xs
xsm
sm
md
lg

“สมชาย” ฟิตประชุม ครม.วันนี้ เล็ง 8 ต.ค.แถลงนโยบายต่อสภา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คณะรัฐมนตรีชุด สมชาย 1
ผู้จัดการออนไลน์ – ครม.สมชาย1 ฟิตหลังถวายสัตย์ฯ เรียบร้อย ประชุม ครม.นัดพิเศษวันนี้ นัดถกนโยบายรัฐบาล แก้ปัญหาน้ำท่วม จัดงบประมาณเหลื่อมปี แย้มอาจพ่วงแบ่งงานรองนายกฯ-ตั้ง ขรก.การเมือง “สมพงษ์” ระบุวันนี้รู้นายกฯ ไปประชุมยูเอ็นหรือไม่ ด้าน “โกวิท” เข้ากระทรวงทำงานต่อ หลังกอดเก้าอี้ “มท.1” แน่น

วานนี้ (25 ก.ย.) ในเวลา 19.25 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร กองบัญชาการกองทัพอากาศ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงต่อสื่อมวลชน ภายหลังนำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ วังไกลกังวล จ.ประจวบคีรีขันธ์ (อ่านข่าว : “ในหลวง” ทรงเน้นย้ำ ครม.รักษาสัตย์เพื่อ ปชช.-บ้านเมือง) ว่า ตนได้นำ ครม.ซึ่งได้รับการโปรดเกล้าแต่งตั้ง เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นที่เรียบร้อย นับแต่นี้ไปสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ซึ่งจะปฏิบัติงานที่จำเป็นเร่งด่วนก่อน

ส่วนการปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบาย รัฐบาลจะต้องแถลงต่อรัฐสภาก่อนโดยรัฐบาลได้จัดทำร่างนโยบายเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยในวันที่ 26 ก.ย.จะมีการประชุมครม.นัดพิเศษเพื่อหารือเรื่องจัดทำนโยบาย ทั้งนี้จะมีการการตั้งคณะกรรมการที่มีตนเป็นประธาน มีรองนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการคณะกรรมการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นกรรมการ โดยคาดว่าจะเสร็จภายใน 2-3 วัน และไม่เกินวันที่ 8 ต.ค.หรือใกล้เคียงจะสามารถแถลงนโยบายต่อรัฐสภาได้

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวอีกว่า ในการประชุม ครม.จะมีการหารือเรื่องเร่งด่วนอีก 2-3 เรื่อง เช่นเรื่องการแก้ไขปัญหา และช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วม นอกจากนี้จะมีการแต่งตั้งข้าราชการเมืองบางตำแหน่งด้วย ส่วนการแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรีนั้นต้องทำให้รวดเร็ว เพราะรองนายกรัฐมนตรีทุกคนอยากจะทำงานกันแล้ว และจะหารือเรื่องนี้ในที่ประชุมด้วย

นายสมชาย กล่าวว่าด้วย ในการประชุม ครม.วันนี้ (26) จะมีการแจ้งเรื่องการใช้งบประมาณ เพราะช่วงเดือน ก.ย.อยู่ในช่วงปลายปีงบประมาณ และยังมีปัญหาการใช้งบประมาณเหลื่อมปี จึงจะแจ้งเรื่องดังกล่าวให้ ครม.รับทราบ

พรุ่งนี้รู้นายกฯ ไปยูเอ็นหรือไม่

ด้าน นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กระทรวงต่างประเทศ กล่าวถึงกำหนดการที่นายกรัฐมนตรีไทยจะเดินทางไปร่วมประชุมองค์การสหประชาติ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่าวันที่ 26 ก.ย.ตนจะเข้าทำงานในกระทรวงก่อน จึงจะทราบรายละเอียดว่าจะไปหรือไม่

