แก๊ง พปช.รับลูก “หมัก” เชียร์สุดลิ่มไม่ต้องออก ไม่ต้องยุบ พาลหาเรื่องยื่นดีวีดีบันทึกภาพกลุ่ม ส.ว.ขึ้นเวทีกลุ่มพันธมิตร งัดข้อหาพิลึกร่วมสมคบกบฏล้มล้างรัฐบาลหอกหัก วางก้ามขู่ “อนุพงษ์” ละเว้นปฏิบัติหน้าที่แก้เกี้ยว ฐานฉีกทิ้ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
วันนี้ (4 ก.ย.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน แถลงว่า ตนพร้อมด้วย ส.ส.พรรคพลังประชาชนรวมจำนวน 17 คน ได้ลงชื่อยื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุด (อสส.) พร้อมแนบดีวีดีบันทึกภาพของ ส.ว.ที่ขึ้นปราศรัยของเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อให้พิจารณากรณีที่กลุ่ม ส.ว.ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ เมื่อค่ำวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่ชุมนุมในทำเนียบรัฐบาล โดยถือได้ว่า ส.ว.กลุ่มดังกล่าวร่วมกระทำความผิดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 68 เช่นเดียวกับกลุ่มพันธมิตรฯ อ้างการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 63 ในการชุมนุมประท้วงมาโดยตลอด แต่กลับมีอาวุธและสิ่งเสพติดในการชุมนุมบุกรุกสถานที่ราชการ และมีเป้าหมายที่จะล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือเพื่อให้ได้ซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญ และมี ส.ว.บางคนระบุว่าได้เป็น ส.ว.เพราะร่วมเวทีพันธมิตรฯถือเป็นการยอมรับว่าร่วมกระทำความผิดข้อหากบฎแผ่นดินเช่นเดียวกับกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งที่ ส.ว.ต้องวางเป็นกลาง
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่จะยื่นต่อ อสส.ในวันนี้จะไม่ระบุชื่อกลุ่ม ส.ว. เพราะภาพบันทึกในดีวีดีนี้มีการแนะนำตัวชัดเจน โดยระบุแค่ว่าเป็นกลุ่ม ส.ว.ที่ปรากฏในภาพข่าวบ่อยๆ อาทิ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม.เป็นต้น
เมื่อถามว่า ส.ส.ในพรรคพลังประชาชนมีความเห็นอย่างไรต่อกระแสเรียกร้องให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ และนายกฯ ไม่ควรลาออก เพราะเป็นความเห็นของคนเพียงกลุ่มเดียว หรือแม้แต่การยุบสภาก็ไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ ซึ่งวันนี้การที่นายสมัครแสดงศักยภาพในการแก้ปัญหาวิกฤติการเมืองตอนนี้ก็สร้างความเชื่อมั่นต่อ ส.ส.ของพรรค ซึ่ง ส.ส.ภาคเหนือของพรรคยังยืนหยัดสนับสนุนนายสมัคร และจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้านายสมัครถูกตัดสินว่ามีความผิดจากคดีความต่างๆ จนต้องหลุดจากตำแหน่งจะยังเลือกนายสมัครกลับมาอีกหรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ส.ส.ยังเชื่อมั่นในการดูแลปัญหาของนายสมัคร ซึ่งนายสมัครก็ได้พิสูจน์ตัวเอง ทั้งนี้ ส่วนสถานการณ์ในอนาคตต้องไปดูกันอีกครั้ง ส่วนข้อเสนอที่จะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตราเพื่อนำคนนอกมาเป็นนายกฯนั้น พรรคพลังประชาชนไม่เห็นด้วยแน่นอน เพราะขัดหลักประชาธิปไตย
นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ตนและส.ส.ส่วนใหญ่ในพรรคเห็นด้วยกับการหารือเพื่อแก้วิกฤติการเมืองโดยการเปิดประชุมร่วม 2 สภาอีกครั้ง แต่ต้องการให้ไปดูเลยว่าถ้ากฎหมายฉบับใดไม่สามารถบังคับใช้ได้ ก็ให้ฉีกทิ้งไป อย่างไรก็ตาม ถ้า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. มีท่าทีที่อ่อนต่อการบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่งอาจเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทางราชการ ผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ตรงนี้ต้องถูกนำมาคุยกันในสภา