“รัฐบาลหุ่นเชิด” สุดด้าน ยกมติ “ที่ประชุม 4 ฝ่าย” บังหน้าจ่อตั้ง “ส.ส.ร.3” อ้างเฉยยึดโมเดล “สภาพัฒน์” เฉไฉตั้งคณะทำงาน-ศึกษาทั้ง 76 จังหวัดเป็น ส.ส.ร.ด้าน “ชัย” เรียก “อดีตแกนนำ นปก.” เข้าหารือพรุ่งนี้ ลั่นไม่สน ปชป.บอยคอตหากนำร่าง คปพร.ขึ้นพิจารณา
วันนี้ (6 ต.ค.) รายงานข่าวแจ้งจากห้องรับรองชั้น 2 อาคารรัฐสภา 1 ว่า ได้มีการประชุมร่วมกัน 4 ฝ่าย ประกอบด้วย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อหารือกรณีความขัดแย้งทางการเมือง หลังจากการประชุมร่วมกันเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่มีการหารือให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อเปิดให้มี ส.ส.ร.3 มาแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550
สำหรับการประชุมร่วมกัน ได้มีการเชิญหัวหน้าพรรคการเมืองที่มี ส.ส.ในสภาทุกพรรคร่วมหารือ ได้แก่ นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ส่วน พรรคชาติไทย มี นายนิกร จำนง รองหัวหน้าพรรคชาติไทย เป็นตัวแทน โดยใช้เวลาหารือร่วมกันประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง
จากนั้นเวลา 18.30 น.นายชัย แถลงว่า ที่ประชุมมีความเห็นสอดคล้องกันว่า จำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขตามแนวทางที่ 24 อธิการบดีเสนอ โดยเห็นพ้องกันว่า จะต้องตั้ง ส.ส.ร.เพื่อแก้วิกฤตบ้านเมือง โดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ซึ่งจะมีการตั้งคณะทำงาน โดยให้ทุกพรรคส่งตัวแทนพรรคละ 1 คน ส่วน ส.ว.จะให้ นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 เป็นตัวแทน เพื่อมาแสวงหา ส.ส.ร.จากนั้นเมื่อ ส.ส.ร.ดำเนินการเสร็จสิ้น ก็จะมีการทำประชามติตามแนวทางของ 24 อธิการบดี ทั้งนี้ ปัจจุบัน พ.ร.บ.พัฒนาการเมือง ได้ตั้งสภาพัฒนาการเมืองแล้ว ซึ่งในนั้นส่วนหนึ่งประกอบด้วย ตัวแทนประชาชนจังหวัดละ 1 คน รวม 76 คน ฉะนั้น จะให้คณะทำงานของทุกพรรคไปศึกษา ว่า บุคคลเหล่านี้มีความเหมาะสมที่จะเป็น ส.ส.ร.ในส่วนตัวแทนจังหวัดหรือไม่ ทั้งนี้ ที่ประชุม 4 ฝ่าย และหัวหน้าพรรคการเมือง จะหารืออีกครั้งในวันที่ 20 ต.ค.นี้ เพื่อที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
นายชัย กล่าวต่อว่า วันที่ 7 ต.ค.นี้ เวลา 12.00 น.นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ คปพร.จะมาพบตนที่รัฐสภา เพื่อหารือว่าจะทำอย่างไรกับร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของ คปพร.ที่ค้างในวาระการประชุมรัฐสภา ทั้งนี้ ตน และ นพ.เหวง ไม่มีอำนาจถอนร่างเอง เพราะเป็นการเสนอโดยประชาชน 70,000 กว่าคน แต่เป็นเรื่องสภาจะพิจารณาว่าจะรับหลักการหรือไม่ ซึ่งมีหลายวิธีที่จะดำเนินการกับร่างนี้ เช่น เมื่อตั้ง ส.ส.ร.แล้ว อาจนำร่างนี้มาพิจารณาร่วมกัน ทั้งนี้ ที่ประชุมระบุว่า อยากให้ร่างของ คปพร.พิจารณาประกอบกับการแก้ไขมาตรา 291 เพราะสังคมส่วนหนึ่งไม่เห็นด้วยกับร่างของ คปพร.สภาจึงต้องพิจารณาร่วมกันว่าจะหาวิธีอย่างไร
