กาฬสินธุ์ - ชาวนาที่จังหวัดกาฬสินธุ์ กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จากปัญหาหนูระบาดกัดกินต้นข้าว จนต้องหาวิธีกำจัดโดยใช้กับดัก ขณะที่ชาวนาหลายรายได้หาต้นกล้ามาปักดำซ่อมแซมใหม่ หลังต้นข้าวได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง
ความเดือดร้อนของการประกอบอาชีพภาคกสิกรรม โดยเฉพาะในกลุ่มชาวนาในจังหวัดกาฬสินธุ์ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ที่นอกจากจะประสบกับปัญหาค่าแรงแพง ปุ๋ยเคมีราคาสูง และหอยเชอรี่ระบาดแล้ว ล่าสุดพบว่าต้นข้าวที่กำลังแตกใบเขียวยังถูกหนูกัดทำลายให้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากอีกด้วย
นายสมาน ภูใบบัง อายุ 62 ปี ชาวนาต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในขณะที่ต้นข้าวกำลังแตกกอ ก็ประสบปัญหาถูกหนูนากัดกินต้นข้าวได้รับความเสียหาย โดยมันจะออกหากัดทำลายในเวลากลางคืน ที่ทีแรกจะเลือกกัดกินต้นข้าวข้างคูคันนา จากนั้นจะย้ายไปกัดกินต้นที่มีความสมบูรณ์เป็นหย่อมๆ หากป้องกันไม่ทันมันจะลุกลามเป็นบริเวณกว้างอย่างกับเกิดโรคระบาด นาข้าวของตนมีจำนวน 10 ไร่ ในตอนนี้พบว่าถูกหนูทำลายไปประมาณ 3% แล้ว
จึงได้หาวิธีการป้องกันโดยเกี่ยวหญ้าข้างคูคันนาออก เพื่อไม่ให้หนูมาอาศัย และใช้กับดักเพื่อกำจัดหนู ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้ได้ผลในระดับหนึ่ง
ขณะที่ นายกิตติศักดิ์ ภูโคงกิ่ง อายุ 47 ปี ชาวนาต.หัวงัว อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ปัญหาหนูระบาดกัดกินต้นข้าว ส่วนมากจะเกิดขึ้นในช่วงที่ข้าวกำลังตั้งท้องถอดรวง ประมาณต้นเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม แต่จากที่หนูได้ออกมาสร้างความเสียหายให้กับต้นข้าวในช่วงนี้ แสดงให้เห็นว่าประชากรหนูได้เพิ่มขึ้น จนต้องออกมากัดกินต้นข้าวอย่างที่เห็น ที่นาของตนอยู่ใกล้ป่าละเมาะ เหมาะต่อการที่หนูจะใช้เป็นแหล่งหลบอาศัย จึงประสบปัญหาหนูกัดกินต้นข้าวเป็นจำนวนมาก จนต้องหาต้นกล้ามาปักดำซ่อมแซมใหม่
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากชาวนาเกรงจะได้รับเชื้อไข้ฉี่หนู ในช่วงนี้จึงไม่นิยมจับหนูมาทำกิน ทำให้ประชากรหนูเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และทำให้เกิดภาวะขาดแคลนหาอาหาร จึงเป็นสาเหตุให้ออกอาละวาดกัดกินต้นข้าวก่อนช่วงปกติ หรือก่อนที่ชาวนาจะหาทางป้องกัน เฉลี่ยแล้วคาดว่าพื้นที่นาข้าวของชาวนาที่จังหวัดกาฬสินธุ์ได้รับความเสียหายจากการถูกหนูนากัดทำลายข้าวเป็นจำนวนมาก