“โกวิท” เข้ามหาดไทยทำงานต่อ

ก่อนหน้านั้นที่กระทรวงมหาดไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ กลับมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) อีกสมัย รวมถึงแต่งตั้งให้ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) และนายประสงค์ โฆษิตานนท์ กลับมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย(มท.3) นั้น ปรากฏว่าวานนี้ (25 ก.ย.) พล.อ.โกวิท ได้เดินทางเข้ามาทำงานยังกระทรวงมหาดไทยตามปกติ ตั้งแต่เวลาประมาณ 9.30 น.และกลับออกไปในเวลา 13.30 น. เพื่อเตรียมตัวเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชวังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยไม่มีการให้สัมภาษณ์ใดๆ ส่วนนายปรีชายังไม่ได้เดินทางเข้ามากระทรวงฯ และยังไม่มีการขนสิ่งของเครื่องใช้เข้ามาเก็บยังห้องทำงานแต่อย่างใด

ส่วน นายสุพล ฟองงาม รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ซึ่งเป็นอดีต รมช.มหาดไทย (มท.2) ได้ให้คณะทำงานข้าราชการ กว่า 30 คนเก็บเอกสารและของใช้ส่วนตัวในห้องทำงานออกไปเรียบร้อยแล้ว เนื่องจาก นายปรีชา รมช.มหาดไทยคนใหม่ จะเข้ามาทำงานในสัปดาห์หน้า พร้อมแต่งตั้งคณะทำงานชุดใหม่ ที่นายปรีชา จะเป็นผู้คัดเลือกเอง

นอกจากนี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย น้องชายนายเนวิน ชิดชอบ ได้ย้ายจากห้องทำงานจากนายสุพล ไปนั่งในห้องคณะทำงานรัฐมนตรีฯ ซึ่งเดิมเป็นห้องที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ โดยย้ายห้องที่ปรึกษาฯไปอยู่ห้องเลขานุการรัฐมนตรีฯ และให้ห้องเลขาฯย้ายเข้าไปอยู่ในห้องทำงานของ พล.ต.อ.โกวิท แทน

นายศุภชัย ใจสมุทร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า สาเหตุที่ย้ายห้องมาอยู่ในห้องของ พล.ต.อ.โกวิท เพราะจะได้เห็นความเคลื่อนไหวต่างๆ อีกทั้งห้องทำงานเก่าอยู่ห่างกันเกินไป จึงไม่สะดวกในการทำงาน อย่างไรก็ตาม การที่นายศักดิ์สยาม มาเป็นคณะทำงานรัฐมนตรีฯนั้น ไม่มีคำสั่งแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ เนื่องจาก นายศักดิ์สยาม อยู่ในบ้านเลขที่ 111 ซึ่งไม่สามารถเป็นข้าราชการการเมืองได้

บ้านนายกฯ สงบหลังหมดเวลาวิ่งเต้น

สำหรับความเคลื่อนไหวของนายสมชายก่อนที่จะเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ในวันที่ 25ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าที่บ้านพักนายสมชายในหมู่บ้านเบเวอร์ลี่ฮิลส์ ถนนแจ้งวัฒนะ เงียบเหงาลงอย่างเห็นได้ชัด แตกต่างจากช่วงการจัดทำบัญชีรายชื่อ ครม. ที่มีนักการเมืองตบเท้าเข้าออกอย่างคึกคัก โดยวันนี้ มีเพียงคณะบุคคลเข้าอวยพรประปราย ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการทหารที่นำกระเช้าดอกไม้มาอวยพร หลังทราบว่านายกฯ ควบ รมว.กลาโหมอีกหนึ่งตำแหน่ง

ต่อมา นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้เข้าพบนายสมชายเป็นเวลานานพอสมควร เพื่อนำร่างนโยบายที่นายสมชายมอบหมายให้ไปดำเนินการ มาให้นายสมชายตรวจสอบ ก่อนนำเข้าสู่การประชุมครม.ในวันที่ 26 ก.ย.นี้

นอกจากนี้ยังมี พล.ต.ท.พีรพันธุ์ เปรมภูติ อดีตเลขาธิการ ปปง.เข้าพบนานกว่า 1 ชั่วโมง กระทั่งเวลา 13.50 น.นายสมชายจึงออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ก่อนเดินทางออกมายังท่าอากาศยานกองบิน 6 ในเวลา 14.30 น. เพื่อร่วมถ่ายรูปกับ ครม.ใหม่ และเดินทางไปเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่พระราชตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในเวลา 17.00 น.

