"พิภพ" แนะ "สมัคร" เอาอย่างนายกฯ ญี่ปุ่น ที่มีจิตสำนึกลาออก เพียงแค่ผลโหวตประชาชนไม่พอใจ ชี้อย่าดันทุรังอยู่ต่อโดยไม่สนใจชาติบ้านเมืองเสียหาย เพราะเป็นมติมหาชนและมติของสังคมแล้ว พร้อมย้ำพันธมิตรฯ อย่าลืมจุดยืน เช็กบิล "ทักษิณ" ที่ต้องเอาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย
วันที่ 1ก.ย. เวลาประมาณ 22.20 น. นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นกล่าวบนเวทีหน้าทำเนียบรัฐบาลว่า วันนี้ มีนักข่าวต่างประเทศมาสัมภาษณ์ผมเช่นกัน ซึ่งเป็นคำถามที่เหมือนกับคำถามที่เราถูกถามเสมอว่า รัฐบาลเขามาจากการเลือกตั้ง แล้วเรามีสิทธิอะไรไปไล่เขา ซึ่งผมก็ถามกลับไปว่า ประเทศคุณมีรัฐธรรมนูญที่ให้สิทธิประชาชนชุมนุม หากมีรัฐบาลเลวบริหารประเทศหรือไม่ เขาก็บอกว่ามี ดังนั้น เราเองก็มีสิทธิเช่นกัน เช่นเดียวกับเหตุการณ์หลังจากรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ตัวแทนจากสถานฑูตถามผมว่า ทำไมไม่ให้ประชาชนตัดสินใจด้วยการเลือกตั้ง ว่าจะเลือกเขากลับมาบริหารประเทศต่อหรือไม่ ผมก็บอกไปว่า ท่านไม่เข้าใจระบบการเลือกตั้งของไทย ที่มีการซื้อสิทธิขายเสียง เพื่อให้ได้เข้ามาบริหารประเทศ
นายพิภพกล่าวว่า เมื่อเข้ามาบริหารประเทศแล้ว บริหารต่อไปไม่ได้ เพราะไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชน ก็สมควรจะลาออกไป แต่นายกสมัคร สุนทรเวช กลับยังไม่รู้ว่าตัวเองผิดตรงไหน กลับบอกว่าเป็นความผิดของเรา ที่ทำให้เขาเข้ามาไม่ได้ แต่ไม่รู้เลยว่าตัวเองไม่สามารถทำให้ประชาชนเชื่อฟังเข้าได้ ผิดกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่เพียงแต่ผลสำรวจจากประชาชนออกมาว่า ไม่พอใจนายกฯ 80% เขาก็ตัดสินใจลาออกทันที นั่นแสดงว่า นายสมัคร ไม่เข้าใจหน้าที่ของนายกที่ต้องบริหารประเทศให้ได้ แต่กลับโทษประชาชนเมื่อทำไม่ได้
"ประเทศอื่นในโลกที่มีประธานาธิบดี หรือนายกรัฐมนตรี สิ่งที่เขาต้องทำคือ ปฏิบัติราชการแผ่นดินเพื่อให้ประชาชนยอมรับ เมื่อทำไม่ได้ก็เกิดการชุมนุมประท้วง หยุดเดินรถ ตัดน้ำ ตัดไฟ เพื่อแสดงให้เห็นว่า ผู้บริหารประเทศไม่สามารถทำให้เขายอมรับ แต่นายกสมัคร กลับไปโทษพนักงาน โดยไม่โทษตัวเองว่าไม่ได้รับความน่าเชื่อถือจากประชาชนแล้ว"นายพิภพกล่าว
แกนนำพันธมิตรกล่าวต่อว่า ตอนนี้ นายสมัครไม่มีอนาคตทางการเมืองแล้ว ซึ่งการเป็นนายกครั้งนี้ จะเป็นครั้งสุดท้าย เพราะหากลงเลือกตั้ง ส.ส. ก็คงไม่มีใครเลือก ในขณะที่พรรคพลงประชาชนเองเขาก็ไม่ผูกพันธ์ว่าเป็นพรรคเขา เพราะพรรคประชากรไทยยังทิ้งมาแล้ว ดังนั้น จึงยืนยันที่จะเป็นนายกฯ ต่อไป โดยไม่สนใจว่าพรรคจะเสื่อมหรือไม่ หรือประเทศจะเสียหายอย่างไร ซึ่งคนที่ไม่รับผิดชอบประเทศชาติเช่นนี้ เป็นนายกไม่ได้ ถ้าเป็นนายกฯ ในต่างประเทศ เขาลาออกไปนานแล้ว
