อสส.ยื่นศาล รธน.ยุบพรรคชาติไทยแล้ว เผยหลักฐาน กกต.แน่นหนา พร้อมปัดทำงานล่าช้า อ้างเป็นไปตามขั้นตอนวอน ปชช.เห็นใจ แย้มหากไร้ปัญหาสามารถยื่นยุบ พปช.ได้ภายใน 10 ต.ค.นี้ การันตีถึงมือศาลฯแน่
วันนี้ (1 ต.ค.) นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ และนาย สุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล รองอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 ได้นำคำร้องพร้อมหลักฐานขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยยุบพรรคชาติไทยและเพิกถอนสิทธิกรรมการบริหารพรรค ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 237 รวมทั้งยื่นเอกสารเพิ่มเติมในคำร้องยุบพรรคมัชฌิมาธิปไตย จำนวน 4 ลัง ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากใช้เวลาตรวจสำนวนคำร้องประมาณ 30 นาที นายเศกสรรค์ กล่าวว่า คำร้องยุบพรรคชาติไทยมีจำนวน 56 แฟ้ม แยกเป็นคำร้องและเอกสารหลักฐานจำนวน 14 ชุดตามข้อกำหนดการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนของพรรคมัชฌิมาธิปไตยเป็นการยื่นเอกสารเพิ่มเติม 12 แฟ้ม เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางอัยการสูงสุดได้ทำสำเนาคำร้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญเพียง 10 ชุด จึงต้องมายื่นเพิ่มเติม ไม่ได้มีหลักฐานเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ทั้งนี้ คำร้องยุบ 2 พรรค อัยการสูงสุดมีความเห็นตรงกับ กกต.ที่เห็นควรยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาสั่งยุบโดยพิจารณาจากพยานหลักฐานในสำนวนการสอบสวนของ กกต.แล้วแน่นหนาสามารถดำเนินการได้ แต่จากนี้ไปจะต้องมีพยานมาให้การต่อศาลฯ กี่ปากก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะตุลาการ ซึ่งทางศาลจะเปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องยื่นคำร้องคัดค้านพร้อมยื่นบัญชีพยานหลักฐานและทำสำเนายื่นต่ออัยการสูงสุดในฐานะผู้ร้อง ก่อนจะเริ่มกระบวนการพิจารณาคดี แต่ขณะนี้ศาลยังไม่มีคำสั่งใดๆ ออกมา
นายเศกสรรค์ ยังกล่าวด้วยว่า ขอทำความเข้าใจต่อประชาชนที่มองว่าอัยการสูงสุดทำงานล่าช้าในกรณีนี้ ตามข้อเท็จจริงแล้ว กกต.ได้ยื่นเอกสารให้อัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยตนได้ทำเรื่องเสนอต่ออัยการสูงสุดเพื่อตั้งคณะทำงานร่วมเมื่อวันที่ 9 ก.ย. จึงไม่ใช่ความล่าช้า แต่เป็นการทำงานตามกำหนดเวลา เพราะต้องตรวจพยานหลักฐานจำนวนมาก รวมทั้งต้องแยกกันทำสำนวนระหว่าง 2 พรรค เพราะข้อเท็จจริงของการยุบ แตกต่างกัน ดังนั้น ขอให้เห็นใจอัยการสูงสุดด้วย
ส่วนการพิจารณาคำร้องยุบพรรคพลังประชาชนขณะนี้ คณะทำงานชุดที่มีนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ รองอัยการสูงสุด เป็นประธาน จะประชุมนัดที่ 2 ในวันที่ 2 ต.ค.นี้เวลา 14.00 น. ซึ่งจะมีความเห็นว่าควรสอบเพิ่มเติมและตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างอัยการสูงสุดกับ กกต.หรือไม่ คงต้องรอผลการประชุม แต่ตามเงื่อนเวลาที่กำหนดให้อัยการสูงสุดต้องพิจารณาคำร้องและยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 30 วันจะครบในวันที่ 12 ต.ค. ตรงกับวันอาทิตย์ ดังนั้น อัยการสูงสุดจะเร่งพิจารณาให้เสร็จ และถ้าไม่มีปัญหาก็จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญภายในวันที่ 10 ต.ค.นี้
นายเศกสรรค์ ยังกล่าวถึงการลาออกของนายสมัคร สุนทรเวช อดีตหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ที่มีผลให้กรรมการบริหารพรรคทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่งว่า คงต้องรอการพิจารณาของศาลว่าจะเห็นอย่างไร แต่ตามขั้นตอนแล้วจะต้องพิจารณาถึงการกระทำความผิดในช่วงที่ยังดำรงตำแหน่งอยู่ ส่วนที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนาย ยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคจะทำให้การพิจารณายุบพรรคพลังประชาชนง่ายขึ้นหรือไม่ คงต้องรอดูหลักฐานที่ กกต.เสนอมาก่อน หากชัดเจนครบถ้วนก็ไม่จำเป็นต้องตั้งคณะทำงานร่วมขึ้นมา