ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ (25 ก.ย.) มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม โดยก่อนเข้าสู่ วาระการประชุม นายชัย แจ้งที่ประชุมรับทราบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ครม.ชุดใหม่ และได้เปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ประมาณ 1 ชั่วโมง
จากนั้นเป็นการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่..)พ.ศ.....ที่ครม.เป็นผู้เสนอ และร่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่..)พ.ศ.....ที่นายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร พรรคพลังประชาชน และคณะ เป็นผู้เสนอ ซึ่งเป็นการพิจารณาต่อจากการประชุมเมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่ลงมติได้เนื่องจากสภาล่ม เพราะ ส.ส.เข้าร่วมประชุมไม่ครบ
นายชัย แจ้งว่า การประชุมเมื่อวันที่ 24 ก.ย.มีการอภิปรา พอสมควรแล้ว จึงขอให้มีการลงมติ อย่างไรก็ดี เมื่อนายชัย กดออดเรียกสมาชิก ให้มาเสียบบัตรแสดงตน ปรากฏว่า มีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมเพียง 188 คน ทำให้ นายชัย กดออดเรียกสมาชิกอีกครั้ง พร้อมกล่าวว่า หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านไปไหน ขอให้วิปฝ่ายค้านรวมสมาชิกมาให้มากกว่านี้ ทำให้ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ส.ส.รัฐบาลมีตั้ง 300 กว่าเสียง
ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง ประชุมพอดี แจ้งว่า นายชัย เลื่อนเวลาการประชุมจากบ่ายโมงครึ่งมาเป็น 11.00 น. ทำให้สมาชิกสับสน ทั้งนี้หากนัดประชุมผิดพลาดสมาชิกไม่ครบก็พักการประชุมไปก่อน ขณะที่ส.ส.ฝ่ายค้านคนอื่นๆ เสนอว่า หากไม่พักการประชุมก็ให้หารือไปพลางก่อน แต่นายชัย ไม่ยอมและสั่งพักการประชุม 15 นาที
จากนั้นเวลา 12.35 น. ได้เริ่มการประชุมอีกครั้งแต่สมาชิกยังบางตา ทำให้นายชัย กดออดเรียกสมาชิกถึง 8 ครั้ง ปรากฏว่า มีสมาชิกเสียบบัตรแสดงตน 205 คน นาง อรุณี ชำนาญยา ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชาชน เสนอให้นับองค์ประชุมโดยวิธีการขานชื่อ เพราะทราบว่า ตอนแรกมีสมาชิกมาเซ็นชื่อประชุมครบองค์ประชุม
ส่วนนายสาทิตย์ อภิปรายว่า องค์ประชุมล่ม 2 ครั้งแล้ว ขอให้วินิจฉัยให้ดีว่า ทำได้หรือไม่ อย่างไรก็ดีถ้าจะนับองค์ประชุมโดยการขานชื่อก็ไม่ขัดข้อง ทั้งนี้ตนได้เตือนประธานไปแล้วเมื่อวันที่ 24 กันยายน ว่า เลื่อนเวลาประชุม จะทำให้องค์ประชุมไม่ครบ จากนั้นนายชัย จึงให้นับองค์ประชุมด้วยวิธีการขานชื่อ ขณะที่วิปรัฐบาลและส.ส.รัฐบาลต่างรีบโทรศัพท์ตามส.ส.รัฐบาลให้มาขานชื่อ
แต่ภายหลังการรับองค์ประชุมปรากฏว่า มีผู้ขานชื่ออยู่ในห้องประชุมเพียง 218 คน ขณะที่มีผู้เซ็นชื่อมาประชุม 375 คน ถือว่า ไม่ครบองค์ประชุม ทำให้นาย อำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี พรรคพลังประชาชน เสนอให้ปิดประชุม ในที่สุด ทำให้ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภา คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ชี้แจงว่า ขออภัยสมาชิกที่ประธานเลื่อนประชุมมาเร็วขึ้น ทำให้สมาชิกไม่พร้อมเพราะอาจมีการนัดประชุมคณะกรรมาธิการ และมีรัฐมนตรีที่จะเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณในช่วงเย็น ส่วนที่ฝ่ายค้านวอล์กเอาท์ ก็ถือเป็นสิทธิ์ และปิดประชุมเวลา 13.40 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับช่วงรอการรวมคะแนน นางอรุณี ลุกขึ้นอภิปราย อย่างมีอารมณ์ว่า สมาชิกมาเซ็นชื่อเยอะแต่ไม่เข้าห้องประชุม ถามว่าเป็นเกมการเมือง อะไรหรือไม่ ทุกคนเป็นผู้แทนที่ชาวบ้านเลือกมา อย่าให้ชาวบ้านดูถูก ตนเป็นส.ส.มา 6 ปี รู้สึกอึดอัดมาก
