วิปฝ่ายค้านรุมสับรัฐบาลคุมเสียง ส.ส.ไม่ได้ เป็นเหตุให้สภาล่ม ปฏิเสธความรับผิด ระบุไม่เกี่ยวกับพรรคฝ่ายค้าน ชี้ต้นเหตุ ส.ส.กลุ่มอกหักใช้เวทีสภาเป็นการต่อรองเงื่อนไขเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง พร้อมถามหาสปิริตนายกฯ-รมต.ใหม่ชี้แจงสาธารณชนเหตุสภาล่ม
วันนี้ (25 ก.ย.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรค (วิป) ฝ่ายค้าน แถลงข่าวกรณีที่ฝ่ายค้านไม่เข้าร่วมนับองค์ประชุมในการประชุมสภานิติบัญญัติ ภายหลังเกิดเหตุการณ์สภาล่ม ไม่สามารถเปิดประชุมได้เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบว่า ฝ่ายค้านต้องการแสดงออกเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบการให้ความสำคัญในการทำหน้าที่ในสภาและไม่เอาใจใส่ในการประชุมสภา รวมทั้งไม่ให้ความใส่ใจกฎหมายหลายฉบับ สังเกตเห็นได้จากการอภิปรายกฎหมายหลายฉบับที่ผ่านมา กลับมีแต่ฝ่ายค้านที่อภิปราย ตนรู้สึกว่าการประชุมสภาครั้งนี้ฝ่ายรัฐบาลพยายามต่อรองเรื่องเวลา โดยอ้างว่าไม่มีรัฐมนตรีที่เสนอกฎหมายมาร่วมประชุมและรัฐมนตรีต้องรีบไปเข้าเฝ้าฯ ซึ่งเหตุผลเหล่านี้ฟังไม่ขึ้น เนื่องจากฝ่ายค้านได้ท้วงติงว่าสามารถเอากฎหมายฉบับอื่นที่ ส.ส.เป็นผู้เสนอมาพิจารณาก่อนได้ และการขอเปลี่ยนแปลงเวลาประชุมนั้นทำให้องค์ประชุมไม่ครบ จนล่มถึง 2 ครั้ง ซึ่งประธานในที่ประชุมก็ไม่รับฟัง
นายสาทิตย กล่าวว่า ฝ่ายค้านอยากเรียกร้องให้ฝ่ายรัฐบาลรับผิดชอบ ทั้งที่เพิ่งมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลใหม่ จึงต้องการให้รับผิดชอบมากกว่านี้ ทั้งที่มีเสียงถึง 309 เสียง ฝ่ายค้านมากไม่อยากให้รัฐบาลเห็นสภานิติบัญญัติเป็นเพียงตรายาง เพราะหากรัฐบาลไม่รับผิดชอบอย่างนี้ กฎหมายสำคัญคงไม่สามารถเดินไปได้ โดยเฉพาะวันนี้กฎหมายที่เสนอเข้ามาก็เป็นกฎหมายของ ปปง.ซึ่งเป็นกฎหมายฉบับแรกที่รัฐบาลเสนอในที่ประชุม
“ไม่อยากให้ ส.ส.ในรัฐบาลเอาเรื่องการจัดคตั้ง ครม.ซึ่งเป็นความไม่พอใจมาเป็นเงื่อนไขทำให้การพิจารณากฎหมายเดินหน้าไม่ได้ ซึ่งถือว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และฝ่ายค้านไม่อยากกรับการโยนบาปครั้งนี้จากรัฐบาล คิดว่าหากไม่ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งพฤติกรรมอย่างนี้จะดำรงอยู่ต่อไป รัฐบาลจะต้องมีความรับผิดชอบมากกว่านี้” นายสาทิตย์กล่าว
เมื่อถามว่า หากวันนี้องค์ประชุมไม่ครบจะทำอย่างไร นายสาทิตย์ กล่าวว่า นายกฯ คนใหม่ซึ่งเป็น ส.ส.ในสภาต้องแสดงความรับผิดชอบ และอธิบายให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะขนาดเพิ่งเปลี่ยน ครม.และเสียงในสภามีอย่างล้นเหลือ ทำไมจึงระดม ส.ส.มาร่วมประชุมไม่ได้
เมื่อถามว่าจะเป็นการบีบให้เกิดการยุบสภาหรือไม่ นายสาทิตย กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดถึงขั้นนั้น เพราะหากรัฐบาลเป็นเอกภาพอย่างที่ประกาศจริง ต้องสามารถนำ ส.ส.มาร่วมประชุมได้ ส่วนการยุบสภานั้นเป็นอำนาจของนายกฯ อย่างไรก็ตาม วันนี้แสดงให้เห็นว่านิติบัญญัติมีปัญหา ทั้งที่เป็นกฎหมายของรัฐบาลเองยังไม่ได้รับความสำคัญ ตนจึงอยากตั้งขั้อสังเกตว่า ก่อนหน้านี้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายขององค์กรอิสระก็ไม่ได้รับความใส่ใจจนทำให้การทำงานขององค์กรอิสระไม่สามารถเดินหน้าได้
นายสาทิตย์ กล่าวว่า รัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบแน่นอนอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะกฎหมายที่ไปแก้ไขกฎหมายสำคัญอย่างกฎหมาย ปปง.ซึ่งถือเป็นกฎหมายสำคัญ รวมทั้งเป็นกฎหมายฉบับแรกที่เสนอโดยรัฐมนตรีหลังจากมีรัฐบาลใหม่อาจจจะกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล ซึ่งนายกฯ ต้องชี้แจง “วันนี้ไม่อยากเรียกร้องสปิริต เห็นโฉมหน้ารัฐมนตรีแล้วไม่รู้ว่าจะสะกดคำว่าสปิริตเป็นหรือไม่” นายสาทิตย์ กล่าว
ประธานวิปรัฐบาลปัดความรับผิดชอบสภาล่ม
เมื่อเวลา 15.0 น. วันเดียวกัน นายวิทยา บุรณศิริ รักษาการประธานวิปรัฐบาล พรรคพลังประชาชน กล่าวภายหลังองค์ประชุมสภาฯล่มว่า การประชุมสภาฯเพื่อพิจารณากฎหมายเป็นความรับผิดชอบของส.ส.ทั้ง470 คนไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เนื่องจากวันนี้มีรัฐมนตรีที่เป็นส..ส.เกือบ20คนต้องเตรียมตัวเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณจึงไม่สามารถมาร่วมประชุมได้ ขณะที่กรรมาธิการฯบางส่วนลงพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่อยากให้มองว่าเป็นเพราะมีคนอกหักเลยไม่ยอมเข้าประชุมสภาฯ เมื่อถามว่ายืนยันได้หรือไม่ว่าต่อไปจะไม่เกิดเหตุการณ์สภาล่มขึ้นอีก นายวิทยา ตอบว่า ยืนยันได้ วันนี้ต้องยอมรับว่าพรรคร่วมรัฐบาลที่มีปัญหาในพรคก็เป็นอุปสรรคต่อการทำงานในสภาเช่นกัน ขอร้องฝ่ายค้านอย่าเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ไม่ใช่อยู่ในห้องประชุมแล้วไม่ยอมขานชื่อ เมื่อถามว่าฝ่ายค้านระบุว่ารับไม่ได้ที่รัฐบาลใช้เวทีสภาฯในการต่อรองตำแหน่งกัน นายวิทยา ตอบว่า ใคร เพราะไม่ใช่ตนแน่ วันนี้ทั้งนายบุญลือ ประเสริฐโสภา และนายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ อดีตรัฐมนตรี และนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีก็ยังเข้าร่วมประชุม