ปชป.เย้ย “สมชาย” ซื้อใจคนใต้ไม่ได้ ดักคอยกเหตุ “ชัย” ขู่

“เทพไท” ภูมิใจมีนายกฯ คนใต้ แม้อุดมการณ์ต่างกันเชื่อ “สมชาย ลมโชย” ซื้อใจคนใต้ไม่ได้ และไม่ส่งผลกระทบต่อฐานคะแนนเสียง เย้ยถึงเวลานับถอยหลังอายุรัฐบาลได้แล้ว อย่าหวังใช้ความสงบยุติความเคลื่อนไหว ดักคออย่ายกเลิกแผนเยี่ยมนครศรีฯ ยกเหตุ “ชัย” ถูกตะเพิดข่มขู่

วันนี้ (26 ก.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปที่ จ.นครศรีธรรมราช ในวันเสาร์ที่ 27 ก.ย.นี้ ซึ่งเป็น จ.บ้านเกิดของนายกฯ ว่า น่าเสียดายที่ ส.ส.นครศรีธรรมราช นั้นติดภารกิจไม่สามารถมาต้อนรับนายกฯ ได้ และนายกฯ ก็ไม่ได้ประสานมาล่วงหน้าก่อน ถือว่าเป็นการเดินทางฉุกละหุก แต่อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณนายกฯ ที่ให้ความสำคัญกับจังหวัดนครศรีธรรมราชตามคำแนะนำของตนที่เคยบอกไว้ก่อนหน้า ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายกเคยระบุว่าจะเดินทางไปที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อไปไหว้กระดูกบรรพบุรุษของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยาของนายกฯ แต่เมื่อตนได้ทักท้วงว่านายกฯ เป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราชและช่วงนี้อยู่ระหว่างมีงานบุญสารทจีน ทำบุญให้กับบรรพบุรุษก็น่าจะมาเคารพบรรพบุรุษของตนเองก่อน ซึ่งนายกฯ ก็ปฏิบัติตามที่ตนได้แนะนำไป ทั้งนี้ ตนหวังว่าจะมีประชาชนที่นิยมชอบนายสมชาย อาทิ เครือญาติและข้าราชการที่ถูกกำหนดให้มาต้อนรับ ก็หวังว่านายกฯ จะพบปะและให้คำมั่นสัญญากับชาวนครฯที่รอคอยการพัฒนาจังหวัดมาเป็นเวลาหลายปี ก็หวังว่าจะใช้ความเป็นคนนครฯที่มีโอกาสเป็นนายกฯ ได้กำหนดแผนพัฒนาให้จังหวัดมีความพร้อมเทียบเท่ากับจังหวัดอื่นๆ ที่เคยมีนายกรัฐมนตรีมาแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาธิปัตย์หวั่นไหวมากน้อยแค่ไหนที่พรรคการเมืองคู่แข่งที่เป็นคนใต้ได้รับตำแหน่งเป็นนายก ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คิดว่ากระแสที่ตอบรับนายสมชายในพื้นที่ภาคใต้น่าจะมีเฉพาะจังหวัดนครศรีธรรมราช และจะมีเฉพาะบางส่วน คือ กลุ่มเครือญาติ และกลุ่มคนที่ไม่เอาพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น แต่ถ้าเป็นแฟนประชาธิปัตย์พันธุ์แท้ก็เชื่อว่าจะสามารถแยกแยะได้ ในฐานะคนนครฯ กับในฐานะการเมืองระดับชาติ วันนี้คนนครฯคาดหวังว่านายสมชายจะทำประโยชน์ให้กับคนนครฯ ได้บ้าง แต่เท่าที่ทราบนายสมชายค่อนข้างผูกพันกับคนนครฯ น้อย เพราะนายสมชายได้ย้ายออกจากจังหวัดนครฯ นานแล้ว และไม่ค่อยได้เดินทางกลับไปยังพื้นที่

