“ประพันธ์” ซัด“หมัก”สำลักอำนาจ ออกกฎหมายให้ตัวเองมีอำนาจล้นฟ้า หลัง “บิ๊กป๊อก”ไม่สนองตอบ ชี้ประชาชนมาถึงที่สุดแล้ว เตือนพี่น้องพันธมิตรฯ ยืนอยู่บนความไม่ประมาท ต้องรวมพลังให้เข้มแข็งรับมือกับคนบ้าคลั่ง ปราม “พลังแม้ว”อย่าใช้ศพคนตายเป็นเครื่องมือ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายประพันธ์ คูณมี ปราศรัย
วันนี้ (5 ก.ย.) เวลาประมาณ 19.40 น.นายประพันธ์ คูณมี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหน้าทำเนียบรัฐบาล ว่า เหตุการณ์ที่กลุ่ม นปก.เข้ามาปะทะพันธมิตรฯ จนมีผู้เสียชีวิตนั้น อย่ามาโยนความผิดให้เรา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเพราะเขาไปอยู่กับพวกป่วนเมืองที่พามาบาดเจ็บ ซึ่งคนเหล่านั้นและนักการเมืองที่อยู่เบื้องหลัง รวมถึง ส.ส. พรรคพลังประชาชน ที่เอาประชาชนมาเป็นเครื่องมือต่างหาก ที่ต้องรับผิดชอบ อย่ามาป้ายสีพันธมิตรฯ เพราะพวกเราไม่เคยคิดทำร้ายประชาชน เราเพียงป้องกันตัวเองเท่านั้น และถ้าหากญาติผู้เสียชีวิตจะดำเนินคดี ท่านอย่าไปฟังทนายยุยง เพราะนอกจากเขาจะหลอกใช้ญาติพี่น้องมาตายแทนแล้ว ยังหวังเอาศพคนตายมาเป็นเครื่องมือทางการเมืองอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ต้องขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตด้วย เพราะไม่ว่าใครก็ตาม ก็เป็นพี่น้องคนไทยด้วยกัน
นายประพันธ์ กล่าวว่า รัฐบาลนายสมัครนั้น กำลังเข้าตาจนทุกที อยากฝากไปถึงพี่น้องทั่วประเทศทุกชนชั้น ลองพิจารณาดูว่าต้นเหตุอยู่ที่ไหน ไม่ได้อยู่ที่ประชาชน แต่อยู่ที่ นายสมัคร สุนทรเวช คนเดียวเท่านั้น จึงไม่เข้าใจว่า วันนี้คนคิดอย่างไรว่าถ้านายสมัครลาออก ชาติจะล่มจมไหม มีแต่จะล่มจม เพราะนายสมัครยังอยู่เท่านั้น ดังนั้น วันนี้น่าจะถึงเวลาแล้วที่ทั้งสังคม ต้องหันมามองวิธีแก้ปัญหาบ้านเมือง เพราะ นายสมัคร ไม่อยู่ในวิสัยที่จะแก้ได้ เนื่องจากเป็นต้นตอของปัญหา แล้วทำไมพี่น้องทั้งชาติต้องฝากอนาคตไว้กับคนพวกนี้ ซึ่งนอกจาก นายสมัคร แล้ว สภาที่มาจากการเลือกตั้ง ก็ไม่ได้ทำตัวสมเป็นผู้แทนของประชาชนเลย ได้แต่คนบ้าเลือด เสพอามิสสินจ้าง คิดแต่จะเอาประโยชน์บ้านเมือง โดยไม่สนใจปัญหาบ้านเมือง แทนที่จะแก้ปัญหา กลับราดน้ำมันเพลิง รวบรวมคนมาต่อต้านประชาชน แล้วแบบนี้จะให้ประชาชนเชื่อถืออย่างไร
ทั้งนี้ หลังจาก นายสมัคร ประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่งถือเป็นกฎหมายที่อันตรายที่สุดออกมา โดยให้ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) รับผิดชอบ แต่หลังจากนั้น เมื่อนายสมัคร รู้แล้วว่าไม่สามารถกดดันให้ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ออกมาสลายชุมนุมตามความต้องการของตัวเอง รวมถึงความต้องการที่จะปิดล้อมทำเนียบเพื่อไม่ให้พี่น้องเข้ามาสมทบ และสลายการชุมนุม อย่างที่ทำแล้ว ทำให้เขาผิดหวัง และเมื่อรู้ว่าอำนาจตัวเองถูกโอนให้พลเอกอนุพงษ์ แล้ว จึงได้ออกประกาศตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน อีก 2 ฉบับ เพื่อหาทางยึดอำนาจคืน ซึ่งเป็นกฎหมายที่พิกลพิการ และออกมาเพื่อให้ตัวเองมีอำนาจสูงสุดเท่านั้น
