ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย ออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลสัตว์นรกใช้กำลังสลายกลุ่มพันธมิตรฯ พร้อมปกป้องเจ้าหน้าที่ เรียกร้องทุกฝ่ายหยุดการนำมวลชนเพื่อก่อให้เกิดการเผชิญหน้า
วันนี้ (31 ส.ค.) ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย (YPD) ออกแถลงการณ์เรื่อง ขอประณามการใช้ความรุนแรงและขอให้ทุกฝ่ายดำเนินการแก้ไขความขัดแย้งอย่างจริงจัง โดยมีเนื้อหา ดังนี้
สืบเนื่องจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ได้จัดการชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนิน และทำเนียบรัฐบาล นำมาสู่การใช้ความรุนแรงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเข้ายึดพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จนเกิดเหตุการณ์ปะทะกันและมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายในวันที่ 29 สิงหาคม 2551 โดยในช่วงค่ำวันเดียวกัน จากการเดินขบวนของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเพื่อประท้วงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำการสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรงและเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบความเสียหายหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาลนั้นได้เกิดการปะทะและยิงแก๊สน้ำตาจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
จากการลงพื้นที่เข้าสังเกตการณ์ตลอดทั้งวันของศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย และเครือข่ายประชาสังคมไม่ใช้ความรุนแรง ซึ่งเป็นกลุ่มที่วางตัวเป็นกลางทางการเมืองและพยายามหาทางออกจากความขัดแย้งอย่างสันติมาโดยตลอด ได้พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการยิงแก๊สน้ำตาของฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายรายอาการสาหัส โดยก่อนหน้านี้จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อช่วงกลางวันในวันเดียวกัน ผู้ชุมนุมบางรายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทุบตีด้วยกระบองจนบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้
ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย (YPD) สนับสนุนสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองอย่างหลากหลาย โดยยึดแนวทางสันติวิธี คัดค้านการยั่วยุให้เกิดการใช้ความรุนแรงหรือกระทบกระทั่งกัน และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงระหว่างกันมาโดยตลอด มีความเห็นเพิ่มเติมต่อสถานการณ์และข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้
1.ขอเรียกร้องให้รัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกว่าการกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล ยุติแนวทางการใช้กำลังและอาวุธเข้าสลายการชุมนุมทั้งหมด กระทั่งความคิดที่จะประกาศภาวะฉุกเฉินฯ เพื่อเปิดทางให้ใช้กระบวนการทางการเมืองเข้าเจรจา การใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐในครั้งที่ผ่านมา ถือเป็นการก่ออาชญากรรมต่อพลเมืองอย่างหนึ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในยุคที่มีความเป็นประชาธิปไตย และหากแม้พฤติกรรมใดๆ ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นการเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือลิดรอนสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ก็สมควรถูกดำเนินการทุกอย่างไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ดังนั้น รัฐบาลจะต้องให้มีการสืบสวนสอบสวนกรณีที่เกิดขึ้น ใครเป็นผู้ยิงแก็สน้ำตาตามที่นายกรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามบิดเบือนและปัดความรับผิดชอบ เพื่อลงโทษผู้ที่มีส่วนในการสั่งการให้เกิดการใช้ความรุนแรงดังกล่าว และรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น
2.เราขอเรียกร้องให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พยายามอย่างถึงที่สุดที่จะควบคุมไม่ให้เกิดการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้นจากมวลชนของตนเอง ซึ่งอาจจะนำไปสู่ข้ออ้างของเจ้าหน้าที่รัฐในการใช้ความรุนแรงเพื่อปราบปรามการชุมนุมได้ สำหรับกรณีที่ถูกสังคมตั้งข้อกังขา เช่น การบุกยึดสถานีโทรทัศน์ NBT ซึ่งเข้าข่ายการลิดรอนเสรีภาพของสื่อมวลชน กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยควรออกมาแสดงความขอโทษ พร้อมกับชี้แจงถึงเหตุผลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติการดังกล่าวที่ปรากฏออกมาตามสื่อมวลชนด้วย นอกจากนี้ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยควรพิจารณาหาทางปรับเปลี่ยนแนวทางการชุมนุมให้นำไปสู่การเจรจาหาข้อยุติร่วมกันกับฝ่ายรัฐบาล แทนการมุ่งเป้าหมายไปที่การกดดันขับไล่รัฐบาลเพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้นำไปสู่ทางออกที่เกิดจากการพบกันครึ่งทางของทุกฝ่ายท่ามกลางวิกฤตการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง
3.เราขอเรียกร้องรัฐสภา โดยพรรคการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา แสวงหาทางออกจากวิกฤติร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกันจากทุกฝ่าย โดยไม่ฉกฉวยโอกาสทางการเมืองเพื่อประโยชน์ส่วนตนในท่ามกลางวิกฤตความขัดแย้งในสังคมไทย ขอให้สมาชิกรัฐสภาและรัฐบาล ทำหน้าที่ในการเป็นผู้แทนปวงชนทั้งประเทศอย่างเป็นกลาง ปราศจากอคติทั้งปวง เพื่อหาทางออกจากวิกฤติความรุนแรงอย่างจริงจังและประกาศเป็นสัญญาประชาคม โดยมีผู้แทนจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รัฐบาล และตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆ ร่วมเจรจาแสวงหาทางออก โดยใช้เวทีรัฐสภา
4.เราขอคัดค้านกองทัพ ให้ยุติแนวคิดหรือแนวทางที่จะนำมาสู่การก่อปฏิวัติรัฐประหารโดยการใช้กำลังทหาร ซึ่งไม่สามารถเป็นทางออกที่ดีแก่การพัฒนาประชาธิปไตยได้ ดังนั้น เราจะอาจยอมรับเหตุผลข้ออ้างของฝ่ายใดๆ ที่ต้องการให้มีการใช้กำลังทหารเพื่อยุติความขัดแย้งทางการเมืองไทยได้ ไม่ว่าฝ่ายใด การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทยจำเป็นต้องอาศัยการพัฒนาการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงทางความคิดของประชาชนในสังคม มิใช่การใช้กำลังอาวุธข่มขู่ เข่นฆ่า เปลี่ยนมือผู้มีอำนาจโดยขาดซึ่งการพัฒนาทางความคิดและสำนึกความเป็นพลเมืองในสังคมประชาธิปไตย
5.เราขอเรียกร้องให้ผู้นำทางการเมืองและกลุ่มพลังทางการเมืองต่างๆ ยุติการนำกำลังมวลชน เข้าปะทะ ก่อความรุนแรง หรือคุกคามต่อร่างกายและทรัพย์สินระหว่างกัน ซึ่งจะนำมาสู่การขยายตัวของความขัดแย้งและความรุนแรงไม่สิ้นสุด
ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย (YPD) มีความหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาทางการเมืองไทยไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยอยู่บนหลักการสันติวิธีและกระบวนการวิถีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง โดยเชื่อว่าปัญหาการเมืองไทย ต้องแก้ด้วยกระบวนการประชาธิปไตย