อัลญะซีเราะห์ - สถานีโทรทัศน์ข่าวตะวันออกกลาง เกาะติดความเคลื่อนไหวตลอดการประกอบพิธีฮัจญ์อันศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมทั่วโลก โดยปีนี้ ยามัล อัลชัยยัล ผู้สื่อข่าวจากอัลญะซีเราะห์ พร้อมคณะ ออกเดินทางสู่ประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อร่วมพิธีฮัจญ์ และจัดทำรายงานพิเศษในรูปแบบไดอารีออนไลน์ ซึ่งบันทึกเรื่องราวต่างๆ ตลอดการเดินทางแสวงบุญ
**ชาวมุสลิมทั่วโลกเริ่มประกอบพิธีฮัจญ์แล้ว**
**ไดอารีพิธีฮัจญ์ (1) : การเดินทางสู่นครมักกะฮ์**
** ไดอารีพิธีฮัจญ์ (2) : การวิงวอนพระเจ้า **
วันที่ 3 ในนครมักกะฮ์ และอาจเป็นวันที่ยากลำบากที่สุด
วันนี้ ทีมงานอัลญะซีเราะห์ ต้องออกเดินทางไปยังทุ่งมีนา ซึ่งอยู่ห่างจากนครมักกะฮ์ 16 กิโลเมตร เพื่อทำ “วุกุฟ” หรือการพักสงบสำรวมจิตใจ โดยจะพักค้างแรมที่นี่ 3 วัน และมุ่งหน้าไปยังทุ่งอารอฟัต อันเป็นสถานที่ซึ่งมูฮัมมัด ศาสดาขององค์สุดท้ายของศาสนาอิสลามกล่าวเทศนาครั้งสุดท้าย ก่อนจะกลับมาที่ทุ่งมีนาอีกครั้งในวันที่ 2
แม้จะเป็นวันแรกของพิธีแสวงบุญและการรายงานข่าว แต่การเดินทางอย่างยากลำบาก แล้วไหนจะต้องทำงานและประกอบพิธีฮัจญ์พร้อมๆ กัน เริ่มสร้างความยากลำบากให้กับทีมข่าว
** สะท้อนตัวเอง **
ขณะพักค้างแรมที่ทุ่งมีนา อัลชัยยัล ผู้สื่อข่าวอัลญะซีราะห์ มีโอกาสสัมภาษณ์โอมาร์ เรแกน นักแสดงฮอลลีวูดในภาพยนตร์เรื่อง คู่ใหญ่ฟัดเต็มสปีด 2 (Rush Hour2) ซึ่งสาธยายให้ทีมข่าวฟังว่า พิธีฮัจญ์มีความหมายสำคัญยิ่งกับเขาเพียงใด
เรแกน บอกว่า พวกคุณถูกสอนให้เสแสร้งแกล้งทำและยึดติดกับเปลือกนอก แต่ในพิธีฮัจญ์คุณต้องละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างทั้งทางโลกและวัตถุ - - แม้แต่เสื้อผ้าของคุณเอง เพราะตลอดพิธี ผู้แสวงบุญต้องเปลื้องเสื้อผ้าและเครื่องประดับต่างๆ แล้วสวม “เอี๊ยรอม” ซึ่งเป็นผ้าขาวที่ไม่มีรอยเย็บ 2 ผืน ผืนหนึ่งสำหรับนุ่ง และอีกผืนหนึ่งสำหรับห่มกาย
ดาราฮอลลีวูดชาวมุสลิมผู้นี้บอกด้วยว่า พิธีฮัจญ์สอนให้รู้ว่า หากระบบแบ่งแยกชนชั้นและระดับความสำเร็จในสังคมปัจจุบัน ถูกแทนที่ด้วยสังคม ซึ่งเราทุกคนสวมเสื้อผ้าแบบเดียวกัน, กินอาหารอย่างเดียวกัน และนอนในสภาพแวดล้อมเดียวกัน แล้วคนคนหนึ่งจะถูกแบ่งแยกจากคนอื่นๆ อย่างไรและทำไม แล้วเราจะอยากทะเยอทะยานเช่นใครและทำไม
คัมภีร์อัลกรุอาน ซึ่งประดุจรัฐธรรมนูญของชาวมุสลิม สอนว่า ความศรัทธาและจริงใจอย่างเปี่ยมล้มที่สุดในหมู่มนุษยชาติ เป็นสิ่งที่ใกล้ชิดอัลเลาะฮ์มากที่สุด