xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรฯ เมิน “ปาหี่” รัฐบาลตั้ง ส.ส.ร. ชี้ยังมั่ว-ไม่รู้ทิศทาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พันธมิตรฯ ไม่สนปาหี่รัฐบาลหุ่นเชิดตั้ง ส.ส.ร.3 แก้รัฐธรรมนูญ แต่ “จำลอง” ยังให้โอกาสรอดูความชัดเจนใน 2-3 วันข้างหน้าหากมีคำยืนยันว่าไม่แก้ไขมาตราอื่นเพื่อฟอกผิดให้ตัวเองกับ “แม้ว” ค่อยมาว่ากันอีกที

วันนี้ (1 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงข่าวกรณีที่รัฐบาลจะบรรจุเรื่องการปฏิรูปการเมืองไว้ในร่างนโยบายนั้น พล.ต.จำลอง กล่าวว่าท่าทีของรัฐบาลในเรื่องการปฏิรูปการเมืองใหม่ พันธมิตรฯ เห็นว่ายังไม่มีความชัดเจนและยังไม่มีความแน่นอนว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 และมาตราอื่นๆ หรือไม่ ซึ่งเป็นท่าทีที่แตกต่างจากอธิการบดี 24 สถาบันที่มีความต้องการที่จะเข้ามาปฏิรูปการเมืองอย่างแท้จริง เพราะมีการกำหนด ขั้นตอนและระยะเวลาที่ชัดเจนมากกว่าทำให้เห็นว่าฝ่ายองค์กรอิสระมีความรวดเร็วและไม่ต้องการให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย

พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ทางพันธมิตรฯ จะต้องรอดูความชัดเจนจากรัฐบาลอีกครั้งใน 2-3 วันคงจะได้รายละเอียดจากฝ่ายรัฐบาลว่ามีความบริสุทธิ์ใจแค่ไหนในการปฏิรูปการเมืองใหม่ ซึ่งรัฐบาลจะต้องบอกมาให้ชัดเจนว่าจะไม่มีการแก้ไขมาตราอื่นเพื่อฟอกผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และแก้เพื่อประโยชน์ของพรรคพวกตนเองในกรณีการยุบพรรค

พล.ต.จำลอง ยังกล่าวอีกว่าในส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อแต่งตั้ง ส.ส.ร.3 นั้น ตอนนี้เป็นเพียงคำพูดของนายสมชาย วงค์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่ทราบว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะเห็นอย่างไร ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนี้และหากตั้ง ส.ส.ร.3 ขึ้นมาจริง ทางพันธมิตรฯ ก็จะไม่เข้าร่วมแน่นอน เพราะเป็นเรื่องของรัฐบาลและรัฐสภาที่จะดำเนินการกันเอง

“พันธมิตรฯ เห็นว่า ขั้นตอนของรัฐบาลมีความล่าช้าเกินเหตุ เพราะนายสมชายก็บอกว่าเมื่อร่างเสร็จแล้วก็ต้องถามประชาชนทั้งประเทศก็คือการทำประชามติ ว่าเห็นด้วยหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องการจะซื้อเวลาหรือไม่นั้นตนไม่อยากวิจารณ์ ความจริงแล้วพันธมิตรฯ ต้องการให้ทุกภาคส่วน ทุกองค์กรทั่วประเทศที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริงมาช่วยกันเสนอแนวคิดการเมืองใหม่และมีองค์กรอิสระเป็นตัวกลาง โดยมีผู้หลักผู้ใหญ่ที่ประชาชนให้ความเชื่อถือเป็นประธาน ซึ่ง นายระพี สาคริก ยังไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ แต่นายแพทย์ประเวศ วะสี นายอานันท์ ปันยารชุน ตอบปฏิเสธไปแล้วก็ยังมีผู้ใหญ่ท่านอื่นมาเป็นประธานได้ เพราะเรื่องการเมืองใหม่เหมือนกับที่ นายแพทย์ประเวศ วะสี บอกว่าให้ภาคทุกส่วนหารือกันให้กว้างขวางที่สุด และสัจจะ ความถูกต้อง จะเป็นตัวเชื่อมทุกอย่างเข้ามาเองโดยที่ไม่ต้องมีใครมาบงการเพราะการเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมทุกกระบวนการเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุด และจะสามารถแก้ไขปัญหาการเมืองได้ตรงจุด คือ ปัญหาการซื้อเสียง การคอร์รัปชัน การผูกขาดอำนาจทุนนิยม ที่เป็นการเมืองเก่าที่ประเทศไทยจะไปไม่รอด ซึ่งตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่หลายฝ่ายเริ่มออกมาเห็นด้วยกับแนวทางการเมืองใหม่และต้องการจะปฏิรูปการเมือง” พล.ต.จำลอง กล่าว

