจเถื่อน" ด้วยการชุมนุมโดยสันติ อหิงสา เพื่อเป็นการยืนยันว่า ไม่ยอมรับรัฐบาลที่ใช้อำนาจอย่าง "ไร้ยางอาย" นี้
00 บัดนี้ การเผชิญหน้าครั้งสำคัญ ระหว่างพันธมิตรฯ ที่ยึดเอา"ธรรมนำหน้า" ต่อสู้เพื่อธำรงไว้ซึ่งความถูกต้อง เพื่อพิทักษ์ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กับ"อสูรกาย" ปล้นชาติ ปล้นแผ่นดิน ที่พรางตัวอยู่ใต้ "เสื้อคลุมประชาธิปไตย" และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่การล้มล้างสถาบันสูงสุด ได้เริ่มเดินเข้าใกล้จุดแตกหักแล้ว
00 วิธีเดียวที่จะหยุดยั้ง "การนองเลือด" ตามที่ฝ่ายอสูร ซาตาน ต้องการ คือ ฝ่าย"ธรรมะ" ต้องออกมาร่วมกันยืนหยัด ยืนยันในสิ่งที่ถูกต้อง ด้วยการ "ใส่เสื้อเหลือง" ออกมาชุมนุมให้เต็มท้องถนน ทุกที่ ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ปฏิบัติการ "อารยะขัดขืน" หยุดทุกองคาพยพ ที่เป็นมือเป็นไม้ของเหล่า"อสูรกาย" ไม่ว่าจะเป็น ผู้ใช้แรงงาน รัฐวิสาหกิจ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ต้องออกมาร่วมประกาศสัจธรรมว่า "ธรรมะ ย่อมชนะอธรรม"