เผยร่างนโยบายรัฐบาลเสร็จแล้วเข้า ครม.ศุกร์นี้

นายสมชาย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการจัดทำนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภาก่อนการปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการว่า ขณะนี้นโยบายเสร็จแล้ว ผู้ที่จัดทำร่างได้นำตัวอย่างมาให้ดูแล้ว แต่เป็นเพียงเบื้องต้น นโยบายต้องทำร่วมกันทั้ง 6 พรรคร่วมรัฐบาล และพรุ่งนี้ในการประชุม ครม.จะแจ้งให้ที่ประชุมรับทราบถึงการจัดทำนโยบาย และจะมีคณะกรรมการชุดหนึ่งมาตรวจชำระในขั้นสุดท้าย ว่ามีอะไรขาดตกบกพร่องหรือไม่ โดยตั้งเป็นคณะกรรมการที่เป็นทางการ หลังจากนั้นจะแจ้งไปยังสภาฯ ว่าพร้อมจะแถลง ส่วนตัวพอใจแล้ว อย่างไรก็ตามนโยบายที่ทำทุกครั้งจะต้องตรวจให้รอบคอบ ต้องประชุมกันหลายครั้ง ซึ่งการจัดทำนโยบายครั้งนี้ยอมรับว่าได้นำรูปแบบเดิมมาดูประกอบ เพราะเดิมตนก็เป็นประธานจัดทำร่างนโยบายสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช

วอนดูผลงาน รมต.ก่อนแม้ผิดฝาผิดตัว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีเสียงท้วงติงว่า ครม.ที่ตั้งมาไม่ได้เป็นไปตามที่พูดว่าจะคำนึงถึงประโยชน์สูงสุด แต่เป็น ครม.ต่างตอบแทน นายสมชายกล่าวว่า ก็เป็นความเห็น ตนก็บอกแล้วว่าขอให้เขาลองทำงานดู ตนจะทำหน้าที่กำกับดูแล คอยติดตามการทำงานของ ครม.ทั้งหมด

เมื่อถามว่า ตำแหน่งสำคัญๆ เช่น พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกฯ จะให้มาดูแลงานด้านใด นายสมชายกล่าวว่า เวลานี้ยังไม่ได้แบ่งงานให้กับรองนายกฯ รอถวายสัตย์ก่อน จากนั้นจะแบ่งงานเพื่อความเหมาะสม

เมื่อถามถึงเหตุผลที่นำ พล.อ.ชวลิตกลับมาร่วม ครม.อีกครั้ง นายสมชายกล่าวว่า ท่านเคยเป็นนายกฯ รองนายกฯ มีประสบการณ์สูง คิดว่าคงจะช่วยรัฐบาลทำงาน รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นได้ในระดับที่ดี ท่านเคยผ่านมาหลายด้าน เป็นทั้งทหาร และเป็นอะไรต่ออะไรมากมาย

เมื่อถามว่า มีการวิจารณ์ว่าการตั้ง ครม.ครั้งนี้ผิดฝาผิดตัวหลายตำแหน่ง เช่น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุข นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ นายสมชายกล่าวว่า ก็โอเค บางทีอาจจะคิดว่าผิดฝาผิดตัว แต่ถ้าทำงานไปแล้วอาจจะคิดว่าดีกว่าก็ได้

เมื่อถามว่า การตั้ง ครม.ครั้งนี้เพื่อรองรับการเลือกตั้งที่อาจเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ นายสมชายกล่าวว่า การเลือกตั้งใครจะไปรู้ว่าเกิดเร็วๆ นี้ หรือเมื่อไหร่