ถามว่า หากรัฐบาลมีความชัดเจนว่าจะไม่แก้รัฐธรรมนูญมาตราอื่นและต้องการจะปฏิรูปการเมืองใหม่โดยใช้วิธีทางของรัฐสภา พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีท่าทีแน่นอน หากมีความชัดเจนออกมาทางพันธมิตรฯ จะประชุมหารือทันทีว่าทางพันธมิตรฯ จะดำเนินการต่อไปอย่างไร ทั้งนี้ แม้ว่ารัฐบาลแสดงอย่างชัดเจนว่าจะไม่แตะต้องมาตราอื่น พันธมิตรฯ ก็ยังปักหลักชุมนุมในทำเนียบรัฐบาลต่อไป เพราะพันธมิตรฯ ยังยืนยันข้อเรียกร้องเดิมว่ารัฐบาลจะต้องลาออกทั้งคณะเท่านั้น เราถึงจะยุติการชุมนุม เพราะฉะนั้น การอยู่หรือออกจากทำเนียบรัฐบาลไม่ใช่ประเด็นและไม่ใช่ปัญหา แต่อยู่ที่รัฐบาล หากมีความจริงใจที่ต้องการให้เกิดการปฏิรูปการเมืองใหม่ รัฐบาลลาออกแสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำความผิดที่ผ่านมา การเมืองใหม่ก็เกิดทันที เพราะความผิดของรัฐบาลชุดนี้เรารวบรวมไว้แล้วทั้งหมด 41 เรื่องซึ่งการชุมนุมของพันธมิตรฯ 130 วัน เรียกได้ว่าชนะแบบรายทางมาเรื่อย ขณะนี้กำลังจัดพิมพ์หนังสือรวบรวมความผิดของรัฐบาลแจกจ่าย

สำหรับกรณีที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุธ รองนายกรัฐมนตรีจะมาพูดคุยกับแกนนำพันธมิตรฯ วันที่ 9 ตุลาคมนี้ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า อาจจะเป็นเพียงการคาดเดาของทีมงานเพราะรัฐบาลจะแถลงนโยบายต่อสภาวันที่ 6-8 ตุลาคม ซึ่งวันที่ 9 ตุลาคม เป็นวันที่ว่างก็อาจจะมา แต่ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อมาจากทีมงานหรือจากรองนายกฯแต่อย่างใดว่าจะมาวันใดแน่ แต่หากท่านมาก็คงมาพูดคุยในเรื่องทั่วๆไปมากกว่าเรื่องการเมือง

ด้าน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า หากรัฐบาลต้องการปฏิรูปการเมืองจริงหากมีความจริงใจ เริ่มจากตัวนายกรัฐมนตรีได้ทันทีในฐานะที่เป็นน้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ ก็สามารถบอกให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศยกเลิกพาสปอร์ตแดงให้กับอดีตนายกฯ ทันที พร้อมกับนำตัวอดีตนายกฯ กลับมาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมของไทย ซึ่งที่ผ่านมาก็เห็นแล้วว่ารัฐบาลหมดความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศต่อไปเพราะเป็นต้นตอของปัญหาทุจริต คอร์รัปชัน ซื้อเสียง ดังนั้นอย่ามาเป็นเจ้าภาพในการปฏิรูปการเมืองเพราะจะให้มาแก้เพื่อให้พวกตนเองรอดและอยู่ในอำนาจได้ต่อไปอย่ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองใหม่เลยเพราะพวกนักการเมืองคือต้นตอของปัญหาของความสกปรก โสโครก ผลประโยชน์การเมืองน้ำเน่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้




กำลังโหลดความคิดเห็น