xs
xsm
sm
md
lg

“พันธมิตรฯ” เมินเติ้งเสียบหุ่นเชิดรุ่น 2 - เปิดเวที ปชช.ถกการเมืองใหม่พรุ่งนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พันธมิตรฯ พร้อมน้อมรับคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญ กรณีชี้สถานภาพ “หมัก” พรุ่งนี้ ไม่ให้ราคา “เติ้ง” นั่งแท่นหุ่นเชิดรุ่นสอง ระบุ ไร้วุฒิภาวะ และทำตัวเกาะติดระบอบแม้วมาโดยตลอด ย้ำยุบสภาไม่ใช่ทางออก เผยแกนนำเตรียมเปิดเวทีเสวนาพรุ่งนี้ เพื่อแชร์ความคิดประชาชนต่อกรณีการเมืองใหม่ เผยพันธมิตรฯนิวยอร์ก เตรียมต้อนรับ ฯพณฯ หอกหักอย่างสมเกียรติ

วันนี้ (8 ก.ย.) ที่เวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 18.30น.นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงเรื่องกรณี ที่มี่การวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการเมืองใหม่ พันธมิตรฯ เห็นว่า มีการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน บิดเบือนและมีอคติกับบางฝ่ายพอสมควร แต่ก็มีการตอบรับจากสังคมเป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน ดังนั้น เราจึงต้องออกแถลงการณ์ฉบับที่ 20/2551 เรื่องการเมืองใหม่เพื่อตอกย้ำจุดยืน โดยมีเนื้อหาดังนี้

1.การเมืองปัจจุบันเป็นระบบการเมืองอุบาทว์ ถูกผูกขาดโดยนักเลือกตั้งและนายทุนเต็มไปด้วยการทุจริตการเลือกตั้ง ใช้อิทธิพลและระบบอุปถัมภ์ในท้องถิ่น เพื่อข่มขู่ประชาชน ทำให้กลไกการตรวจสอบถูกทำรายและคุกคามทุกรูปแบบ ดังนั้น เพื่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน พันธมิตรฯ จึงเห็นว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการเมืองใหม่

2.การเมืองใหม่ คือ การปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริง สนับสนุนให้คนดีมาปกครองบ้านเมืองป้องกันไม่ให้คนไม่ดีมีอำนาจและประชาชนมีส่วนร่วมในทางการเมือง เปิดกว้างให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทุกระดับอย่างหลากหลาย

3.ต้องขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดชุดนี้ให้พ้นจากตำแหน่งโดยเร็วที่สุด โดยพันธมิตรฯ พร้อมสนับสนุนการเปลี่ยนแปลง อำนาจทางการเมืองในปัจจุบันบนเงื่อนไขที่จะต้องปฎิรูปการเมืองโดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง และพร้อมสะสางปัญหาความเลวร้ายของระบอบ ทักษิณ ด้วยกระบวนการยุติธรรมและความจริงใจ ส่วนเรือง 70-30 นั้น เป็นเพียงการยกตัวอย่างรูปแบบการลดสัดส่วนการเมืองเก่าที่อุบาว์ทและล้มเหลว ซึ่งไม่ได้เป็นสูตรตายตัว โดย 30 นั้นเป็นภาคการเมือง และ 70 เป็นภาคประชาชน โดยยังคงความเป็นระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุขสืบไป

ทั้งนี้ นายสุริยะใส กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (9 ก.ย.) เวลา 14.00 น.ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัยสถานภาพนายกรัฐมนตรี กรณี คำร้องรายการ ชิมไปบ่นไป ซึ่งไม่ว่าจะเกิด อะไรขึ้นก็ตาม คำพิพากษาจะออกมาทางใดก็ตาม พันธมิตรฯ น้อมรับคำวินิจฉัย และหากวินิจฉัยว่าต้องพ้นสภานภาพ ครม.ก็ต้องพ้นสถานภาพไปด้วย ตรงนี้จะทำให้เกิดสุญญากาศตามมาได้

ส่วนเรื่องการประกันตัว 82 ผู้ต้องหา ที่บุกเอ็นบีที ในวันที่ 26 ส.ค.2551 นั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า วันนี้ทนายความได้ไปเจรจาขอซื้อประกันชีวิต แต่ถูกบริษัทปฏิเสธ แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้มีการพูดคุยกับบริษัทอื่นอยู่ภายใน 1-2 วัน น่าจะได้ข้อยุติ จากนั้นเราก็จะยื่นขอประกันตัวใหม่ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเหตุการณ์เช้ามืดที่เอ็นบีที่นั้นว่ามีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างไร มีการสวมรอยหรือไม่ เพราะยอมรับว่าครึ่งหนึ่งเรารู้จัก แต่อีกครึ่งหนึ่งเราไม่รู้จัก ดังนั้นเมื่อคนกลุ่มนี้ออกมาได้เหตุการณ์ก็คงจะชัดเจนมากขึ้น

