xs
xsm
sm
md
lg

“สมศักดิ์” ยกข้อกฎหมายโต้ ยัน “รบ.น้องเขย” กบฏตัวจริง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สมศักดิ์” เปิดรัฐธรรมนูญโต้ ชี้รัฐบาลต่างหากที่เป็นกบฏ เหตุทำผิดคำถวายสัตย์ปฏิญาณ ละเมิดรัฐธรรมนูญหลายมาตรา บริหารประเทศเพื่อตัวเอง ไม่บริหารเพื่อประเทศชาติและประชาชน จวกเข้าสู่อำนาจโดยวิธีการที่ขัดรัฐธรรมนูญ ยังหน้าด้านอยู่บริหารประเทศต่อ ถือเป็นกบฏในราชอาณาจักร

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ปราศรัย 

เมื่อเวลา 22.05 น.วันที่ 5 ต.ค. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวว่าตามที่หนังสือพิมพ์มติชนสุดสัปดาห์บอกว่าพันธมิตรฯ เหี่ยว เพราะไม่มีใครสนใจการเมืองใหม่นั้น วันนี้พิสูจน์ว่าเหี่ยวหรือไม่ เมื่อพี่น้องออกมากันจำนวนมาก และเมื่อมาแล้วจะต้องมีกิจกรรมให้ทำอย่างแน่นอน และต้องให้รู้ดีรู้ชั่วว่าใครรักชาติหรือขายชาติ

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ถูกจับถือว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่การต่อสู้กู้ชาติเรื่องใหญ่ อาจมีการรักห่วงใยกันเป็นธรรมดา โดยเมื่อคืนก่อนมีการคุยกันว่าจะไปเลือกตั้งหรือไม่ เพราะถ้าไม่ไปจะเสียสิทธิ ซึ่งพอถึงตอนเช้าตนตื่นขึ้นมาตั้งใจว่าจะออกไปใช้สิทธิ แต่พอทราบข่าวว่า พล.ต.จำลองถูกจับไปแล้ว จึงตัดสินใจที่จะไม่ไป ขออยู่กับพี่น้องสู้กับพวกมันดีกว่า

นายสมศักดิ์ ได้กล่าวถึงเล่ห์เหลี่ยมสารพัดที่รัฐบาลได้กระทำต่อพันธมิตรฯ โดยการกล่าวหาว่าพันธมิตรฯ เป็นกบฏ จึงมีการลงทุนเอาคนมาทุบตีเรา แล้วประกาศภาวะฉุกเฉิน พอเราไม่เลิกชุมนุมก็หาว่าเราเป็นกบฏเพื่อหาเรื่องจับเรา แต่พอมันไม่มีเหตุผล มันไม่ฉุกเฉิน ก็ต้องยกเลิกไปเองโดยที่เราไมได้ร้องขอ เช่นเดียวกับข้อหากบฏเราจะไม่ร้องขอให้ยกเลิก เพราะราไม่ใช่กบฏ คนที่กบฏคือรัฐบาล แล้วนักวิชาการที่เสนอให้นิรโทษกรรมให้เราแลกกับนิรโทษกรรมอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คนนั้น เราก็ไม่เอา

นายสมศักดิ์ ได้นำรัฐธรรมนูญ 2550 มาอ่าน ซึ่งมาตรา 3 ระบุชัดเจนว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา ของคณะรัฐมนตรี ศาล รวมทั้งองค์กรตามรัฐธรรมนูญ และหน่วยงานของรัฐต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม นิติธรรมคือยึดกฎหมายเป็นหลักและเป็นธรรมตามกฎหมาย

นอกจากนี้ ยังมีการะบุเรื่องสิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญในมาตรา 68 และถ้าใครที่ต้องการได้อำนาจรัฐโดยวิธีการที่ไม่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ประชาชนก็มีสิทธิต่อต้านโดยสันติวิธี ตามมาตรา 69 ในหมวดหน้าที่ของปวงชนชาวไทย มาตรา 70 ได้ระบุว่า บุคคลมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมาตรา 71 บัญญัติว่า บุคคลมีหน้าที่ป้องกันประเทศและรักษาผลประโยชน์ของชาติและปฏิบัติตามกฎหมาย

กฎหมายยังเขียนต่อว่า รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ บรรดากฎหมายข้อบังคับอันใดก็ตามที่ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับไมได้ ฉะนั้น การที่เราใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญถือว่าสูงสุดตามกฎหมายแล้ว และข้อหาที่ว่าเราเป็นกบฏนั้น เป็นไปได้อย่างไร แต่เมื่อมาดูรัฐบาล ปรากฏว่าไมได้ทำตามรัฐธรรมนูญมาตรา 175 คือไม่ทำตามคำถวายสัตย์ปฏิญาณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