ด้านนายสาทิตย์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านให้ความร่วมมือในการประชุมมาตลอดและอภิปรายตั้งข้อสังเกตกับบรรดากฎหมายที่เข้ามา แต่ครั้งนี้ที่ต้องแสดงออกด้วยการ เดินออก ก็เพื่อเรียกร้องความรับผิดชอบของฝ่ายรัฐบาล ทั้งนี้รัฐบาลมีเสียงข้างมากอยู่แล้ว ถ้ามาเกินครึ่งก็พิจารณากฎหมายที่เสนอมาได้อยู่แล้ว เพราะฝ่ายค้านมี 164 เสียงเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนการเริ่มนับองค์ประชุมด้วยวิธีการขานชื่อ ปรากฏว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ทยอยกันเดินออกจากห้องประชุม เนื่องจาก ไม่เห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.ป.ป.ง.ทั้ง 2 ฉบับ และได้แถลงข่าวที่ห้องวิปฝ่ายค้าน โดยมีเพียงนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายชวน หลีกภัย ส.ส.สัดส่วน ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ และนายอรรถวิทย์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่วอร์คเอาต์
ขณะที่ส.ส.พรรคพลังประชาชน กลุ่มเพื่อนเนวิน กลุ่มโคราช และส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดินกลุ่มบ้านริมน้ำ ซึ่งพลาดหวังจากเก้าอี้รัฐมนตรี ก็ไม่ได้เข้าห้องประชุม แต่รวมตัวกันประมาณ 30-40 คน บริเวณห้องพักทานกาแฟ รอบๆห้องประชุมชั้น 2 อาคารรัฐสภา 1
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานวิปฝ่ายค้าน แถลงหลังสภาล่มว่า การที่ฝ่ายค้านวอร์คเอาท์ ต้องการแสดงออกเพื่อให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบในการไม่ทำหน้าที่ในสภาและไม่เอาใจใส่ในการประชุมสภา รวมทั้งไม่ให้ความใส่ใจกฎมายหลายฉบับ สังเกตได้จากการอภิปรายกฎหมายหลายฉบับที่ผ่านมา กลับมีแต่ฝ่ายค้านที่อภิปราย ตนนรู้สึกว่าการประชุมสภาครั้งนี้
ไม่อยากให้ส.ส.ในรัฐบาลเอาเรื่องการจัดตั้ง ครม.ซึ่งเป็นความไม่พอใจ มาเป็นเงื่อนไข ทำให้การพิจารณากฎหมายเดินหน้าไม่ได ซึ่งถือว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และฝ่ายค้านไม่อยากรับการโยนบาปครั้งนี้จากรัฐบาล คิดว่าหากไม่ดำเนินการ อย่างใดอย่างหนึ่งพฤติกรรมอย่างนี้จะดำรงอยู่ต่อไป รัฐบาลจะต้องมีความรับผิดชอบมากกว่านี้
นายสาทิตย์ กล่าวว่าการที่องค์ประชุมไม่ครบ นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็น ส.ส. ในสภา และรัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบและอธิบายให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะไปแก้ไขกฎหมาย ป.ป.ง.ซึ่งถือเป็นกฎหมายสำคัญ รวมทั้งเป็นกฎหมายฉบับแรกที่เสนอโดยรัฐมนตรีหลังจากมีรัฐบาลใหม่ อาจจจะกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐาล ซึ่งนากยต้องชี้แจง วันนี้ไม่อยากเรียกร้องสปิริต เห็นโฉมหน้ารัฐมนตรีแล้วไม่รู้ว่าจะสะกดคำว่าสปิริตเป็นหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเป็นการบีบให้เกิดการยุบสภาหรือไม่ นายสาทิตย กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดถึงขั้นนั้น เพราะหากรัฐบาลเป็นเอกภาพอย่างที่ประกาศจริง ต้องสามารถนำ ส.ส.มาร่วมประชุมได้ ส่วนการยุบสภานั้นเป็นอำนาจของนายกฯ อย่างไรก็ตาม วันนี้แสดงให้เห็นว่า นิติบัญญัติมีปัญหา ทั้งที่เป็นกฎหมายของรัฐบาลเองยังไม่ได้รับความสำคัญ ตนจึงอยากตั้งขั้อสังเกตุว่าก่อนหน้านี้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายขององค์กรอิสระก็ไม่ได้รับความใส่ใจ จนทำให้การทำงานขององค์กรอิสระไม่สามารถเดินหน้าได้
