“พิภพ” ประกาศสงครามศักดิ์สิทธิ์พรุ่งนี้ รวมพลพันธมิตรพิชิตรัฐบาลมารและผู้อยู่เบื้องหลัง ชี้เป็นสิทธิโดยชอบธรรมตามหลักสากล ต่อต้านอธรรมโกงกินบ้านเมือง และกอบกู้ศักดิ์ศรีประชาชนกลับคืน ย้ำเชื่อฟังผู้นำ มั่นใจไม่พาพี่น้องไปเสียเลือดแม้แต่หยดเดียว
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย
วันนี้ (25 ส.ค.) เวลาประมาณ 21.40 น. นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นกล่าวปราศัยบนเวทีสะพานมัฆวานว่า พรุ่งนี้ (26 ส.ค.) เป็นวันประกาศสงครามศักดิ์สิทธิ์ที่จะต่อสู้กับฝ่ายอธรรม ซึ่งพันธมิตรเป็นฝ่ายธรรมมะ รัฐบาลสมัครและผู้อยู่เบื้องหลังคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นฝ่ายอธรรม ซึ่งสงครามครั้งนี้ไม่เหมือนสงความที่พี่น้องฆ่ากันเอง เพราะสงครามพรุ่งนี้เป็นสงครามอหิงสาธรรม ที่ใช้สันติวิธีสู้กับฝ่ายอธรรม
นายพิภพ กล่าวว่า ตัวผมเองผ่านสงครามที่ต่อสู้กับฝ่ายอธรรมเป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อ 14 ตุลาคม 2516 ซึ่งในวันนั้น ประชาชนเรือนแสนเต็มถนนราชดำเนิน และสงครามครั้งนี้ เป็นครามแห่งศักดิ์ศรีเช่นกัน ที่ผ่านมาเราถูกย่ำยีโดยนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ สมัคร สุนทรเวช คนนี้ และอดีตนายกฯ ทักษิณ มาโดยตลอด พวกเขาเห็นเราเป็นประชาชนที่โง่เง่า ใช้นโยบายประชานิยม ทำท่าทีนักบริหารที่เก่งกาจซื้อใจเรา แต่สุดท้าย แม้แต่สโมสรฟุตบอลแมนซิตี้ ยังออกมาบอกให้ออกจากประธานสโมสรไปซะ
“ก่อนหน้านี้ อ้างว่าอยู่ไทยไม่ปลอดภัย ตอนนี้อยู่อังกฤษก็บอกว่าไม่รับรองความปลอดภัยแล้ว แต่ผู้นำเบอร์มิวด้าบอกว่าไม่เป็นไร อยู่เกาะเล็กๆ เราจะรับรองความปลอดภัยให้ นี่แหละแสดงให้เห็นถึงความดิ้นรนของอดีตนายกฯ ซึ่งตราบใดที่เขาไม่หยุดเคลื่อนไหว เราก็จะไม่หยุดเช่นกัน และตราบใดที่เขาจะพยายามกลับมาบริหารปะเทศ กดหัวเรา เราก็จะสู้ให้ถึงที่สุด” นายพิภพกล่าว
ดังนั้น ภารกิจในวันพรุ่งนี้ พี่น้องต่างจังหวัดจงเคลื่อนตัวมาให้เป็นแสนล้าน เพราะสงครามครั้งนี้เราชนะแน่นอน ประเทศไทยจะอยู่ได้อย่างไรถ้าปล่อยให้มารครองเมือง ตนเองมีชีวิตมาตั้งแต่ 14 ตุลาฯ เห็นนักการเมืองเข้าไปสูบงบประมาณประเทศไปจนร่ำรวยไม่รู้จบ ถามว่าก่อนเป็นนักการเมืองมีทรัพย์สินเท่าไหร่ ทำไมออกจากการเป็นนักการเมืองแล้วกลับรวยกว่าประชาชนเป็นร้อยเท่า เพราะคนเหล่านี้คือมารนั่นเอง
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า ขอให้พี่น้องเชื่อมั่นในอหิงสธรรม และสันติวิธี ซึ่งเหตุการณ์เมื่อวันที่ 14 ตุลาฯ จะไม่มีคนตาย ถ้าไม่ใช่เพราะกลุ่มคนที่ต้องการชิงอำนาจประชาชน พรุ่งนี้ก็เช่นกัน ถ้าพี่น้องเรามาเรือนแสนเรือนล้านเราชนะแน่ แต่สิ่งที่พี่น้องต้องระวังคือ อำนาจที่แตกจะใช้ความรุนแรงหรือไม่ ซึ่งพี่น้องต้องระวังตัวเองด้วย นอกจากนั้น ต้องเชื่อผู้นำในการนำพี่น้อง เพราะเราไม่นำพี่น้องให้ไปเสียเลือดแม้แต่หยดเดียวอย่างแน่นอน เราจะไม่ทำลายข้าวของราชการ ยั่วยุตำรวจ และเชื่อว่าทหารอยู่ข้างเรา ดังนั้น การเผชิญหน้ากับรัฐบาลในครั้งนี้ เชื่อมั่นว่า สันติวิธี อหิงสาธรรมและความมีวินัยของเราชนะแน่นอน
สำหรับการทำสงครามอหิงสาในวันพรุ่งนี้ เป็นหน้าที่ของเรา เพราะตราบใดมีรัฐบาลทุจริต ใช้เงินโดยไม่นึกถึงประเทศ เข้ามาด้วยการซื้อเสียง ไม่เคารพกฏหมายรัฐธรรมนูญ แต่งตั้งคนมีคดีมาบริหารประเทศ แม้นายสมัครเอง ก็ยังมีคดีรถดับเพลิงติดตัวอยู่ ซึ่งการมีรัฐบาลและคนบริหารประเทศแบบนี้ ในทางสากล ประชาชนสามารถต่อต้านและปฏิเสธรัฐบาลนี้ได้ ดังนั้น ในวันพรุ่งนี้ เราชอบธรรมทั้งทางกฏหมาย ทางธรรมมะ ที่เราจะแสดงอารยะขัดขืน ไม่ยอมอยู่ใต้การปกครองของรัฐบาลชั่ว เป็นความชอบธรรมที่สังคมยอมรับ เพื่อเผชิญกับรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรม ใช้อำนาจข่มขู่ประชาชน ดังนั้น จึงเป็นสิทธิของประชาชนที่จะกำจัดรัฐบาลชั่วในวันพรุ่งนี้
“พรุ่งนี้จะเป็นสงครามที่ธรรมมะสู้กับอธรรม ในหลักอหิงสา สันติวิธี ความสื่อสัตย์ ความรักษาซึ่งประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ โดยเรามีความชอบธรรมที่จะประกาศสงครามสันติวิธีพรุ่งนี้ เราเป็นฝ่ายธรรมมะ ต้องชนะอธรรม กอบกู้ศักดิ์ศรี และจริยธรรมของประเทศกลับมา” นายพิภพกล่าว