ล่าสุด วันนี้ มีข่าวที่ปรากฏตามหน้าหนังสือพิมพ์ว่า ผู้นำทางธุรกิจที่ไม่แสดงความคิดทางการเมืองและสงวนท่าทีในเวทีสาธารณะ เพราะกลัวถูกรัฐบาลกลั่นแกล้ง ต่างออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทางออกของวิกฤตครั้งนี้ นายกต้องลาออกเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ ชี้ให้เห็นว่า เรื่องนี้เป็นมติมหาชนและมติของสังคมแล้ว เพราะเราได้นายกฯ ที่ไม่สนใจปัญหาบ้านเมือง หน้าด้านอยู่โดยไม่สนใจว่าประเทศชาติจะเสียหายอย่างไร
นายพิภพได้ยกคำกล่าวของ นายประพันธ์ศักดิ์ กมลเพ็ชร อดีตอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ที่ติดตามภาระกิจของพันธมิตรมาโดยตลอด ซึ่งท่านกล่าวว่า "สมัคร เป็นอมนุษย์ ต้องมีวิธีเอาชนะแบบถูกต้อง เป็นธรรม บันฑิตสรรเสริญ และได้ผลเฉียบขาด"
นายพิภพกล่าวย้ำว่า เป้าหมายของเราไม่ได้อยู่ที่นายสมัคร คนเดียว แต่อยู่ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรด้วย เพราะต่อให้นายกสมัครลาออก หรือพรรคพลังประชาชนถูกยุบ แต่เขาก็ตั้งพรรคใหม่รอไว้แล้ว เพื่อที่จะกลับมายึดอำนาจ ด้วยการกลับมาแก่รัฐธรรมนูญอีกครั้ง เพื่อไม่ให้ตัวเองขึ้นศาล ดังนั้น เราจึงหยุดไม่ได้ ซึ่งหากเราชนะไปทีละเปราะแล้ว 5 แกนนำก็จะปรึกษากันต่อไปว่าขยับอย่างไร ถ้าทักษิณไม่หยุดเราก็ไม่หยุดเช่นกัน ถึงวันนี้ เราชนะมาเยอะ แต่ยังไม่จบเพราะเราต้องเอา ทักษิณ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้ ซึ่งการกระทำของเรา ไม่ใช่กบฏ แต่เรามีสิทธิชอบธรรม เพื่อไม่ให้อมนุษย์บริหารประเทศ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย
วันที่ 1ก.ย. เวลาประมาณ 22.20 น. นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นกล่าวบนเวทีหน้าทำเนียบรัฐบาลว่า วันนี้ มีนักข่าวต่างประเทศมาสัมภาษณ์ผมเช่นกัน ซึ่งเป็นคำถามที่เหมือนกับคำถามที่เราถูกถามเสมอว่า รัฐบาลเขามาจากการเลือกตั้ง แล้วเรามีสิทธิอะไรไปไล่เขา ซึ่งผมก็ถามกลับไปว่า ประเทศคุณมีรัฐธรรมนูญที่ให้สิทธิประชาชนชุมนุม หากมีรัฐบาลเลวบริหารประเทศหรือไม่ เขาก็บอกว่ามี ดังนั้น เราเองก็มีสิทธิเช่นกัน เช่นเดียวกับเหตุการณ์หลังจากรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ตัวแทนจากสถานฑูตถามผมว่า ทำไมไม่ให้ประชาชนตัดสินใจด้วยการเลือกตั้ง ว่าจะเลือกเขากลับมาบริหารประเทศต่อหรือไม่ ผมก็บอกไปว่า ท่านไม่เข้าใจระบบการเลือกตั้งของไทย ที่มีการซื้อสิทธิขายเสียง เพื่อให้ได้เข้ามาบริหารประเทศ
นายพิภพกล่าวว่า เมื่อเข้ามาบริหารประเทศแล้ว บริหารต่อไปไม่ได้ เพราะไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชน ก็สมควรจะลาออกไป แต่นายกสมัคร สุนทรเวช กลับยังไม่รู้ว่าตัวเองผิดตรงไหน กลับบอกว่าเป็นความผิดของเรา ที่ทำให้เขาเข้ามาไม่ได้ แต่ไม่รู้เลยว่าตัวเองไม่สามารถทำให้ประชาชนเชื่อฟังเข้าได้ ผิดกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่เพียงแต่ผลสำรวจจากประชาชนออกมาว่า ไม่พอใจนายกฯ 80% เขาก็ตัดสินใจลาออกทันที นั่นแสดงว่า นายสมัคร ไม่เข้าใจหน้าที่ของนายกที่ต้องบริหารประเทศให้ได้ แต่กลับโทษประชาชนเมื่อทำไม่ได้
