สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เผยผลสำรวจ ปชช.เกือบร้อยละ 50 ไม่เชื่อคำกล่าวอ้าง “แม้ว” ระบบยุติธรรมถูกแทรกแซงเพื่อหลบหนีคดี และกว่าร้อยละ 60 ไม่เชื่อจะวางมือทางการเมือง และเรียกร้องให้อังกฤษส่งตัวอาชญากรหนีคดีกลับมาขึ้นศาลที่เมืองไทยร้อยละ 65
วันนี้ (21 ส.ค.) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) สำรวจความคิดเห็นของประชาชน กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลบหนีคดีออกนอกประเทศ ระหว่างวันที่ 14-17 สิงหาคม 2551 จำนวน 1,919 หน่วยตัวอย่าง ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ แบ่งเป็นภาคกลาง 385 หน่วยตัวอย่าง กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ภาคเหนือ และภาคใต้ พื้นที่ละ 384 หน่วยตัวอย่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 382 หน่วยตัวอย่าง โดยลักษณะทั่วไปของหน่วยตัวอย่างจะกระจายอยู่ในช่วงอายุตั้งแต่ 18-70 ปี ในทุกระดับการศึกษาและกลุ่มอาชีพ
ผลสำรวจพบว่า ประชาชนร้อยละ 46.0 ไม่เชื่อว่ามีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมตามคำกล่าวอ้างของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อหลบหนีคดีออกนอกประเทศ ในขณะที่ประชาชนร้อยละ 38.2 เชื่อตามคำกล่าวอ้างนั้น และมีสัดส่วนของกลุ่มที่ไม่แสดงความคิดเห็น/ไม่ทราบ/ไม่ตอบประเด็นดังกล่าว ร้อยละ 15.8 โดยผลการสำรวจมีความสอดคล้องกันในเกือบทุกภาค ยกเว้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีกลุ่มที่เชื่อตามคำกล่าวอ้างมากกว่ากลุ่มที่ไม่เชื่อ
ประชาชนส่วนมากร้อยละ 61.8 ไม่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลบหนีคดีออกนอกประเทศไปแล้วจะวางมือทางการเมืองภายในประเทศ ในขณะที่ร้อยละ 32.1 เชื่อว่าจะวางมือ และผลการสำรวจมีความสอดคล้องกันทุกภาค ประชาชนร้อยละ 58.6 เห็นว่า จากกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลบหนีคดีเดินทางออกนอกประเทศ ระบบศาลยุติธรรมควรใช้เป็นบรรทัดฐานในการที่จะไม่อนุญาตให้นักการเมืองที่ต้องคดีเดินทางออกนอกประเทศ และมีประชาชนร้อยละ 37.7 เห็นว่า การอนุญาตให้เป็นดุลยพินิจของศาล ผลการสำรวจสอดคล้องกันเกือบทุกภาค ยกเว้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีสัดส่วนของกลุ่มที่เห็นว่า อนุญาตตามดุลพินิจของศาล มากกว่ากลุ่มที่เห็นว่าไม่ควรอนุญาตเลย
ร้อยละ 65.8 เห็นว่า หากมีการร้องขอจากฝ่ายไทยตามกระบวนการทางกฎหมาย รัฐบาลอังกฤษควรส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย มีเพียงร้อยละ 24.4 ที่เห็นว่ารัฐบาลอังกฤษไม่ควรส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย โดยความเห็นของประชาชนมีความสอดคล้องกันทุกภาค
