ผู้จัดการออนไลน์ – “ประชาทรรศน์รายวัน” สื่อเทียมสาย “ยี้ห้อย” กระด้างกระเดื่องกับ “นายใหญ่” แค้นถูกตัดโควตารัฐมนตรี ต่อรอง ด้วยการอัด ครม.สมชาย 1 ระบุ “สุดยี้” เริ่มคุ้ยคดีทุจริตยา ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมช.มหาดไทย เผยเบื้องหลังยี้ห้อย ยังทรงอิทธิพลคุมสื่ออีกอื้อ รวมถึงช่อง NBT
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงหลายวันมานี้ หนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์รายวัน ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ที่เผยแพร่ข่าวสารในฝ่ายของ “ระบอบทักษิณ” และพรรคพลังประชาชน เป็นหลัก ได้มีแนวทางการนำเสนอข่าวที่ผิดแผกไปจากปกติ กล่าวคือ มีการลงข่าวโจมตีคณะรัฐมนตรีของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ที่เพิ่งได้รับการโปรดเกล้าฯ ในช่วงบ่ายวานนี้ (25 ก.ย.) อย่างต่อเนื่อง
โดย ประชาทรรศน์รายวัน ฉบับวันอังคารที่ 23 ก.ย.ลงข่าวพาดหัวว่า “สุดสมเพช ครม.ในฝัน พผ.รุมทึ้งเก้าอี้รัฐมนตรี 200 ล้าน” โดย โปรยข่าวระบุว่า “คลอดแล้วรัฐบาลในฝัน แต่น่าเศร้าใจข่าวสะพัด พผ.จ่าย 200 ล้านแลกเก้าอี้รัฐมนตรี แฉ! นายทุน “ป” จ่าย 103 ล้าน ให้กรรมการบริหารพรรค ขณะที่อดีตรัฐมนตรี “พ” รับปากจ่าย 200 ล้าน แต่จ่ายไม่ครบ เลยต้องชวดเก้าอี้ ลูกพรรค “เพื่อแผ่นดิน” ขย่มหัวหน้าพรรคถ่างขาควบ 2 เก้าอี้ไม่พอ ยังเอาคนนอกมาเป็นรัฐมนตรี เบียดโควตา ส.ส.ฉะ “สุวิทย์” ไร้มารยาท ชักเข้า-ชักออก ขณะที่ “สมชาย” ยังปรับโผจนนาทีสุดท้าย ท่ามกลาง ส.ส.พลังประชาชน ตำรวจ-ทหาร แห่เข้าบ้านจนหัวกระไดไม่แห้ง “เติ้ง” ออกโรงหนุน “สมชาย” ควบกลาโหม ยันชาติไทยไม่มีเกาเหลา”
วันถัดมา ประชาทรรศน์รายวัน ฉบับวันพุธที่ 24 ก.ย.ก็ลงข่าวโจมตีการจัดตั้ง ครม.อีกว่ามีการตั้งคนที่มีประวัติด่างพร้อยขึ้นมาดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย ซึ่งก็คือ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ส.ส.พรรคพลังประชาชน จังหวัดเลย มานั่งตำแหน่ง รมช.มหาดไทย โดยมีการพาดหัวว่า “ครม.ใหม่ยี้สุดๆ เอี่ยวทุจริตยา “ปรีชา” ก๊วน “เจ๊หน่อย” หวังฟอกขาวตัวเอง”
ขณะที่ในวันพฤหัสบดีที่ 25 ก.ย. ประชาทรรศน์รายวัน พาดหัวว่า “เปิดคำพิพากษามัด มท.2 “ปรีชา” แพทย์ชนบทจี้ตำรวจเอาผิด “ปรีชา” ขัด ม.157” ส่วนข่าวรองนั้น ก็เป็นการนำเสนอว่าภาคเอกชน และภาคธุรกิจนั้นรับไม่ได้กับรายชื่อคณะรัฐมนตรีของนายสมชาย โดยเนื้อข่าวตอนหนึ่งระบุถึงคำให้สัมภาษณ์ของ นายโอฬาร อุยะกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ กล่าวถึงรายชื่อคณะรัฐมนตรีในรัฐบาล “สมชาย 1” ว่า รู้สึกผิดหวัง เหมือนกับประชาชนถูกหลอกอีกครั้ง เพราะการตั้งรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญๆ ไม่ได้เอาคนที่มีความรู้ความสามารถ ที่เห็นประโยชน์ประเทศชาติและประชาชนมาเป็นตัวตั้ง แต่เอากลุ่มการเมืองความเกรงใจเป็นตัวตั้ง
“ภาคอุตสาหกรรม และประชาชนจึงไม่หวังอะไรกับรัฐบาลอีกแล้ว เชื่อว่า รัฐบาลอายุคงไม่ยาวนาน เมื่อภายในพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคยังไม่สงบอยู่ ความขัดแย้งภายนอกยังอยู่ แต่ความเสียหายที่เกิดกับประเทศคงจะประเมินค่าความเสียหายได้”
สำหรับการตั้ง ครม.ชุด “สมชาย 1” นี้ มีการตั้งข้อสังเกตจากสื่อมวลชนทุกแขนง ว่า ส.ส.ในกลุ่มของนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และผู้อยู่เบื้องหลังพรรคพลังประชาชน และแก๊งออฟโฟร์หลายคนนั้น ถูกกีดกันออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี โดยมีการวิเคราะห์ว่า ถือเป็นการสลายอิทธิพลของนายเนวินที่มีเหนือพรรค และการบริหารประเทศในยุค นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี โดย “นายใหญ่” พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ปัจจุบันหลบหนีคดีอาญาไปอยู่ ณ ประเทศอังกฤษ ซึ่งน่าจะเป็นที่มาของการใช้สื่อในมือ เพื่อโจมตีคณะรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีบางคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับ กลุ่มของนายเนวิน