นายวิทยา บุรณศิริ รักษาการประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า การประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณากฎหมายเป็นความรับผิดชอบของส.ส.ทั้ง 470 คนไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เนื่องจากวันนี้มีรัฐมนตรีที่เป็นส..ส.เกือบ 20 คนต้องเตรียมตัวเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จึงไม่สามารถมาร่วมประชุมได้ ขณะที่กรรมาธิการฯบางส่วนลงพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่อยากให้มองว่าเป็นเพราะมีคนอกหักเลยไม่ยอมเข้าประชุมสภาฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่ายืนยันได้หรือไม่ว่าต่อไปจะไม่เกิดเหตุการณ์สภาล่มขึ้นอีก นายวิทยา ตอบว่า ยืนยันได้ วันนี้ต้องยอมรับว่าพรรคร่วมรัฐบาลที่มีปัญหาในพรรค ก็เป็นอุปสรรคต่อการทำงานในสภาเช่นกัน ขอร้องฝ่ายค้านอย่าเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ไม่ใช่อยู่ในห้องประชุมแล้วไม่ยอมขานชื่อ
ส่วนที่ฝ่ายค้านระบุว่ารับไม่ได้ที่รัฐบาลใช้เวทีสภาฯในการต่อรองตำแหน่งกัน นายวิทยา ตอบว่า ใคร เพราะไม่ใช่ตนแน่ วันนี้ทั้งนายบุญลือ ประเสริฐโสภา และนายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ อดีตรัฐมนตรี และนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีก็ยังเข้าร่วมประชุม
จากนั้นเป็นการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่..)พ.ศ.....ที่ครม.เป็นผู้เสนอ และร่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่..)พ.ศ.....ที่นายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร พรรคพลังประชาชน และคณะ เป็นผู้เสนอ ซึ่งเป็นการพิจารณาต่อจากการประชุมเมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่ลงมติได้เนื่องจากสภาล่ม เพราะ ส.ส.เข้าร่วมประชุมไม่ครบ
นายชัย แจ้งว่า การประชุมเมื่อวันที่ 24 ก.ย.มีการอภิปรา พอสมควรแล้ว จึงขอให้มีการลงมติ อย่างไรก็ดี เมื่อนายชัย กดออดเรียกสมาชิก ให้มาเสียบบัตรแสดงตน ปรากฏว่า มีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมเพียง 188 คน ทำให้ นายชัย กดออดเรียกสมาชิกอีกครั้ง พร้อมกล่าวว่า หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านไปไหน ขอให้วิปฝ่ายค้านรวมสมาชิกมาให้มากกว่านี้ ทำให้ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ส.ส.รัฐบาลมีตั้ง 300 กว่าเสียง
ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง ประชุมพอดี แจ้งว่า นายชัย เลื่อนเวลาการประชุมจากบ่ายโมงครึ่งมาเป็น 11.00 น. ทำให้สมาชิกสับสน ทั้งนี้หากนัดประชุมผิดพลาดสมาชิกไม่ครบก็พักการประชุมไปก่อน ขณะที่ส.ส.ฝ่ายค้านคนอื่นๆ เสนอว่า หากไม่พักการประชุมก็ให้หารือไปพลางก่อน แต่นายชัย ไม่ยอมและสั่งพักการประชุม 15 นาที