สำหรับกรณีที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จะบินไปประชุมสหประชาชาติในช่วงกลางเดือนนั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า ตรงนี้ นายสมัคร ใช้เป็นข้ออ้างขอให้ศาลอุทธรณ์เลื่อนการอ่านคำพิพากษาซึ่งจะเลื่อนหรือไม่นั้นคงต้องแล้วแต่ดุลพินิจของศาล แต่เราได้รับแจ้งจากพันธมิตรฯ สหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ว่า ได้มีการเตรียมจัดประชุมใหญ่ที่นิวยอร์ค เพื่อต่อต้านและแสดงให้เห็นว่า เราไม่รับรองรัฐบาลชุดนี้อีกแล้ว

นอกจากนั้น นายสุริยะใส ยังกล่าวถึงเรื่องการเมืองใหม่ว่า แกนนำพันธมิตรฯ จะใช้ห้องประชุมสันติไมตรี จัดเสวนาวิชาการ โดยจะมีการถ่ายทอดสด และเชิญองค์กรวิชาการต่างๆ มาแลกเปลี่ยนความเห็น เพื่อให้เห็นรูปแบบการเมืองใหม่ว่าควรจะเป็นอย่างไร แต่จะเป็นวันไหนนั้นจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก นายสมัคร พ้นสภานภาพถือเป็นเงื่อนไขให้กลุ่มพันธมิตรฯ ยุติการชุมนุมหรือไม่ นายสุริยะใส กล่าวว่า คงต้องเข้าที่ประชุม 5 แกนนำ ซึ่งก่อนที่จะมีคำวินิจฉัยของศาลนั้น 5 แกนนำจะมีการประชุมกันและหลังจากมีคำวินิจฉัยแล้วก็จะมีการประชุมกันอีก

ส่วนกรณีที่มีการสร้างตุ๊กตาขึ้นมา โดยมี นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย เป็นนายกฯ รักษาการ หากเกิดสุญญากาศนั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า นายบรรหาร ไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอ เพราะ 3-4 เดือนที่ผ่านมา นายบรรหาร ถูกหนีบโดยระบอบทักษิณ ไปเรียบร้อยแล้ว หากนายบรรหารเป็นนายกฯ พันธมิตรฯ ก็คงยากที่จะรับได้

“นายบรรหาร มีจุดยืนอยู่กับระบอบทักษิณ อีกทั้งสัจจะวาจาที่เคยพูดว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชน แต่สุดท้ายก็ยังพลิกลิ้นจน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ต้องออกจากพรรคชาติไทยไป กรณีความน่าเชื่อถือและวุฒิภาวะทางการเมืองต่อสถานการณ์ในขณะนี้ ของนายบรรหาร ไม่เพียงพอ แค่คิดก็ผิดแล้ว อย่างไรก็ตาม พันธมิตรฯ มีข้อเสนอแต่ยังไม่ขอพูดเพราะจะกลายเป็นการกดดันศาลได้” นายสุริยะใส กล่าว

ส่วนกรณีที่พรรคร่วมรัฐบาลอาจจะโหวต นายสมัครกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้งนั้น นายสุริยะใสกล่าวว่า สังคมคงไม่อนุญาต เพราะเมื่อมีคำวินิจฉัยจากศาลให้พ้นสถานภาพไปแล้ว แบบนั้นจะเป็นการดูถูกและฝืนความรู้สึกของสังคมมากเกินไป และคงไม่ได้รับการยอมรับ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าประเด็นนี้ไม่ได้รับสัญญานอะไรจากศาลทั้งสิ้นเป็นเพียงการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ ซึ่งเชื่อว่าในวันพรุ่งนี้ น่าจะมีข่าวดี

เมื่อถามว่า นายกฯ ในใจพันธมิตรฯ ควรเป็นแบบใด นายสุริยะใส กล่าวว่า หากพรุ่งนี้ฟ้าเปิด ความชัดเจนจากพันธมิตรฯ ก็จะเป็นรูปธรรมมากขึ้น เมื่อถามอีกว่าหากคืนนี้ นายสมัคร ลาออกหรือยุบสภาก่อนที่ศาลจะมีคำวินิจฉัย นายสุริยะใส กล่าวว่า การยุบสภาก็เป็นสิทธิของนายสมัคร และการประชุม ครม.สัญจร ที่อุดรธานี อาจเป็นการชิงยุบสภา ท่ามกลางประชาชนที่มามอบดอกไม้ก็เป็นได้

“แต่เป็นการโยนปัญหาให้ประชาชนแบกรับ เพราะผลการเลือกตั้งถูกบล็อกโดยหัวคะแนนอยู่แล้วเท่ากับเป็นการผลักภาระให้กับอนาคต ดังนั้น การยุบสภาจึงไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูก ส่วนเรื่องที่พ้นสถานภาพไปแล้วและมาเป็นรัฐบาลรักษาการนั้น เชื่อว่าจะมีปัญหาเรื่องของความชอบธรรม แต่อาจมีการเสนอสูตร ครม.รักษาการขึ้นมาในขณะนั้นก็เป็นได้” นายสุริยะใส กล่าว

อ่านรายละเอียด แถลงการณ์พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ฉบับที่ 20/2551 เพื่อทำความชัดเจนเรื่อง “การเมืองใหม่”
กำลังโหลดความคิดเห็น