อัลญะซีเราะห์ - สถานีโทรทัศน์ข่าวตะวันออกกลาง เกาะติดความเคลื่อนไหวตลอดการประกอบพิธีฮัจญ์อันศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมทั่วโลก โดยปีนี้ ยามัล อัลชัยยัล ผู้สื่อข่าวจากอัลญะซีเราะห์ พร้อมคณะ ออกเดินทางสู่ประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อร่วมพิธีฮัจญ์ และจัดทำรายงานพิเศษในรูปแบบไดอารีออนไลน์ ซึ่งบันทึกเรื่องราวต่างๆ ตลอดการเดินทางแสวงบุญ
**ชาวมุสลิมทั่วโลกเริ่มประกอบพิธีฮัจญ์แล้ว**
**ไดอารีพิธีฮัจญ์ (1) : การเดินทางสู่นครมักกะฮ์**
** ไดอารีพิธีฮัจญ์ (2) : การวิงวอนพระเจ้า **
** ไดอารีพิธีฮัจญ์ (3) : การทำงานในวันที่แสนจะลำบาก**
วันที่ 4 ในพิธีฮัจญ์
คืนก่อนทีมงานอัลญะซีเราะห์ออกเดินทางจาก “ทุ่งมีนา” เพื่อไปยัง “หุบเขาอะรอฟะต์” ที่ซึ่งหลายคนอธิบายว่า เป็นขั้นตอนสำคัญของพิธีฮัจญ์ และเชื่อว่า ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ซึ่งมูฮัมมัด ศาสดาขององค์สุดท้ายของศาสนาอิสลามกล่าวเทศนาครั้งสุดท้ายก่อนเสียชีวิต เมื่อเกือบ 1,400 ปีที่แล้ว
เช่นเคยแม้จะออกเดินทางตั้งแต่เช้าตรู่ แต่ถนนสายต่างๆ กลับคลาคล่ำด้วยผู้คน สำหรับครั้งนี้ยิ่งแย่กว่า เพราะผสมโรงด้วยรถบรรทุกและรถโดยสารจำนวนมากที่บรรทุกผู้แสวงบุญเคลื่อนขบวนยาวเหยียดสุดลูกหูลูกตา จนทำให้การเดินทางครั้งนี้สาหัสสากันพอควร
**ความสำคัญสูงสุดในจิตวิญญาณ**
ทันทีที่มาถึง “หุบเขาแห่งความเมตตา” ทีมงานต้องผงะชั่วครู่ เมื่อเห็นมวลชนผู้แสวงบุญปกคลุมทั่วหุบเขา ตรงแนวเชิงเขาอัลชัยยัล สังเกตเห็นชายชราผู้หนึ่งยืนร่ำไห้ขณะวิงวอนขออภัยโทษต่อพระเจ้า หญิงชราที่อยู่ไม่ไกลนัก จับกลุ่มนั่งขออภัยโทษในความผิดที่เคยทำมา ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัด ส่วนชายอีกคนที่แม้แต่ยืนยังแทบไม่ไหว พยายามกระเสือกกระสนปีนขึ้นบนเขาอะรอฟะต์ ไม่ว่าจะศรัทธาในสิ่งใดก็ตามที แต่ความปราถนา, ความจริงใจและความนอบน้อมของพวกเขาเหล่านี้ กลายเป็นความอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างพรั่งพรู
เมื่อพระอาทิตย์ตกดินทีมงานเดินทางต่อไปที่ “มุซดาลิฟะ” เพียงไม่กี่กิโลเมตรจากอะรอฟะต์ เพื่อเก็บก้อนหินที่จะนำมาใช้ใน “พิธีขว้างเสาหิน” อันเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งชั่วร้าย ณ ทุ่งมีนา
พอถึงเที่ยงคืนพวกเขาจึงเดินทางไปยังทุ่งมีนา เพื่อตามรอยเท้านบีอิบรอฮีม ศาสดาองค์หนึ่งของศาสนาอิสลาม ด้วยการทำพิธี “ขว้างเสาหิน” ซึ่งเชื่อกันว่า มารร้ายพยายามชักนำให้ท่านต่อต้านพระเจ้า
จากนั้นผู้แสวงบุญจะโกนศีรษะและถอดผ้าเอี๊ยห์รอม (ผ้าสีขาวโพลน 2 ชิ้นสำหรับผู้แสวงบุญ)
อัลชัยยัลย้อนทบทวนเหตุการณ์ที่ประสบพบเห็น ณ หุบเขาอะรอฟะต์ ขณะที่ชายชราอายุราว 70 กว่าปี ซึ่งแขนขาดข้างหนึ่งพร้อมกับสัมภาระที่แบกไว้เหนือศีรษะ กำลังมุ่งมั่นอย่างเปี่ยมล้นเพื่อประกอบพิธีฮัจญ์ให้สำเร็จลุล่วงแม้จะพิการก็ตามที ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนระอุ, ความแออัด, ความยากลำบาก และไม่มีกระทั่งห้องน้ำ แต่ยังมีรอยยิ้มงดงามประทับอยู่บนใบหน้าของชายผู้นั้น