เมื่อถามว่า การตั้ง พล.อ.ชวลิตเพื่อรองรับพรรคการเมืองใหม่ที่จะเกิดขึ้นหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องพรรคการเมือง ขอให้ท่านมาร่วม เพราะ ครม.จะต้องมีผู้ที่มีประสบการณ์ มีอะไรต่ออะไรให้ดี

ลั่นไม่ให้ปัญหาภายในพรรคบั่นทอนการทำงาน

เมื่อถามว่าจะจัดการความไม่พอใจจากกลุ่มต่างๆ ในพรรคอย่างไร นายสมชายตอบว่า การจัด ครม.แต่ละครั้งไม่มีใครได้ 100 เปอร์เซ็นต์ คนมันเยอะ จัดได้ดีที่สุดก็ทำไป บางท่านอาจดีใจ แต่บางท่านอาจไม่สบายใจ คิดว่าในทางการเมืองมันก็เป็นอะไรที่ต้องเดินไป พรรคก็ต้องเดินไป การบริหารบ้านเมืองก็ต้องเดินไป อะไรที่ไม่ได้ตามมุ่งหมาย 100 เปอร์เซ็นต์ ก็มีความเป็นไปได้ที่ท่านจะเกิดความรู้สึกไม่สบายใจ แต่อยากจะขอว่าเราจะต้องมองดูว่าบ้านเมืองจะต้องเดินต่อไป คงจะไม่เอาเรื่องนี้มาบั่นทอนการทำงาน เชื่อว่าทุกท่านจะเข้าใจดี จะพยายามจัดการทุกเรื่อง เพราะเป็นสิ่งที่ต้องทำ คิดว่าอะไรๆ ก็ต้องพูดกันด้วยเหตุด้วยผล งานก็ต้องทำไป ท้อถอยไม่ได้ ต้องทำความเข้าใจช่วยๆ กันไปคนละฝ่าย

ต่อข้อถามว่า ส.ส.ในสภาโดยเฉพาะฝ่ายค้านเริ่มออกมามาตรวจสอบรัฐบาลชุดใหม่แล้ว นายสมชากล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ ส.ส.มีหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเหตุผล

เมื่อถามว่า การตั้ง ครม.ครั้งนี้เมื่อนับจำนวนแล้วปรากฏว่าภาคเหนือได้รับมากที่สุด นายสมชายตอบว่า “ผมไม่ได้คำนึงถึงว่าได้มากน้อย แต่ดูที่ความเหมาะสม ก็มีที่อาจจะถูกมองว่าตรงนั้นได้มากได้น้อย แต่บางครั้งเราให้คนนี้ไม่ได้ก็บอกว่าคราวหน้านะ ก็พูดไป มันก็มีเหลื่อมล้ำกันไป เวลาจัดก็อย่างนี้ มันก็ไม่ได้ดั่งใจ”

เมื่อถามกรณีที่ฝ่ายค้านตั้งฉายาว่า ครม.พี่เมีย นายสมชายหัวเราะก่อนตอบว่า ครม.สมชาย 1 ดีกว่า

ไม่ขีดเส้นรีบเร่งประเมินผลงาน รมต.

