เครือข่ายฟ้าเดียวกัน-รักทักษิณ-ชังศักดินา ดิ้นพราด ออก จม.ร้องขอประกันตัว ‘ดา ตอร์ปิโด’

ผู้จัดการออนไลน์ – เผยรายชื่อผู้ลงนามในจดหมายเปิดผนึกร้องให้มีการประกันตัว ‘ดา ตอร์ปิโด’ ปรากฎนักวิชาการเครือข่ายฟ้าเดียวกัน-คนรักทักษิณ-ชิงชังศักดินาอื้อ แถมสาวกแม้วในสหรัฐอเมริกา ‘ชะบา จตุระบุล’ ยังร่วมลงชื่อด้วย

จากกรณีที่ น.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือ “ดา ตอร์ปิโด” ขึ้นปราศรัยที่เวทีท้องสนามหลวงเมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งในการปราศรัยได้มีบางช่วงกล่าวพาดพิงถึงองค์รัชทายาท เข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และในเวลาต่อมา เมื่อวันที่ 22 ก.ค. น.ส.ดารณี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ตามหมายจับเลขที่ 2209/2551 ข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

ในเวลาต่อมาได้มีความพยายามขอประกันตัว น.ส.ดารณี หลายครั้ง โดยนายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อายุ 53 ปี ได้ยื่นคำร้องพร้อมใช้ตำแหน่งขอประกันตัว ทว่าศาลปฏิเสธโดยศาลชั้นต้นให้เหตุผลว่า “หากปล่อยชั่วคราวอาจหลบหนี” ขณะที่ศาลอุทธรณ์ให้เหตุผลว่า “คดีนี้มีอัตราโทษสูง เป็นความผิดร้ายแรง และกระทบกระเทือนจิตใจของประชาชน หากปล่อยตัวไปเกรงว่าผู้ต้องหาจะไปกระทำผิดซ้ำอีก”

จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวจากเว็บไซต์ฟ้าเดียวกัน นิตยสารราย 3 เดือน ที่เผยแพร่เนื้อหาหมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างต่อเนื่อง ได้ออกจดหมายเปิดผนึกรวบรวมรายชื่อนักวิชาการ นักศึกษา นักธุรกิจ สื่อและเอ็นจีโอจำนวนหนึ่งเพื่อเรียกร้องให้มีการประกันตัว น.ส.ดารณี โดยอ้างว่า เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน เช่นเดียวกับผู้ต้องหารายอื่นๆ และเป็นไปหลักมนุษยธรรม และหลักนิติธรรม โดยเนื้อหาจดหมายได้อ้างถึงเนื้อหาในรัฐธรรมนูญ 2 มาตรา มาตรา 30 “…บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย เท่าเทียมกัน” และ มาตรา 40 “…บุคคลย่อมมีสิทธิในกระบวนการยุติธรรม…ในคดีอาญา ผู้ต้องหาหรือจำเลยมีสิทธิได้รับการสอบสวนหรือการพิจารณาคดี ที่ถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นธรรม โอกาสในการต่อสู้คดีอย่างเพียงพอ การตรวจสอบหรือได้รับทราบพยานหลักฐานตามสมควร การได้รับความช่วยเหลือในทางคดีจากทนายความ และการได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว…”

“ยิ่งไปกว่านั้น นอกเหนือจากเหตุผลของการปฏิบัติตามเกณฑ์กฎหมายของประเทศของเราและเมตตาธรรมทางสากลแล้ว ก็ยังเพราะความหวั่นวิตกถึง ความขัดแย้งอย่างรุนแรงซึ่งเกิดขึ้นจากหลายๆ ประเด็นปัญหาในสังคมไทยขณะนี้ ทั้งมีแนวโน้มว่า ถ้าไม่มีความพยายามในการแก้หรือลดความขัดแย้งลง ก็อาจจะยิ่งทำให้ความขัดแย้งกันรุนแรงยิ่งขึ้น กระนั้นก็ยังมีบุคคลบางกลุ่มพยายามขยายความขัดแย้งที่สั่งสมอยู่นี้ให้ลุกลามออกไปอันเป็นที่ประจักษ์กันอยู่ทั้งภายในประเทศของเราเองและในระดับระหว่างประเทศ”