“ใจผมอยากให้แก้มาตรา 291 เป็นหลัก เพื่อมี ส.ส.ร.แล้วเอาร่างของ นพ.เหวง มาพิจารณาควบคู่กันไป แต่ก็อยู่ที่สภาจะพิจารณา ผมเชื่อว่า จะไม่มีการสอดไส้ เพราะสมาชิกรัฐสภาไม่มีใครโง่ ถ้าไม่ฉลาดก็คงไม่ได้เข้ามาในสภา ส่วนที่ฝ่ายค้านโจมตีว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ไม่จริงใจที่จะปฏิรูปการเมืองนั้น ผมคิดว่า นายกฯ จริงใจ เพราะวันนี้รัฐบาล และฝ่ายค้านไม่ได้ทะเลาะกันแล้ว เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เรามีหน้าเดียว คือ ไม่ได้มีสองหน้า” นายชัย กล่าว
ส่วนกรณีที่ พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า หากนำร่างของ คปพร.เข้ามา แล้วจะบอยคอตคว่ำร่างแก้รัฐธรรมนูญ นายชัย กล่าวว่า เป็นไปได้ เพราะต้องมีการอภิปรายเนื้อหากัน หลังจากพิจารณาการแถลงนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งเรื่องกรอบการเจรจาข้อตกลงชั่วคราวไทย-กัมพูชา เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนบริเวณปราสาทพระวิหาร นอกจากจะมีการเสนอปิดประชุม ก็จะทำให้ร่างของ คปพร.ค้างอยู่ในวาระการประชุม อย่างไรก็ดี ทุกพรรคยังไม่ออกความเห็นเรื่องนี้ แต่หลังวันที่ 20 ต.ค.น่าจะทราบระยะเวลาการแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 291 อย่างแน่นอน
เมื่อถามถึงพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่ยอมรับแนวทางการมี ส.ส.ร.3 เพราะจะเท่ากับช่วยเหลือพวกพ้องของตนเองนั้น นายชัย กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนไม่ไปล่วงละเมิดอธิปไตยใคร แต่ถ้าสภารับหลักการ ก็สามารถดำเนินไปตามกระบวนการ แต่ถ้าไม่รับก็จบ วันนี้ยังไม่ได้มีการพูดถึงการแก้ไขมาตราที่คนคัดค้าน แต่ตนเชื่อว่า ตอนนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายทีละนิด และข้อเสนอของ 24 อธิการบดี ก็ยังไม่ได้หายไป
ด้าน นายประสพสุข กล่าวว่า ที่ประชุมวันนี้ ยังไม่ได้วางกรอบว่า ส.ส.ร.จะมีกี่คน จะดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญกี่วัน เพียงแต่ตกลงว่า จะเอาโมเดลสภาพัฒนาการเมืองมาเป็นตุ๊กตา ส่วนที่ กลุ่ม 40 ส.ว.ค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งการตั้ง ส.ส.ร.3 และร่างของ คปพร.นั้น เรื่องนี้ ตนพยายามทำความเข้าใจกับ ส.ว.อยู่ เพราะสภาพัฒนาการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ มีตัวแทนมาจาก 76 จังหวัด และไม่ได้มีการวางตัวใครเอาไว้ รวมทั้งคนพวกนี้ ก็ไม่รู้ว่าใครจะเข้ามาเป็น ส.ส.ร.อีกทั้งขณะนี้ก็ยังไม่ทราบว่า จะเอาสมาชิกสภาพัฒนาการเมืองมาเป็น ส.ส.ร.หรือไม่ เพราะต้องรอคณะทำงานจากทุกพรรคไปศึกษา
