เอเอฟพี/อัลญะซีเราะห์ - ความร้าวฉานทางศาสนาในประเทศไนจีเรียปรากฎชัดเจนในวันนี้ (2) หลังเหตุนองเลือดระหว่างศาสนาที่เมืองโจส ทางตอนกลางของประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ก้ำกึ่งระหว่างเขตชาวมุสลิมทางภาคเหนือและเขตชาวคริสต์ภาคใต้ โดยสังเวยชีวิตผู้คนหลายร้อย
องค์การฮิวแมนไรซ์วอชต์ (เอ็ชอาร์ดับเบิลยู) ประณามรัฐบาลไนจีเรียอย่างไม่อ้อมค้อม พร้อมเรียกร้องให้มีการสอบสวน "เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบและผู้สังหารประชาชน"
เหตุนองเลือดที่ไนจีเรียครั้งล่าสุดนี้ ปะทุขึ้นจากข่าวลือเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (28) ว่า พรรคออลไนจีเรียนพีเพิลส์ (เอเอ็นพีพี) ของชาวมุสลิม แพ้การเลือกตั้งท้องถิ่นให้พรรคพีเพิลส์เดโมคราติก (พีดีพี) ของชาวคริสต์ ทั้งนี้จากคำแถลงของโฆษกตำรวจ
"ไนจีเรียเกิดการแบ่งแยกชาติพันธุ์และศาสนาอย่างฝังรากลึก ประชาชนกว่า 12,000 คน ถูกสังหารเสียชีวิตจากสู้รบทางศาสนาและชาติพันธุ์ นับตั้งแต่สิ้นสุดการปกครองของคณะทหารเมื่อปี 1999" เอ็ชอาร์ดับเบิลยูกล่าว
"ทางการใช้นโยบายแบ่งแยกและเลือกปฏิบัติกับ "ชนกลุ่มน้อย" จนเป็นเหตุเกิดความขัดแย้งหลายต่อหลายครั้งแล้ว"
ผู้อำนวยการเอ็ชอาร์ดับเบิลยูภาคพื้นแอฟริกากล่าวว่า "นโยบายแบ่งแยกและเลือกปฎิบัติเช่นนี้ ผลักไสให้ชาวไนจีเรียหลายล้านชีวิตถูกลดขั้นเป็นประชากรชั้นสอง จนเติมเชื้อเพลิงความรุนแรงทางเชื้อชาติและศาสนา ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในช่วงเลือกตั้งเสมอมา"
เหตุจลาจลปะทุขึ้นต่อเนื่องหลายวันที่ไนจีเรีย ตั้งแต่วันศุกร์ (28) จนถึงวันจันทร์ (1)ระหว่างชาวมุสลิมและชาวคริสต์ โดยรัฐบาลอ้างว่ามีผู้เสียชีวิต 200 คน ขณะที่องค์การเอกชนหลายแห่งอ้างว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะมีมากกว่านี้ถึง 2 เท่า