โดยประกาศฉบับแรก คือ การจัดตั้งกองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน และอีกฉบับ คือ กำหนดอำนาจหน้าที่ภายใต้กระทรวงให้มาอยู่ใต้อำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ทั้งหมด ซึ่งประเด็นสำคัญที่กำลังจับตา คือ มีอำนาจถึงขั้นสั่งให้เคลื่อนย้ายทหารออกมาได้
“กฎหมายแบบนี้ ออกมาได้ยังไงให้มีอำนาจผู้เดียว และยังสั่งการได้ทุกเรื่อง โดยไม่สนใจเสียงรัฐมนตรีเจ้าของกระทรวง แถมยังออกคำสั่งจับใครก็ได้หมด แต่คนที่มีอำนาจเยอะๆ แล้วใช้อำนาจปกครองอะไรไม่ได้ ก็เป็นแค่ตัวตลกและน่าสมเพช เวทนา ออกคำสั่งมาให้ตัวเองมีอำนาจล้นฟ้า แต่ไม่มีใครเชื่อเลย ไม่สามารถสั่งใครได้เลย สั่งพี่น้องที่นี้ให้กลับบ้านยังทำไม่ได้เลย เชื่อว่า ไม่น่าคงได้สำลักอำนาจตัวเองตายแน่นอน” นายประพันธ์ กล่าว
นายประพันธ์ กล่าวว่า เชื่อว่า ณ วันนี้ ไม่ว่าจะเป็นประธานวุฒิสภา ตุลาการ นักวิชาการ เอกชน และประชาชนทุกหมู่เหล่า ขณะนี้กำลังปรึกษาหารือกันว่าจะจัดการกับนายสมัครด้วยวิธีไหน และเชื่อว่า วันเวลาของเขาใกล้เข้ามาแล้ว ซึ่งการประชุมสภาเพื่อพิจารณางบประมาณ 1.8 ล้านล้านบาท เพื่อหวังว่าจะได้หาผลประโยชน์ หวังว่า เซ็นสัญญาจะได้โกงกินงบประมาณ แต่เขากำลังเพ้อฟัน เพราะยังไงเมื่อถึงเวลานั้น เราก็จะขอให้ยกเลิกหมด และสั่งให้ทบทวนทั้งหมด ดังนั้น ไม่มีวันที่จะได้โกงกินง่ายๆ ซึ่งวันนี้ ใครๆ ก็รู้แล้วว่า รัฐบาลสมัครกำลังเร่งให้ผ่าน พ.ร.บ.งบประมาณแล้วชิงยุบสภา
วันนี้ประชาชนมาถึงจุดที่สุดแล้ว เราทนไม่ไหวแล้ว เราได้ทุ่มเทต่อสู้มาจนถึงที่สุดแล้ว วันนี้ทุกฝ่ายทุกองค์กรในสังคมต้องมาช่วยแก้ปัญหา เพราะเป็นเรื่องของชาติ ซึ่งต้นตออยู่ที่ นายสมัคร และสมุนที่อยู่ในระบอบทักษิณ ดังนั้น ประชาชนจึงต้องหาทางออกด้วยตัวเอง เชื่อว่าไม่กี่วันปัญหาต้องมีทางออก ทุกวิกฤตต้องมีทางออก เพราะเรารู้ว่าถ้างบผ่านเมื่อไหร่ ยุบสภาแน่นอน ซึ่งเราไม่ได้มาชุมนุมเพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตยของคนบ้า คนที่รู้จักประชาธิปไตยแค่การเลือกตั้งและการซื้อเสียงเข้ามาเท่านั้น ดังนั้น เขาจึงต้องทำให้มีการเลือกตั้งให้ได้ด้วยการโกงอย่างผู้ชนะ แล้วก็เข้ามาโกงบ้านเมืองต่อ โดยไม่คิดเลยว่าจะเข้ามาบริหารบ้านเมืองโดยสุจริต หรือในช่วงที่บ้านเมืองมีปัญหาวิกฤตจะแก้ไขอย่างไร พี่น้องเดือดร้อนจะแก้ปัญหาอย่างไรแต่ไม่เกิดแก้เลย
นายประพันธ์ ย้ำว่า การต่อสู้ของเรายังคงอยู่ร่วมกัน ณ ที่นี่ วันนี้อยากฝากถึงพี่น้องทุกท่านว่า เราต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ประมาท เพราะอำนาจอยู่ในมือนายสมัคร ที่กำลังบ้าคลั่ง และเสียสติ ดังนั้น เราต้องไม่ประมาท และให้พี่น้องมาร่วมชุมนุมกันเยอะๆ ให้มากที่สุด เพราะมีแต่พลังและคลื่นมหาชนเท่านั้นที่สามารถยับยั้ง และกดสมัครให้จมดินได้ และด้วยพลังของประชาชนที่เข้มแข็งเท่านั้น จึงจะเป็นพลังหนุนที่ขจัดนักการเมืองเลวออกไปได้ พร้อมใจกันออกมาแสดงประชามติที่นี้ ไม่ต้องรอประชามติจอมปลอม เพื่อแสดงตัวว่าไม่ต้องการรัฐบาลหุ่นเชิด และนายสมัครบริหารบ้านเมืองต่อไป