ผู้จัดการออนไลน์ - ชาติไทย-เพื่อแผ่นดิน-ประชาราช แถลงกับผู้สื่อข่าว ยืนยันไม่ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนที่เป็นแกนนำแน่นอน ระบุสถานการณ์ยังไม่ร้ายแรงและรัฐบาลยังไม่ถึงทางตัน ยังกล้าเสนอใช้สภาร่วม ส.ส.-ส.ว.ถกแก้ปัญหา “หนูนา” เห็นใจตำรวจอัดพันธมิตรฯ-ส.ว.กู้ชาติ ส่งเสริมความรุนแรง
ในช่วงค่ำของวันที่ 29 ส.ค.ที่บ้านพักในย่านจรัญสนิทวงศ์ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ได้นัดแกนนำและตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาล ประกอบไปด้วย นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช นายวิทยา บุรณศิริ ประธานกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคพลังประชาชน ตัวแทนจากพรรคเพื่อแผ่นดิน ตัวแทนจากพรรคมัชฌิมาธิปไตย ทว่าไม่มีตัวแทนจากพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาเข้าประชุมแต่อย่างใด
หลังการประชุมนายบรรหารได้แถลงต่อสื่อมวลชนโดยปฏิเสธข่าวที่ระบุว่า พรรคร่วมรัฐบาลจะถอนตัวจะถอนตัวจากการเป็นรัฐบาลร่วมกับพรรคพลังประชาชน พร้อมระบุด้วยว่าก็ไม่เห็นด้วยกับการยุบสภาเช่นกัน
ขณะที่ นายมั่น พัธโนทัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินให้สัมภาษณ์ว่า สถานการณ์การเมืองในปัจจุบันนั้นยังไม่ร้ายแรงจนถึงเวลาจะถอนตัวจากรัฐบาล เนื่องจากรัฐบาลยังไม่ถึงทางตัน โดยปัจจุบันพรรคเพื่อแผ่นดินที่มีรัฐมนตรี 4 คน นั้นพร้อมแก้ปัญหาร่วมกับรัฐบาลต่อไป
ด้าน นายเสนาะ กล่าวว่า ปัญหานี้ควรจะมีการหารือกันในรัฐสภา เนื่องจากที่ผ่านมา รัฐสภาสามารถหาทางออกของบ้านเมืองได้ในหลายปัญหาและปัญหาขณะนี้อยู่เหนือเหตุผล แม้แต่อำนาจตุลาการ อำนาจศาลก็ไม่สามารถควบคุมได้ โดยวันอาทิตย์ที่ 31 ส.ค.นี้จะมีการประชุมร่วม 2 สภา คือ สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาเพื่อร่วมกันหาทางออก ทั้งนี้ บรรยากาศการประชุมจะไม่แบ่งเป็น ส.ส.รัฐบาล หรือฝ่ายค้าน แต่จะใช้รัฐสภาในฐานะอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติในการแก้ไข
สำหรับการประสานงานนัดหมายในการประชุมนั้น นายบรรหารระบุว่า มีการประสานงานเพื่อเปิดประชุมไปยังนายสมัครแล้ว และนายสมัครได้แจ้งเรื่องไปยัง นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาเพื่อดำเนินการแล้ว แม้ว่าจะเป็นวันหยุดราชการก็ตาม
ขณะที่ ก่อนหน้านั้น นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา รองหัวหน้าพรรคชาติไทย เปิดเผยว่า รู้สึกเห็นใจตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่และภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ภาพลักษณ์ของตำรวจเสียหาย พร้อมกับตำหนิกลุ่มพันธมิตรฯ ที่มีส่วนทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นเช่นกัน และตำหนิการไปเยี่ยมให้กำลังใจพันธมิตรฯ ของ ส.ว.กลุ่มหนึ่ง พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่า มีเจตนาอะไรแอบแฝง เป็นการเดินทางไปโดยบริสุทธิ์ใจหรือไม่ และกล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องรักษากฎหมาย รวมถึงไม่กังวลว่า การให้ความเห็นในเรื่องนี้จะทำให้ภาพลักษณ์ของพรรคชาติไทยเสียหาย นอกจากนี้ บุตรสาวของนายบรรหารยังได้เรียกร้องกลุ่มพันธมิตรฯ หันมาทบทวนว่าสิ่งที่ทำนั้นสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนหรือไม่ ขณะที่ทางพรรคยังไม่ได้นัดหารือสมาชิกพรรคถึงเรื่องที่เกิดขึ้น