กกต.ตั้งอนุสอบฯ “เมียเลี้ยบ” ถือหุ้นบริษัทเกินที่กฎหมายกำหนดแล้ว ด้าน “ประพันธ์” เผยตั้งชุดสอบคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีของ “โกวิท” เหตุถูกศาลสั่งจำคุกแต่อยู่ในระหว่างรอลงอาญา ก่อนเผยอนุสอบฯ การถือครองหุ้นของ “ส.ส.-ส.ว.” ขอขยายเวลาไปอีก 15 วัน ยันไม่มียื้อแน่นอน
วานนี้ (21 ส.ค.) นายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่ ส.ส. และ ส.ว.ที่ถือหุ้นเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ว่า กกต.ตั้งคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนแล้ว โดยให้เวลา 30 วัน แต่ขณะนี้ไปถึงไหนแล้วไม่รู้ แต่ได้เร่งให้ดำเนินการอยู่ ทั้งนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคณะอนุฯ ไต่สวนเพียงคณะอย่างเดียว เพราะต้องขึ้นอยู่กับพยานของผู้ที่ร้องเรียน รวมทั้งฝ่ายที่ถูกร้องเรียนก็ต้องเอาพยานมาให้ปากคำ บางครั้งฝ่ายที่ถูกร้องเรียนอาจจะขอเลื่อนการเข้าให้ปากคำ เนื่องจากติดธุระก็มีบ้าง
ด้าน นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง เปิดเผยถึงกรณีการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ร้องเรียนให้ กกต.ตรวจสอบกรณีที่ภรรยาของ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รมว.คลัง ถือหุ้นในบริษัทเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดว่า ที่ประชุม กกต.ได้พิจารณาตั้งคณะอนุกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวแล้ว อีกทั้งยังตั้งอนุกรรมการสืบสวนฯ กรณี พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี เนื่องจากถูกศาลพิพากษาจำคุก แต่อยู่ระหว่างการรอลงอาญา ซึ่งจะทำให้ขาดคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีหรือไม่
“ในขณะที่การสอบสวนการถือหุ้นของ ส.ส.และ ส.ว.ตามที่นายศุภชัย ใจสมุทร ที่ปรึกษากฎหมายพรรคพลังประชาชน ร้องเรียนให้ กกต.ตรวจสอบนั้น ทั้งสองกรณีดังกล่าว หลังจากครบกำหนด 15 วันแล้ว ได้มีการขอขยายเวลาสอบสวนออกไป ขณะนี้ยอมรับว่าเรื่องร้องเรียนให้ กกต.ตรวจสอบนั้น ยังคงค้างอยู่ในการพิจารณาของอนุกรรมการสอบสวนฯ หลายเรื่อง ซึ่งก็ต้องเห็นใจกันบ้าง เพราะทุกเรื่องที่ร้องขอให้สอบสวนนั้น มีข้อมูลจำนวนมาก ทำให้ขณะนี้ กกต.งานล้นมือ จึงต้องขอเวลา และขอยืนยันว่าจะไม่มีการยื้ออย่างแน่นอน” นายประพันธ์ กล่าว