หลังถูกกระแสสังคมตั้งคำถาม เหตุบุก “NBT” ว่าจัดฉากหรือไม่ เหตุใดจึงมีการบันทึกภาพได้อย่างชัดเจน ล่าสุด เอ็นบีที จับช่างภาพมานั่งชี้แจง อ้าง ถ่ายได้เพราะมีไหวพริบ แกล้งทำเป็นปิดกล้อง จึงบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ทั้งหมด
ผู้จัดการออนไลน์ – 26 ส.ค.จากกรณีที่ช่วงเช้ามืดของวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์บุกเข้าไปยังสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที แล้วถูกตำรวจจับกุมตัวไว้ได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ได้นำเสนอข่าวที่ระบุว่า คนดังกล่าวเป็นกลุ่มรักษาความปลอดภัยของพันธมิตรฯ โดยยังไม่ได้มีการเรียกตัวหรือสอบถามไปยังกลุ่มพันธมิตรฯ แต่อย่างใด
จนกระทั่ง นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ออกมาให้ตั้งข้อสงสัยว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการจัดฉากหรือไม่ เพราะเหตุใดช่างภาพจึงบันทึกภาพกลุ่มชายฉกรรจ์ บุกสถานีโทรทัศน์ เอ็นบีทีไว้ได้ทั้งหมด และดูจะเป็นเรื่องที่ผิดวิสัยของผู้กระทำความผิด ที่จะยอมให้มีการถ่ายทำภาพขณะกระทำความผิดเอาไว้ได้ทั้งหมด
ล่าสุด ช่วงเวลาประมาณ 23.45 น.สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ได้นำเสนอรายงานพิเศษ โดยทำการสัมภาษณ์ช่างภาพคนหนึ่ง ซึ่งผู้ดำเนินรายการระบุว่า เป็นช่างภาพเศรษฐกิจของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที และเป็นผู้บันทึกภาพเหตุการณ์ที่กลุ่มชายฉกรรจ์ บุกมาทำลายข้าวของที่สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา
โดยช่างภาพคนดังกล่าวระบุว่า สาเหตุที่บันทึกภาพเหตุการณ์ต่างๆ ไว้ได้ ก็เพราะเมื่อกลุ่มชายฉกรรจ์บุกเข้ามาได้บอกกับตนว่า ห้ามทำการถ่ายภาพโดยเด็ดขาด แต่ด้วยความที่ตนเป็นช่างภาพที่ถูกการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ทำให้มีสัญชาตญาณในการที่จะบันทึกภาพเอาไว้ ตนจึงทำทีว่าไม่ทำการบันทึกภาพแค่เพียงถือกล้องเดินตามชายฉกรรจ์ไปเฉยๆ ซึ่งกลุ่มชายฉกรรจ์ เหล่านั้นก็ไม่ได้สงสัยแต่อย่างใด จึงทำให้ตนได้ภาพเด็ดชุดดังกล่าวมาเป็นหลักฐานในที่สุด
ทั้งนี้ ช่วงเวลาตลอดวันของวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา แม้ยังไม่มีผลการสอบสวนที่ระบุอย่างชัดเจนว่า กลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งหมดที่บุกเข้าไปในสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีนั้น เป็นกลุ่มคนของพันธมิตรฯ หรือไม่ แต่ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ได้นำเสนอข่าวในลักษณะรายงานพิเศษตลอดทั้งวัน ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นฝีมือของกลุ่มพันธมิตรฯ โดยมีแกนนำพันธมิตรฯ เป็นผู้วางแผนเอาไว้แล้ว
นอกจากนี้ ผู้ประกาศข่าวของ เอ็นบีที ในวันนี้ยังทำหน้าที่ 2 อย่างในเวลาเดียวกัน นั่นคือ เป็นผู้รายงานข่าว และเป็นผู้เสียหาย ทำให้ลักษณะการรายงานข่าว เป็นไปในลักษณะที่เรียกร้องความเห็นใจจากผู้ชม ว่าพวกตนถูกทำร้ายโดยกลุ่มพันธมิตรฯ อีกทั้งยังมีการสัมภาษณ์แขกรับเชิญมาแสดงความคิดเห็น ตำหนิการกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ ในด้านต่างๆ โดยไม่มีการสัมภาษณ์หรือสอบถาม มายังแกนนำพันธมิตรฯ แม้แต่ครั้งเดียว ว่าต้องการจะชี้แจงข้อเท็จจริงหรือไม่ อย่างไร