“ผู้มีชื่อในท้ายแถลงการณ์นี้ จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้มีการพิจารณาทบทวนและแก้ไขทั้งกรณีนี้และกรณีอื่นๆ โดยเร่งด่วน รวมทั้งขอให้สังคมร่วมกันพิจารณาปัญหาต่างๆ ที่นับวันจะร้อนแรงยิ่งขึ้นนี้ ด้วยความมุ่งหมายที่จะจรรโลงสันติสุขตามหลักศาสนธรรมและประชาธรรม ควบคู่ไปกับการป้องกันการพิจารณาอย่างพลั้งเผลอเพียงเพราะความอคติ เกลียดชัง จนทำลายหลักนิติธรรม มนุษยธรรม ดังที่เป็นอยู่” ตอนท้ายของแถลงการณ์ฉบับดังกล่าวระบุ

ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค.มีการเผยแพร่จดหมายเปิดผนึกจนถึงปัจจุบันมีผู้มาลงชื่อแล้วราวร้อยกว่าคน ทว่าวิธีลงชื่อเป็นการส่งอีเมล หรือลงชื่อผ่านเว็บไซต์เท่านั้น โดยรายชื่อที่น่าสนใจ อย่างเช่น นายไชยันต์ รัชชกูล ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, นายยุกติ มุกดาวิจิตร คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นางอรอนงค์ ทิพย์พิมล คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นายประภาส ปิ่นตบแต่ง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, นพ.ศุภศิลป์ สุนทราภา ภาควิชาออร์โธปิดิกส์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, นายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการหนังสือฟ้าเดียวกันและผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

ขณะเดียวกัน ในรายชื่อดังกล่าวยังปรากฏรายชื่อของ นางชะบา และนายประสงค์ จตุระบุล คู่สามีภรรยาชาวไทยที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา และแกนนำกลุ่มไทยรักประเทศไทยในอเมริกา ที่เคลื่อนไหวให้การสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีมาตั้งแต่ปี 2549 ลงนามในลำดับที่ 43 และ 44 อีกด้วย

อนึ่ง วานนี้ (21 ส.ค.) ได้มีการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เมื่อค่ำวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา ศาลอาญากรุงเทพใต้ อนุมัติหมายจับ นายชูชีพ ชีวสุทธิ์ ประธานชมรมพิทักษ์รัฐธรรมนูญ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทย ข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ภายหลังกล่าวพาดพิงก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ออกอากาศผ่านทางวิทยุชุมชน และผ่านทางเว็บไซต์ในอินเทอร์เน็ต โดยนายชูชีพนับเป็นผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับเป็นรายต่อมาภายหลังคณะทำงานสอบสวนคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯ บช.น.ได้ออกหมายจับนางสาวดารณี เชิงชาญศิลปกุล แกนนำกลุ่มสภาประชาชนสนามหลวง นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) และ นางบุญยืน ประเสร็ฐยิ่ง ที่ขึ้นปราศรัยบนเวทีท้องสนามหลวง ก่อนหน้านี้

อนึ่ง วานนี้ (21 ส.ค.) ได้มีการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เมื่อค่ำวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา ศาลอาญากรุงเทพใต้ อนุมัติหมายจับ นายชูชีพ ชีวสุทธิ์ ประธานชมรมพิทักษ์รัฐธรรมนูญ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทย ข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ภายหลังกล่าวพาดพิงก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ออกอากาศผ่านทางวิทยุชุมชน และผ่านทางเว็บไซต์ในอินเทอร์เน็ต โดยนายชูชีพนับเป็นผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับเป็นรายต่อมาภายหลังคณะทำงานสอบสวนคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯ บช.น.ได้ออกหมายจับนางสาวดารณี เชิงชาญศิลปกุล แกนนำกลุ่มสภาประชาชนสนามหลวง นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) และนางบุญยืน ประเสริฐยิ่ง ที่ขึ้นปราศรัยบนเวทีท้องสนามหลวงก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมานี้มีข่าวเผยแพร่ออกมาตามสื่ออย่างต่อเนื่องว่า นายชูชีพรู้ตัวว่าจะถูกออกหมายจับจึงได้หลบหนีไปล่วงหน้าแล้ว

อ่านเพิ่มเติม - “จดหมายเปิดผนึกขอให้ประกันตัวคุณดารณี ชาญเชิงศิลปกุล” จากเว็บไซต์ฟ้าเดียวกัน