จากนั้นเวลา 12.35 น. ได้เริ่มการประชุมอีกครั้งแต่สมาชิกยังบางตา ทำให้นายชัย กดออดเรียกสมาชิกถึง 8 ครั้ง ปรากฏว่า มีสมาชิกเสียบบัตรแสดงตน 205 คน นาง อรุณี ชำนาญยา ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชาชน เสนอให้นับองค์ประชุมโดยวิธีการขานชื่อ เพราะทราบว่า ตอนแรกมีสมาชิกมาเซ็นชื่อประชุมครบองค์ประชุม
ส่วนนายสาทิตย์ อภิปรายว่า องค์ประชุมล่ม 2 ครั้งแล้ว ขอให้วินิจฉัยให้ดีว่า ทำได้หรือไม่ อย่างไรก็ดีถ้าจะนับองค์ประชุมโดยการขานชื่อก็ไม่ขัดข้อง ทั้งนี้ตนได้เตือนประธานไปแล้วเมื่อวันที่ 24 กันยายน ว่า เลื่อนเวลาประชุม จะทำให้องค์ประชุมไม่ครบ จากนั้นนายชัย จึงให้นับองค์ประชุมด้วยวิธีการขานชื่อ ขณะที่วิปรัฐบาลและส.ส.รัฐบาลต่างรีบโทรศัพท์ตามส.ส.รัฐบาลให้มาขานชื่อ
แต่ภายหลังการรับองค์ประชุมปรากฏว่า มีผู้ขานชื่ออยู่ในห้องประชุมเพียง 218 คน ขณะที่มีผู้เซ็นชื่อมาประชุม 375 คน ถือว่า ไม่ครบองค์ประชุม ทำให้นาย อำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี พรรคพลังประชาชน เสนอให้ปิดประชุม ในที่สุด ทำให้ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภา คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ชี้แจงว่า ขออภัยสมาชิกที่ประธานเลื่อนประชุมมาเร็วขึ้น ทำให้สมาชิกไม่พร้อมเพราะอาจมีการนัดประชุมคณะกรรมาธิการ และมีรัฐมนตรีที่จะเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณในช่วงเย็น ส่วนที่ฝ่ายค้านวอล์กเอาท์ ก็ถือเป็นสิทธิ์ และปิดประชุมเวลา 13.40 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับช่วงรอการรวมคะแนน นางอรุณี ลุกขึ้นอภิปราย อย่างมีอารมณ์ว่า สมาชิกมาเซ็นชื่อเยอะแต่ไม่เข้าห้องประชุม ถามว่าเป็นเกมการเมือง อะไรหรือไม่ ทุกคนเป็นผู้แทนที่ชาวบ้านเลือกมา อย่าให้ชาวบ้านดูถูก ตนเป็นส.ส.มา 6 ปี รู้สึกอึดอัดมาก
ด้านนายสาทิตย์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านให้ความร่วมมือในการประชุมมาตลอดและอภิปรายตั้งข้อสังเกตกับบรรดากฎหมายที่เข้ามา แต่ครั้งนี้ที่ต้องแสดงออกด้วยการ เดินออก ก็เพื่อเรียกร้องความรับผิดชอบของฝ่ายรัฐบาล ทั้งนี้รัฐบาลมีเสียงข้างมากอยู่แล้ว ถ้ามาเกินครึ่งก็พิจารณากฎหมายที่เสนอมาได้อยู่แล้ว เพราะฝ่ายค้านมี 164 เสียงเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนการเริ่มนับองค์ประชุมด้วยวิธีการขานชื่อ ปรากฏว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ทยอยกันเดินออกจากห้องประชุม เนื่องจาก ไม่เห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.ป.ป.ง.ทั้ง 2 ฉบับ และได้แถลงข่าวที่ห้องวิปฝ่ายค้าน โดยมีเพียงนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายชวน หลีกภัย ส.ส.สัดส่วน ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ และนายอรรถวิทย์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่วอร์คเอาต์
ขณะที่ส.ส.พรรคพลังประชาชน กลุ่มเพื่อนเนวิน กลุ่มโคราช และส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดินกลุ่มบ้านริมน้ำ ซึ่งพลาดหวังจากเก้าอี้รัฐมนตรี ก็ไม่ได้เข้าห้องประชุม แต่รวมตัวกันประมาณ 30-40 คน บริเวณห้องพักทานกาแฟ รอบๆห้องประชุมชั้น 2 อาคารรัฐสภา 1