เมื่อถามว่า นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช เป็นรมว.คลัง ไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้น จะแก้ปัญหาอย่างไร นายกฯกล่าวว่า เดี๋ยวให้ท่านพยายามทำงานให้เกิดความเชื่อมั่น ตนจะกำชับท่าน เมื่อถามถึงเหตุผลที่นำนายโอฬาร ไชยประวัติ มานั่งรองนายกฯขกำกับดูแลด้านเศรษฐกิจ นายสมชาย กล่าวว่า คิดว่าท่านจะช่วยได้ มากน้อยแค่ไหนก็ต้องให้แสดงออกมา ต่อข้อถามถึงการตั้ง รมว.ศึกษาธิการมาเพียงคนเดียวทั้งที่งานมีเยอะ นายสมชายกล่าวว่า ช่วงที่ตนเป็น รมว.ศึกษาธิการได้ทำงานพื้นฐานไว้เยอะ เมื่อดูแล้วก็สามารถทำงานคนเดียวไปก่อนได้ เมื่อถามว่า นายศรีเมือง เจริญศิริ รมว.ศึกษาธิการ ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาจะทำงานได้จริงหรือยนายสมชายกล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญในกระทรวงก็มีอยู่เยอะ ใช้งานได้ ตอนที่ตนไปก็มีคนบอกว่าตนไม่ใช่นักการศึกษา แต่ก็ทำได้ เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่หลายภาคส่วนออกมาส่งเสียงยี้ กับครม.ชุดนี้ นายกฯ กล่าวว่า บอกแล้วว่าวิพากษ์วิจารณ์ได้ไม่เป็นไร แต่ลองให้ท่านทำงานดู เมื่อถามว่า ร.ต.อ.เฉลิมมีความเหมาะสมที่จะนั่งรมว.สาธารณสุขอย่างไร นายสมชายตอบว่า ลองให้ท่านทำดู ถ้าทำไปแล้วอาจจะคิดว่าเหมาะก็ได้ เมื่อถามว่า จะให้เวลารัฐมนตรีพิสูจน์ฝีมือนานเท่าไร ถึงจะประเมินผลได้ นายกฯ กล่าวว่า ต้องให้เวลา จะไปบังคับทีเดียวไม่ได้

ปัดให้ความเห็นควบ รมว.กลาโหม

เมื่อถามว่า นายกฯ ควบ รมว.กลาโหมด้วยเพราะอะไร นายสมชายตอบว่า เพราะต้องมี รมว.กลาโหมคนหนึ่ง เมื่อถามว่า ในพรรคก็มีนายทหาร คนนอกก็มีให้เลือกเยอะ ทำไมจึงยังต้องควบเอง นายสมชายกล่าวว่า ก็ลองดูแบบนี้ ตั้งไปอย่างนี้แล้ว

เมื่อถามว่าจะปรับปรุงทีมงานอย่างไร เพราะมีแต่ ตท.10 เต็มไปหมด นายสมชายตอบว่า ตอนนี้ชุดนั้นก็หมดไปแล้ว เดี๋ยวเข้าไปดูใหม่ ตนยังไม่ได้คิดว่าเป็นใคร เพราะตนก็ไม่ใช่คนที่อยู่ในวงการทหาร ก็คงจะไปปรึกษาหารือกันว่าจะทำอย่างไร

เมื่อถามว่าจะขับเคลื่อนนโยบายด้านความมั่นคงอย่างไร นายสมชายตอบว่า ความมั่นคงก็ประกอบจากหลายส่วน ทหาร ตำรวจ สมช. ก็ดูให้ประสานงานสอดคล้องกัน บูรณาการในการทำงาน

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาประชาชนผิดหวังเพราะเมื่อประเทศมีวิกฤตฝ่ายความมั่นคงกลับไม่ออกมาช่วยคลี่คลาย นายสมชายกล่าวว่า เราต้องช่วยกันทุกฝ่าย ก็พยายามทำความเข้าใจว่างานของบ้านเมือง ไม่ใช่ของฝ่ายใดฝ่ายเดียว

ไม่รู้ข่าวลือ “หมัก” ลาออก

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ในคดีหมิ่นประมาทนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ ทางพรรคจะเข้าไปช่วยเหลืออย่างไร นายสมชายกล่าวว่า เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ศาลตัดสินอย่างไรก็เคารพตามนั้น ท่านก็คงจะฎีกาต่อไป

เมื่อถามว่า มีข่าวลือว่านายสมัครจะลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค นายสมชายกล่าวว่า ตนยังไม่ทราบ

เมื่อถามว่า นายสมชายจะเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชนเองหรือไม่ นายสมชายตอบว่า นายสมัครยังอยู่

เมื่อถามว่า ในยุคของนายสมชายเป็นนายกฯ จะสามารถสร้างความสามัคคีของคนในชาติได้หรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า จะพยายาม
กำลังโหลดความคิดเห็น