“ถ้าจะถามว่าประชาธิปัตย์หวั่นไหวหรือไม่ บอกได้เลยว่าไม่หวั่นไหวหรือหวาดกลัว เพราะเราเชื่อมั่นว่าพรรคยังเป็นที่ยอมรับของคนภาคใต้มายาวนาน เพียงแต่การที่นายสมชายได้รับเลือกให้เป็นนายกฯ ก็อาจจะทำให้สมาชิกพรรคพลังประชาชนมีชีวิตชีวาขึ้นมา หรืออาจจะมีขวัญกำลังใจที่จะทำกิจกรรมทางการเมืองขึ้นมาต่อสู้กับพรรคประชาธิปัตย์ แต่ถ้าดูจากฐานคะแนน ส.ส.ระบบสัดส่วนของพรรคพลังประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา เห็นว่าอยู่ในลำดับที่ไล่เลี่ยกับพรรคเพื่อแผ่นดิน และพรรคชาติไทย สำหรับคะแนน ส.ส.ระดับเขตนั้นคะแนนค่อนข้างห่างมากพอสมควร ดังนั้น ถึงแม้ว่านายสมชายจะเป็นนายกฯ คนใต้ แต่ก็เป็นเพียงนายกฯ คนใต้เท่านั้น ไม่สามารถครองใจคนใต้หรือเปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ของคนภาคใต้ได้ทั้งหมด” ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่คนในพรรคประชาธิปัตย์เองก็ยอมรับว่าการที่นายสมชายเป็นนายกฯ อาจจะมีผลต่อคะแนน ส.ส.ระบบสัดส่วนในการเลือกตั้งครั้งหน้า นายเทพไท กล่าวว่า คิดว่าถ้าหากคะแนนสัดส่วนของพรรคพลังประชาชนจะไปแย่งฐานเสียงของประชาธิปัตย์ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะคนที่ยึดมั่นประชาธิปัตย์ถึงยังไงเขาก็ยังคงยีดมั่นอยู่ แต่มีความเป็นไปได้ที่พรรคพลังประชาชนอาจจะไปแย่งฐานเสียงของพรรคการเมืองอื่นที่เป็นพรรคเล็กในพื้นที่ แต่คงไม่ถึงกับแบ่งคะแนนของประชาธิปัตย์ไป เพราะเราเชื่อมั่นว่าประชาธิปัตย์ยังคงเหนียวแน่นในฐานเสียงของตัวเอง อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าอาจจะมีประชาชนในพื้นที่ตอบรับนายสมชายบ้างแต่คงเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ เหมือนกับช่วงฮันนีมูน แต่คิดว่าหลังจากนี้ 2-3 เดือน ผลงานของนายสมชายคงจะปรากฏให้เห็นว่ามีมากน้อยแค่ไหน เพราะบุคลิกของนายสมชายที่ได้ฉายาว่า “สมชาย ลมโชย” ก็ทำงานในลักษณะเรื่อยๆ ไม่มีจุดเด่น ไม่สามารถที่จะสร้างความประทับใจให้กับประชาชนได้ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่คะแนนนิยมของนายสมชายอาจจะลดลง เพราะวันนี้เป็นช่วงที่นายสมชายมาเป็นนายกฯ ที่มีบุคลิกนิ่มนวล หลังจากที่เราเคยได้นายกรัฐมนตรีที่มีบุคลิกแข็งกร้าวมาแล้วจึงทำให้ภาพออกมาแตกต่างกัน จากแข็งมาอ่อนจึงทำให้ประชาชนตื่นเต้น ประทับใจ แต่หลังจากที่ความนิ่มนวลของนายสมชายสามารถแก้ปัญหาวิกฤตของชาติที่มีหลายปัญหาก็จะทำให้คะแนนของนายสมชายเสื่อมลงไปเรื่อยๆ

