การประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่างงบประจำปี ป่วน “ชัย” สั่ง ส.ส.ฝ่ายค้านปิดปาก ห้ามถกประเด็นม็อบนรกบุกพันธมิตรฯ ด้าน ปชป.ยันมีข้อมูล พปช.พาคนไปตาย แฉหลักฐานรมต.-ส.ส.สั่งแก๊งออฟโฟร์ขนม็อบเข้ากรุง ขณะที่ “เด็กหมัก” ใจจืด ไม่ร่วมไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะ
วันนี้ (3 ก.ย) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ทั้งนี้ ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระได้เปิดให้สมาชิกหารือ โดยนายสุวโรช พะลัง ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ได้หารือถึงเหตุการณ์การปะทะมีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตว่า ทราบจากข่าวว่ากลุ่มที่ยกพวกเข้ามาปะทะจนมีการฆ่ากันตาย มี ส.ส.บางคนอยู่เบื้องหลัง จึงขอให้คณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาสอบสวนเรื่องดังกล่าวด้วย
นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน ลุกตอบโต้ทันทีว่า กลุ่มต่างๆ ที่ออกมาทำให้บ้านเมืองวุ่นวายไม่ทำตามกฎหมาย บ้านเมืองจะอยู่ไม่ได้ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาเรียกร้องให้นายกฯ ลาออกด้วยวิธีการดังกล่าวไม่ถูกต้อง ตนเสนอว่ารัฐบาลควรให้ทำประชามติ เพราะประชาชนในต่างจังหวัดไม่เห็นด้วยกับพันธมิตรฯ มากมาย ตอนนี้ร่าง พ.ร.บ.ประชามติอยู่ที่วุฒิสภา รัฐบาลจะออกเป็น พ.ร.ก.ก่อนก็ได้ แล้วถามประชาชนว่าใครเห็นด้วยกับฝ่ายไหนและที่มีการกล่าวว่า มี ส.ส.อยู่เบื้องหลัง ตนคิดว่ามี ส.ส.บางพรรคไปขึ้นเวทีของผู้ชุมนุม ถามว่าฝ่ายใดไปเริ่มก่อน นอกจากนี้มีการแย่งศพประชาชนที่เสียชีวิตเพื่ออ้างว่าเป็นกลุ่มตนเอง น่าละอายแก่ใจ ตำรวจต้องสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดให้ได้
จากนั้นมีการประท้วงเล็กน้อยจาก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากนายชัยได้พยายามตัดบท ทำให้ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไปเยี่ยมผู้ชุมนุมในฐานะผู้แทนปวงชน แต่มี ส.ส.พรรคพลังประชาชน ไปขึ้นเวทีของอีกกลุ่มหนึ่งทำให้เกิดเหตุการณ์ปะทะกันรุนแรง ทำให้นายชัยตัดบทอีกครั้งและนำเข้าสู่วาระการประชุมต่อไป
ด้าน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ลุกขึ้นหารือว่าในการประชุมร่วมของรัฐสภาเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม เวลาประมาณ 22.00 น.ในห้องรับรองสมาชิก มีรัฐมนตรีและส.ส.บางคนพูดกันว่าจะขนคนมากี่คนและมีการติดต่อไปยังหนึ่งในแก๊งออฟโฟร์ และเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเกือบตลอดเวลา หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ขนคนมาปะทะกันการที่ตนมาพูดเช่นนี้เพราะต้องการถามหาคนรับผิดชอบจากรัฐบาลและ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะผู้รับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ ส.ส.พรรคพลังประชาชนหลายคน อาทิ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา ประท้วงโดยเห็นว่าเข้าสู่วาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ แล้ว ให้ประธานดำเนินการประชุมตามระเบียบวาระ แต่นายสาทิตย์ยังไม่ยอม พยายามขอหารืออ้างว่าสถานการณ์รุนแรงจนมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และมีคนในสภาเข้าไปอยู่เบื้องหลัง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในการแก้ปัญหานี้ ผบ.ทบ.บอกว่า ฝ่ายนิติบัญญัติควรจะหารือกันมากกว่านี้ ซึ่งตนได้หารือกับประธานสภาฯ แล้ว สาเหตุที่ไม่สามารถเสนอญัตติแล้วเลื่อนขึ้นมาพิจารณาได้ เพราะเป็นการประชุมสภาสมัยนิติญัตติ ต้องรอการประชุมร่วมรัฐสภา ดังนั้นจึงเลือกวิธีการหารือแบบนี้ เพราะผู้รับผิดชอบบอกแล้วว่าขณะนี้เป็นภาวะที่ประชาชน 2 กลุ่มทะเลาะกันอย่างรุนแรง และการที่ประธานวิปฝ่ายค้านออกมายืนยันว่ามีการใช้สภาแห่งนี้ไปเกี่ยวข้องกับความรุนแรง แต่ทันทีที่ประธานวิปฝ่ายค้านพูดเรื่องนี้ก็งดถ่ายทอดการประชุม ซึ่งพรรคก็เคารพอำนาจของประธาน ถ้าให้พูดก็พูด แต่ถ้าไม่ให้พูดก็จะขอนำข้อเท็จจริงไปเสนอกับประธานโดยตรง
ทั้งนี้ นายชัย ได้กล่าวว่า ยินดีจะรับข้อมูลจากผู้นำฝ่ายค้าน คิดว่าน่าจะต้องมีการประชุมร่วมรัฐสภาอยู่แล้วเพื่อจะหารือร่วมกัน 3 ฝ่าย คือ ประธานวุฒิสภา ประธานสภาฯ และผู้นำฝ่ายค้าน ในการยุติปัญหาดังกล่าว
จากนั้น นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้ที่ประชุมยืนไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต 1 นาที แต่นายชัยไม่อนุญาตโดยให้เหตุผลว่าไม่สามารถดำเนินการได้ หากจะยืนก็ขอให้ยืนคนเดียวไปก่อน เนื่องจากไม่ได้อยู่ในระเบียบวาระ
ขณะที่ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคพลังประชาชน ลุกขึ้นประท้วงพร้อมเสนอว่าถ้าอยากไว้อาลัยให้ไปทำบุญที่วัด ไม่ต้องมาสร้างภาพในการประชุมสภา ทำให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์หลายคนไม่พอใจและประท้วงให้ถอนคำว่า สร้างภาพ แต่นายสุทินไม่ถอน โดยยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องเสียหาย ท้ายที่สุดนายบุญยอดได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้นนายชัยได้ตัดบทเข้าสู่วาระการประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงาน เป็นที่น่าสังเกตว่า ในการประชุมสภา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ส่วนใหญ่ สวมสูทดำและเนกไทดำเพื่อไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตด้วย