มาตรา 175 เขียนว่า ก่อนเข้ารับหน้าที่ รัฐมนตรีต้องถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ ด้วยถ้อยคำ ดังต่อไปนี้ “ข้าพระพุทธเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดี ต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและ ประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ” แต่รัฐบาลนี้ไมได้ทำตาม บอกว่าจะซื่อสัตย์จงรักภักดี แต่กลับมีกรณีนายจักรภพ มีการยกพวก นปก.ไปบุกบ้านประธานองมนตรี แล้ววันนี้ยังปล่อยให้ไปนั่งอยู่ช่อง 11 ให้ข้อมูลเท็จแก่ประชาชนตลอดเวลา

คำปฏิญาณบอกว่า จะบริหารประเทศด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชนแต่กลับบริหารเพื่อพี่เขยและพรรคพวก ไม่ได้บริหารเพื่อประชาชน พิสูจน์จากพาสปอร์ตสีแดงยังไม่กล้าสั่งยกเลิกทั้งที่ พ.ต.ท.หนีคดีจนถูกศาลออกหมายจับ 4 หมายแล้ว นายจักรภพก็ยังไมได้ฟ้อง 2 ปีแล้วสืบยังไม่เสร็จ ทั้งยังให้ นปก.เอาร่างรัฐธรรมนูญไปยื่นนายชัย ชิดชอบ เพื่อฟอกผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณและไม่ให้มีการยุบพรรค ซึ่งเห็นได้ชัดว่าไม่ได้ทำเพื่อประชาชน แต่ทำเพื่อพวกเขาเอง

ที่สำคัญวรรคสุดท้ายที่บอกว่า “จะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ” ซึ่งถ้าจะรักษาไว้ จะแก้รัฐธรรมนูญเพื่อฟอกความผิดทำไม พิสูจน์ชัดว่าเขาไม่ได้ทำเพื่อประเทศชาติ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการทำผิดมาตรา 190 ของคณะรัฐมนตรีสมัยที่นายสมชายเป็นรองนายกฯ ที่ให้นายนพดล ปัทมะ ไปลงนามข้อตกลงให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งทำให้เราสูญเสียอธิปไตยโดยเจตนา

หน้าที่ของรัฐบาลตามมาตรา มาตรา 77 ระบุว่า ต้องรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติ แต่รัฐบาลนี้เอาอธิปไตยของชาติไปแลกกับผลประโยชน์ของระบอบทักษิณ แล้วอย่างนี้ใครเป็นกบฏ ใครทำผิดรัฐธรรมนูญ เรื่องนี้ศาลพิพากษาออกมาแล้วว่าผิดมาตรา 190 และจนบัดนี้ก็ยังไม่ได้ถอนแถลงการณ์ดังกล่าว ดังนั้นคำถวายสัตย์ปฏิญาณที่ว่า จะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ” จึงเป็นการกล่าวเท็จต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะว่าไม่ได้ทำตามรัฐธรรมนูญ

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงนายสมชาย วงสวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีด้วยว่า ไม่กล้าที่จะดำเนินคดีในเรื่องดังกล่าวนี้ รวมทั้งการพาตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาดำเนินคดี ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าไม่ได้ทำหน้าที่เพื่อประชาชนแต่ทำเพื่อพวกพ้องของตนเอง เห็นได้ชัดในกรณีที่ยกอธิปไตยไปให้แก่ประเทศกัมพูชา เป็นเรื่องที่ขัดแย้งต่อคำถวายสัตย์ฯ ที่ได้กล่าวไว้ว่าจะทำหน้าที่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ดังนั้นจึงเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า รัฐบาลนั้นเป็นกบฏต่อประเทศชาติ และการปกครอง

รัฐบาลนี้ทำผิดรัฐธรรมนูญหลายกรรมหลายวาระ และอีกไม่กี่วันก็จะถูกยุบพรรค แล้วมากล่าวหาว่าเรากบฏ จึงอยากให้ดูข้อกฎหมายมาตรา 113 ของประมวลกฎหมายอาญา คือ ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร อำนาจตุลาการ แบ่งแยกราชอาณาจักรหรือยึดอำนาจการปกครองส่วนใดส่วนหนึ่ง ผู้นั้นกระทำผิดฐานกบฏ

นายพิภพ กล่าวว่า การล้มล้างรัฐธรรมนูญถือว่าเป็นกบฏ แต่เรามาปกป้องรัฐธรรมนูญจะเป็นกบฏได้อย่างไร เมื่อเราทำหน้าที่ปกป้องชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์และระบอบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เมื่อเราทำตามรัฐธรรมนูญ จะมากล่าวหาว่าเราเป็นกบฏไม่ได้ การที่รัฐบาลทำผิดรัฐธรรมนูญแล้วยังดื้อด้านอยู่ ถือว่าล้มล้างรัฐธรรมนูญ ดังนั้นรัฐบาลนี้จึงเป็นกบฏต่อราชอาณาจักรไทย







กำลังโหลดความคิดเห็น