“นายสมชายจะใช้บุคลิกที่นิ่มนวลเพื่อหลีกเลี่ยงการตอบปัญหา ตั้งแต่สังคมตั้งคำถามเรื่องการปกป้องกระบวนการยุติธรรมที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเคยมาโจมตีกระบวนการยุติธรรมในต่างประเทศ แต่จนถึงวันนี้นายสมชายก็ยังไม่มีท่าทีในเรื่องนี้ รวมทั้งการตรวจสอบกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ได้ยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ ของนางสาวชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ บุตรสาวของนายกรัฐมนตรี แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนจากนายกรัฐมนตรีเช่นกัน และผมคิดว่าหลังจากนี้นายสมชายต้องตอบปัญหาของสังคมให้มากกว่านี้ ถ้านายสมชายจะใช้บุคลิกความสงบสยบความเคลื่อนไหวก็ไม่น่าที่จะแก้ไขปัญหาได้ เพราะประชาชนอาจจะเกิดความเบื่อหน่ายความเป็นผู้นำในลักษณะนี้ และบุคลิกนิ่มนวลของนายสมชายก็อาจจะทำให้ประชาชนประทับใจเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ จะนำมาใช้ตลอดช่วงเวลาที่เป็นนายกผมคิดว่าคงจะยาก” นายเทพไท กล่าว

ส่วนกรณีที่ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งถูกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.นครศรีธรรมราช ชุมนุมขับไล่ด้านหน้าโรงแรมทวินโลตัส จนทำให้นายชัยต้องหนีกลับ กทม.โดยต้องยกเลิกภารกิจสภาพบประชาชนว่า การออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ในพื้นที่นั้นตนคิดว่าเป็นการแสดงออกซึ่งสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน หากเป็นไปโดยสงบก็คิดว่าสามารถทำได้ แต่ถ้าเกินขอบเขตของกฎหมายคิดว่าเจ้าหน้าที่ของบ้านเมืองก็คงจะเข้ามาดูแล แต่ส่วนตัวไม่อยากให้เกิดปรากฏการณ์ในพื้นที่เพราะจะถูกกล่าวหาว่านักการเมืองอยู่เบื้องหลังการชุมนุมดังกล่าว ซึ่งในฐานะส.ส.จังหวัดนครศรีธรรมราชนั้นขอปฏิเสธว่าไม่มีนักการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์มาเกี่ยวข้อง เพราะการจัดกิจกรรมของสภาฯ ครั้งนี้มี ส.ส.ของประชาธิปัตย์เป็นประธานกรรมาธิการถึง 4 คณะ ที่เป็นเจ้าภาพจัดประชุมและเชิญนายชัยมาเป็นประธาน จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่พรรคประชาธิปัตย์จะสนับสนุนการกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ

“คิดว่ากลุ่มพันธมิตรฯ มีจุดยืนและแนวทางการเสดงออกของตัวเองอยู่แล้ว ยิ่งมีการประกาศของกลุ่มพันธมิตรในจังหวัดนครฯ ว่าพรุ่งนี้จะออกมาเคลื่อนไหวต้อนรับนายกรัฐมนตรีที่จะเดินทางกลับมายังบ้านเกิดในลักษณะแบบนี้ผมคิดว่าจะทำให้ภาพพจน์ออกมาดูไม่ดีนัก แต่ก็ไม่อยากให้นายกมองเรื่องนี้ว่าเป็นการต่อต้านของประชาชนทั้งจังหวัด เพราะไม่มีใครอยากเกิดความรุนแรง แม้จะมีการแสดงออกในลักษณะคัดค้านแต่ก็เชื่อว่านายกฯ ซึ่งเป็นนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งก็น่าจะเข้าใจถึงการแสดงออกตามวิถีทางประชาธิปไตย เป็นอย่างดีและไม่อยากให้ใช้เหตุการณ์ที่มีประชาชนมาต่อต้านนายชัยมาเป็นเหตุผลในการยกเลิกการเดินทางมา ขณะเดียวกันก็ไม่อยากให้รัฐบาลใช้อำนาจหรือความรุนแรงในการดำเนินการกับกลุ่มที่เห็นแตกต่างกับรัฐบาล” นายเทพไท กล่าว