xs
xsm
sm
md
lg

SCB ให้การศาลอายัดซ้อนภาษี “โอ๊ค-เอม” เน้นภาพลักษณ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พานทองแท้ - พิณทองทา
ศาลปกครองไต่สวนลับ ธนาคารไทยพาณิชย์ร้องกรมสรรพากรสั่งอายัดซ้อนภาษี “โอ๊ค-เอม” สั่งยื่นเอกสารเพิ่มภายใน 3 วัน ด้านผู้ร้องยืนยันภาพลักษณ์เพื่อความถูกต้องเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับลูกค้า และปชช.

วันนี้ (4 ก.ย.) คณะตุลาการศาลปกครองกลาง ที่มี น.ส.อมรา สัจจาสัย ตุลาการศาลปกครองกลาง เจ้าของสำนวนคดีดำหมายเลขที่ 1328/2551 ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนคำฟ้องที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ยื่นฟ้อง กรมสรรพากร กรณีธนาคารไทยพาณิชย์ฯ ขอให้ศาลทบทวนคำสั่งกรมสรรพากร ที่มีคำสั่งอายัดและให้ธนาคารนำส่งเงินในบัญชีเงินฝากธนาคารของ น.ส.พิณทองทา และนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรสาวและบุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำนวน 12,000 ล้านบาท เพื่อชำระค่าภาษีอากรค้าง เนื่องจากคำสั่งอายัดซ้อนกับคำสั่งอายัดของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ซึ่งธนาคารฯ เห็นว่าหากปฏิบัติตามคำสั่งของกรมสรรพากรอาจมีความผิดตามกฎหมาย

โดยการเข้าไต่สวนตัวแทนฝ่ายธนาคารฯ ประกอบด้วย นายบดินทร์ อัศวาณิชย์ กรรมการและ รองผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานกฎหมาย และนางกรรณิการ์ งามโสภี เจ้าหน้าที่นักลงทุนสัมพันธ์ และฝ่ายกฎหมายเข้าชี้แจง ขณะที่ฝ่ายกรมสรรพากรไม่มีตัวแทนผู้รับมอบอำนาจเดินทางมาร่วมไต่สวนแต่อย่างใด ทั้งนี้ การไต่สวนดังกล่าวเป็นการไต่สวนลับไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ารับฟังแต่อย่างใด และใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ ซึ่งนายบดินทร์ กรรมการและรองผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า จะกลับไปรายงานถึงการไต่สวนให้กรรมการบริหาร (บอร์ด) ทราบ โดยศาลฯ มีคำสั่งให้ส่งเอกสารเพิ่มเติมมาภายใน 3 วัน รายละเอียดเป็นอย่างไรไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะการไต่สวนเป็นความลับ การกล่าวถึงอาจจะเป็นการละเมิดอำนาจศาลได้

“ธนาคารฟ้องเพื่อขอให้ศาลพิจารณาขั้นตอน วิธีการดำเนินการอย่างถูกต้องในเรื่องนี้ว่า ธนาคารฯ ควรปฏิบัติตามคำสั่งอะไร เนื่องจากธนาคารฯเป็นบริษัทธรรมาภิบาล จึงต้องการดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายในทุกๆ เรื่อง และจากการที่ธนาคารฯ ยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่งอายัดที่ยังมีความขัดแย้ง ทำให้ภาพลักษณ์ในแง่ธุรกิจของธนาคารดีขึ้นทั้งในสายตาสื่อมวลชนและลูกค้าของธนาคาร โดยหลังเกิดเหตุหุ้นของธนาคารพุ่งสูงขึ้น”

นายบดินทร์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ที่มีการปะทะกันระหว่างกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ว่า เป็นการพัฒนาประชาธิปไตย และเป็นสิทธิที่คนที่จะออกแสดงความเห็นตามระบอบขอเพียงอย่าให้เกิดการนองเลือด ล้มตาย ส่วนตัวเชื่อว่าหากผ่านวิกฤตช่วงนี้ไปได้ ระยะยาวสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจน่าจะดีขึ้น เพราะถ้าเทียบเศรษฐกิจปี 2551 จะดีขึ้นมากกว่าเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น