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานวิปฝ่ายค้าน แถลงหลังสภาล่มว่า การที่ฝ่ายค้านวอร์คเอาท์ ต้องการแสดงออกเพื่อให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบในการไม่ทำหน้าที่ในสภาและไม่เอาใจใส่ในการประชุมสภา รวมทั้งไม่ให้ความใส่ใจกฎมายหลายฉบับ สังเกตได้จากการอภิปรายกฎหมายหลายฉบับที่ผ่านมา กลับมีแต่ฝ่ายค้านที่อภิปราย ตนนรู้สึกว่าการประชุมสภาครั้งนี้
ไม่อยากให้ส.ส.ในรัฐบาลเอาเรื่องการจัดตั้ง ครม.ซึ่งเป็นความไม่พอใจ มาเป็นเงื่อนไข ทำให้การพิจารณากฎหมายเดินหน้าไม่ได ซึ่งถือว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และฝ่ายค้านไม่อยากรับการโยนบาปครั้งนี้จากรัฐบาล คิดว่าหากไม่ดำเนินการ อย่างใดอย่างหนึ่งพฤติกรรมอย่างนี้จะดำรงอยู่ต่อไป รัฐบาลจะต้องมีความรับผิดชอบมากกว่านี้
นายสาทิตย์ กล่าวว่าการที่องค์ประชุมไม่ครบ นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็น ส.ส. ในสภา และรัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบและอธิบายให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะไปแก้ไขกฎหมาย ป.ป.ง.ซึ่งถือเป็นกฎหมายสำคัญ รวมทั้งเป็นกฎหมายฉบับแรกที่เสนอโดยรัฐมนตรีหลังจากมีรัฐบาลใหม่ อาจจจะกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐาล ซึ่งนากยต้องชี้แจง วันนี้ไม่อยากเรียกร้องสปิริต เห็นโฉมหน้ารัฐมนตรีแล้วไม่รู้ว่าจะสะกดคำว่าสปิริตเป็นหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเป็นการบีบให้เกิดการยุบสภาหรือไม่ นายสาทิตย กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดถึงขั้นนั้น เพราะหากรัฐบาลเป็นเอกภาพอย่างที่ประกาศจริง ต้องสามารถนำ ส.ส.มาร่วมประชุมได้ ส่วนการยุบสภานั้นเป็นอำนาจของนายกฯ อย่างไรก็ตาม วันนี้แสดงให้เห็นว่า นิติบัญญัติมีปัญหา ทั้งที่เป็นกฎหมายของรัฐบาลเองยังไม่ได้รับความสำคัญ ตนจึงอยากตั้งขั้อสังเกตุว่าก่อนหน้านี้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายขององค์กรอิสระก็ไม่ได้รับความใส่ใจ จนทำให้การทำงานขององค์กรอิสระไม่สามารถเดินหน้าได้
นายวิทยา บุรณศิริ รักษาการประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า การประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณากฎหมายเป็นความรับผิดชอบของส.ส.ทั้ง 470 คนไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เนื่องจากวันนี้มีรัฐมนตรีที่เป็นส..ส.เกือบ 20 คนต้องเตรียมตัวเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จึงไม่สามารถมาร่วมประชุมได้ ขณะที่กรรมาธิการฯบางส่วนลงพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่อยากให้มองว่าเป็นเพราะมีคนอกหักเลยไม่ยอมเข้าประชุมสภาฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่ายืนยันได้หรือไม่ว่าต่อไปจะไม่เกิดเหตุการณ์สภาล่มขึ้นอีก นายวิทยา ตอบว่า ยืนยันได้ วันนี้ต้องยอมรับว่าพรรคร่วมรัฐบาลที่มีปัญหาในพรรค ก็เป็นอุปสรรคต่อการทำงานในสภาเช่นกัน ขอร้องฝ่ายค้านอย่าเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ไม่ใช่อยู่ในห้องประชุมแล้วไม่ยอมขานชื่อ
ส่วนที่ฝ่ายค้านระบุว่ารับไม่ได้ที่รัฐบาลใช้เวทีสภาฯในการต่อรองตำแหน่งกัน นายวิทยา ตอบว่า ใคร เพราะไม่ใช่ตนแน่ วันนี้ทั้งนายบุญลือ ประเสริฐโสภา และนายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ อดีตรัฐมนตรี และนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีก็ยังเข้าร่วมประชุม