สำหรับ หนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์รายวัน นั้น เป็นสื่อในเครือประชาทรรศน์ ผลิตในนาม บริษัท สำนักข่าวประชาทรรศน์ จำกัด ซึ่งแต่เดิมมีสำนักงานเลขที่ 351/6 ซ.โลหิตสุข แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310 ต่อมาได้ย้ายที่อยู่ไปยัง 731 PM Tower ชั้น 15 ถ.อโศกดินแดง แขวงดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400 โดยจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 29 ม.ค.2550 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท มีจุดประสงค์เพื่อประกอบกิจการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโฆษณา วิทยุ โทรทัศน์ และเกี่ยวกับประชาสัมพันธ์ทุกชนิดทุกประเภท
ประชาทรรศน์รายวัน ตีพิมพ์ฉบับปฐมฤกษ์วันที่ 11 ตุลาคม 2550 โดยเลื่อนจากกำหนดการเดิมวันที่ 19 กันยายน ซึ่งเป็นวันครบรอบ 1 ปีรัฐประหาร ก่อนหน้านี้ เครือประชาทรรศน์ ได้ทำนิตยสารวิเคราะห์ข่าวรายสัปดาห์ ชื่อ ประชาทรรศน์ ซึ่งนำเสนอเนื้อหาที่โจมตีการทำงานของ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นหลัก
ทั้งนี้ แรกเริ่มเดิมทีประชาทรรศน์ มี นายอุดมศักดิ์ เสาวนะ เป็นบรรณาธิการ ภายหลังมีการทาบทาม นายพิธาน คลี่ขจาย อดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ รับหน้าที่เป็นบรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์ โดย นายพิธาน นั้น คือ น้องชาย นายสุภาพ คลี่ขจาย อดีตผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์ไอทีวี และในเวลาต่อมาได้ลงเล่นการเมืองในสังกัดพรรคชาติพัฒนา และในปัจจุบันเป็นผู้ดำเนินรายการ รายการหนึ่งทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที
ในแวดวงสื่อสารมวลชนเป็นที่ทราบกันดีว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังของ “ประชาทรรศน์” ก็คือ นายทองเจือ ชาติกิจเจริญ มือทำงานของ นายเนวิน อดีตผู้สื่อข่าวหลายฉบับที่หันไปรับจ้างทำสงครามข่าวบนดิน-ใต้ดิน ให้ระบอบทักษิณ โดยมุ่งโจมตีพันธมิตรฯ และ สนธิ ลิ้มทองกุล เป็นหลัก สำหรับ นายทองเจือ นั้นมีข่าวว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังม็อบอีแต๋นที่สวนจตุจักรที่เคยเดินทางมาปิดล้อมตึกเนชั่น ก่อนสยายปีกไปตั้งบริษัทที่ทำทั้งเว็บไซต์ หนังสือพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ เช่น เว็บไซต์รีพอตเตอร์ หนังสือพิมพ์รายปักษ์ “บางกอกนิวส์” ช่องข่าวท่องเที่ยวในยูบีซี 9 วิทยุชุมชน สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม MV1 ที่เคยเชิญ นายสมัคร ไปจัดรายการ รวมไปถึง บริษัท ดิจิตอล มีเดีย โฮลดิ้งส์ จำกัด ที่รับสัมปทานเวลาจากกรมประชาสัมพันธ์ทำรายการทางสถานีเอ็นบีทีในปัจจุบัน
มากกว่านั้นในความไม่ชอบมาพากล เกี่ยวกับการเข้าไปรับสัมปทานเวลาจ้างผลิตรายการให้ สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที หรือ ช่อง 11 ในสังกัดกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งในสมัย นายจักรภพ เพ็ญแข เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ มีเอกชนเพียง 2 บริษัทเข้ามาเสนอราคา คือ บริษัท ดิจิตอล มีเดีย โฮลดิ้งส์ จำกัด และ บริษัท เค แอลมีเดียโพรดักซ์ จำกัด ซึ่งทั้งสองบริษัทมีสำนักงานอยู่ที่เดียวกัน เบอร์โทรศัพท์เบอร์เดียวกัน และบริษัท เค แอล ก่อนหน้านี้เคยทำธุรกิจรถเช่า มิได้มีประสบการณ์ในธุรกิจสื่อมาก่อนเลย โดยทั้งสองบริษัทต่างก็มีที่อยู่เดียว บริษัท สำนักข่าวประชาทรรศน์ จำกัด คือ ชั้น 15 ของ อาคาร PM Tower เลขที่ 731 ถ.อโศกดินแดง แขวงดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400