"ประเทศอื่นในโลกที่มีประธานาธิบดี หรือนายกรัฐมนตรี สิ่งที่เขาต้องทำคือ ปฏิบัติราชการแผ่นดินเพื่อให้ประชาชนยอมรับ เมื่อทำไม่ได้ก็เกิดการชุมนุมประท้วง หยุดเดินรถ ตัดน้ำ ตัดไฟ เพื่อแสดงให้เห็นว่า ผู้บริหารประเทศไม่สามารถทำให้เขายอมรับ แต่นายกสมัคร กลับไปโทษพนักงาน โดยไม่โทษตัวเองว่าไม่ได้รับความน่าเชื่อถือจากประชาชนแล้ว"นายพิภพกล่าว
แกนนำพันธมิตรกล่าวต่อว่า ตอนนี้ นายสมัครไม่มีอนาคตทางการเมืองแล้ว ซึ่งการเป็นนายกครั้งนี้ จะเป็นครั้งสุดท้าย เพราะหากลงเลือกตั้ง ส.ส. ก็คงไม่มีใครเลือก ในขณะที่พรรคพลงประชาชนเองเขาก็ไม่ผูกพันธ์ว่าเป็นพรรคเขา เพราะพรรคประชากรไทยยังทิ้งมาแล้ว ดังนั้น จึงยืนยันที่จะเป็นนายกฯ ต่อไป โดยไม่สนใจว่าพรรคจะเสื่อมหรือไม่ หรือประเทศจะเสียหายอย่างไร ซึ่งคนที่ไม่รับผิดชอบประเทศชาติเช่นนี้ เป็นนายกไม่ได้ ถ้าเป็นนายกฯ ในต่างประเทศ เขาลาออกไปนานแล้ว
ล่าสุด วันนี้ มีข่าวที่ปรากฏตามหน้าหนังสือพิมพ์ว่า ผู้นำทางธุรกิจที่ไม่แสดงความคิดทางการเมืองและสงวนท่าทีในเวทีสาธารณะ เพราะกลัวถูกรัฐบาลกลั่นแกล้ง ต่างออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทางออกของวิกฤตครั้งนี้ นายกต้องลาออกเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ ชี้ให้เห็นว่า เรื่องนี้เป็นมติมหาชนและมติของสังคมแล้ว เพราะเราได้นายกฯ ที่ไม่สนใจปัญหาบ้านเมือง หน้าด้านอยู่โดยไม่สนใจว่าประเทศชาติจะเสียหายอย่างไร
นายพิภพได้ยกคำกล่าวของ นายประพันธ์ศักดิ์ กมลเพ็ชร อดีตอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ที่ติดตามภาระกิจของพันธมิตรมาโดยตลอด ซึ่งท่านกล่าวว่า "สมัคร เป็นอมนุษย์ ต้องมีวิธีเอาชนะแบบถูกต้อง เป็นธรรม บันฑิตสรรเสริญ และได้ผลเฉียบขาด"
นายพิภพกล่าวย้ำว่า เป้าหมายของเราไม่ได้อยู่ที่นายสมัคร คนเดียว แต่อยู่ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรด้วย เพราะต่อให้นายกสมัครลาออก หรือพรรคพลังประชาชนถูกยุบ แต่เขาก็ตั้งพรรคใหม่รอไว้แล้ว เพื่อที่จะกลับมายึดอำนาจ ด้วยการกลับมาแก่รัฐธรรมนูญอีกครั้ง เพื่อไม่ให้ตัวเองขึ้นศาล ดังนั้น เราจึงหยุดไม่ได้ ซึ่งหากเราชนะไปทีละเปราะแล้ว 5 แกนนำก็จะปรึกษากันต่อไปว่าขยับอย่างไร ถ้าทักษิณไม่หยุดเราก็ไม่หยุดเช่นกัน ถึงวันนี้ เราชนะมาเยอะ แต่ยังไม่จบเพราะเราต้องเอา ทักษิณ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้ ซึ่งการกระทำของเรา ไม่ใช่กบฏ แต่เรามีสิทธิชอบธรรม เพื่อไม่ให้อมนุษย์บริหารประเทศ
