“แกนนำพันธมิตรฯ” ยืนยันต้าน ครม.สมชาย เชื่อเป็นนอมินี-แฟมิลี่ “แม้ว” ชี้รัฐบาลนี้ขาดความชอบธรรมไปตั้งนานแล้ว ด้าน “จำลอง” ไม่เชื่อลมปากรัฐบาลตั้ง ส.ส.ร.ออกแบบการเมืองใหม่ ระบุกระแสตอบรับดีโดยไม่เสียงบประมาณทำประชามติ
วันนี้ (24 ก.ย.) ที่ทำเนียบรับบาล สมาชิกพันธมิตรฯ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยสรุปข่าวโจมตีการจัดทำบัญชีรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตดุสิตเข้ามาฉีดพ่นยาฆ่ายุงทั่วบริเวณทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากที่ผ่านมามีฝนตกติดต่อกันมาหลายวันทำให้เกิดน้ำท่วมขังซึ่งอาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย
ที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ ร่วมแถลงข่าว โดยนายพิภพ กล่าวถึงการจัดรายชื่อของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ว่า หลักการของพันธมิตรฯ ยังย้ำจุดยืนเดิม คือ ต่อต้านพรรคพลังประชาชนที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาล เพราะพรรคพลังประชาชนได้แสดงความชัดเจนในการเป็นนอมินีและเป็นแฟมิลีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างชัดเจน
ถามว่าจะให้โอกาสคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ได้ทำงานสักระยะหนึ่งหรือไม่ นายพิภพ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องให้โอกาสหรือไม่ให้โอกาส แต่หลักการของพันธมิตรฯ คือ การต่อต้านพรรคพลังประชาชนไม่ให้จัดตั้งรัฐบาล พันธมิตรฯ คงจะไปกำหนดเวลาให้รัฐมนตรีทำงานมากน้อยแค่ไหนคงไม่ได้ เพราะพันธมิตรฯ พูดมาเสมอว่าพรรคพลังประชาชนไม่มีความชอบธรรมที่จะเข้ามาบริหารประเทศตั้งแต่แรกแล้ว ซึ่งขณะนี้พรรคพลังประชาชนกำลังเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบว่าทำผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง ต้องส่งให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาและอาจถูกยุบพรรค ซึ่งตามมารยาททางการเมืองแล้วไม่ต้องรอให้กระบวนการสิ้นสุด ก็ไม่ควรมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่เพราะพรรคพลังประชาชนเป็นพรรคธุรกิจทางการเมือง ตั้งขึ้นมาเพื่อปกป้องระบอบทักษิณ พยายามใช้อำนาจรัฐให้นานที่สุดเพื่อใช้โอกาสแก้คดีความต่างๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และใช้งบประมาณของรัฐไปในเรื่องธุรกิจทางการเมือง
ถามอีกว่า มีกระแสข่าวว่าทางรัฐบาลเสนอตั้งกรรมการร่วมศึกษาและออกแบบการเมืองใหม่ตามรอย ส.ส.ร.1 พล.ต.จำลอง กล่าวว่า เป็นความคิดที่ดี แสดงว่ารัฐบาลเห็นว่าการเมืองเก่าไปไม่ได้ จึงมีความคิดนี้ขึ้นมา ถามว่าเกรงหรือไม่ว่าจะเป็นการฉวยโอกาสเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ พล.ต.จำลอง ตอบว่า เรายังไม่รู้ เพราะเรื่องนี้เป็นเพียงกระแสข่าวว่า ทางฝ่ายรัฐบาลคิดเหมือนกันว่าน่าจะมีการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง เหมือนในอดีตที่เคยมี 2 ชุด แต่พันธมิตรฯ ยังวิพากษ์วิจารณ์อะไรไม่ได้ เพราะพันธมิตรฯ ยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจน
สำหรับคำถามที่ว่า หากมีการเชิญแกนนำพันธมิตรฯ เข้าร่วมจะเข้าร่วมหรือไม่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า แกนนำพันธมิตรฯ ต้องประชุมกันก่อน เมื่อถึงเวลานั้นคงมีความชัดเจนว่าตั้งเพื่ออะไร ขอบเขตแค่ไหน พันธมิตรฯ จะไปร่วมให้ความเห็นหรือไม่นั้นต้องมีการประชุมกัน ซักว่าเป็นไปได้หรือไม่ถ้าพันธมิตรฯ ไม่เข้าร่วมกับทางรัฐบาล แล้วพันธมิตรฯ จะเชิญให้รัฐบาลเข้าร่วมกับพันธมิตรฯ แทน พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ไม่ได้ เราไม่ได้ใหญ่โตอะไร ที่จะไประบุว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ ไม่เช่นนั้น พันธมิตรฯ จะไม่เอาด้วย พันธมิตรฯไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน การดำเนินการจะดูตามความเหมาะสม ปฏิบัติตามสถานการณ์ เมื่อมีอะไรเปลี่ยนแปลงก็จะประชุมกันจะทำตามใจคนใดคนหนึ่งไม่ได้
ส่วนกรณีที่นักวิชาการเสนอแนะว่ารูปแบบการเมืองใหม่สามารถทำได้ แต่ต้องใช้เวลาถึง 1 ปี พล.ต.จำลอง กล่าวว่า พันธมิตรฯ ไม่ได้รีบเร่ง หรือรีบร้อนจนเกินเหตุ แต่ต้องทำให้เร็วและรอบคอบ ไม่เหมือนขั้นตอนการเสนอกฎหมายในสภาที่สามารถกำหนดวันเวลาได้ เพราะความเป็นไปของบ้านเมืองคือความรับผิดชอบของทุกคน ซึ่งไม่สามารถกำหนดเวลาได้ว่าจะสำเร็จเมื่อใด เหตุที่ต้องแก้ไขก็เพราะการเมืองเก่าไม่สามารถไปต่อได้ พันธมิตรฯ เพียงจุดประกายเริ่มต้น ต้องให้คนทั้งประเทศที่สนใจเรื่องการเมืองใหม่เป็นผู้ต้องสานต่อ เชื่อว่าช่วงนี้เป็นจังหวะที่ดีที่สุดที่จะมีการช่วยกันคิดเรื่องการเมืองใหม่
ส่วนต้องการให้มีการทำประชาพิจารณ์เรื่องการเมืองใหม่หรือไม่นั้น พล.ต.จำลอง กล่าวว่า เป็นจังหวะที่ดีมีคนให้ความสนใจแสดงความคิดเห็นเรื่องการเมืองใหม่ ยิ่งมีคนสนใจมากขึ้นเท่าไหร่ก็เท่ากับว่าเป็นการทำประชามติตามธรรมชาติโดยไม่ต้องใช้งบประมาณ อย่างไรก็ตาม พันธมิตรฯ ก็รับฟังด้วยดีเพราะเป็นผลประโยชน์ของประเทศ จึงต้องใช้ความรอบคอบ
เมื่อถามว่า ตามที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวบนเวทีปราศรัยว่า ได้เตรียมเปิดโปง ป.ป.ช.บางคน เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของพันธมิตรฯ หรือไม่ นายพิภพ กล่าวว่าพันธมิตรฯ เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบนักการเมือง ตรวจสอบการทำงานของข้าราชการ เมื่อตรวจสอบจึงเห็นการทุจริตซ้ำซาก ไม่ชอบธรรม ทำให้เราเพิ่มยุทธศาสตร์ในการเสนอการเมืองใหม่ เพื่อทำให้เห็นถึงความแตกต่างของการเมืองเก่า ซึ่งกระแสการเมืองใหม่ได้รับการตอบรับที่ดี