“สมเกียรติ” หยันกองทัพไทยมีอาวุธเพียบพร้อม แถมงบฯ ให้ถลุงปีละ 1 แสนกว่าล้านบาท แต่หงอกัมพูชาที่ไม่มีอะไรเลยเหน็บ ผบ.สส.เคยทำขึงขังไล่เขมรพ้นเขตแดนไทย แต่จนวันนี้ยังทำอะไรไม่ได้ หนุน นร.โยธินบูรณะสู้รัฐบาลไล่ที่สร้างสภาใหม่ เผยโรงเรียนกว่า 2 หมื่นแห่งทั่วประเทศ เป็นนิติบุคคล ใครมาไล่ยื่นฟ้องศาลปกครองได้ทันที แย้มอาจมีดาวกระจายไปเยี่ยม
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย
เมื่อเวลา 21.45 น.วันที่ 16 ส.ค. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ว่า รู้สึกประทับใจ พล.อ.อ.เทอดศักดิ์ สัจจารักษ์ อดีตรองผู้บัญชาการทหารอากาศ ที่พูดในรายการ “รู้ทันทหารไทย” ว่า สิ่งที่จะรักษาอธิปไตยในดินแดนของกองทัพชุดนี้ไม่มีเลย ไม่ว่าจะเป็นกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ มาถึงวันนี้ เราสูญเสียดินแดนบริเวณเขาพระวิหารเกินกว่าที่เสียไปเมื่อปี พ.ศ.2505 ซึ่งครั้งนั้นเราเสียเฉพาะตัวปราสาท แล้วเราก็ล้อมรั้วลวดหนามเอาไว้ พื้นที่บริเวณที่ถอยร่นออกมา 4.6 ตารางกิโลเมตร จึงเป็นของไทยทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ตอนนี้เราสูญเสียไปแล้ว
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า เห็นด้วยกับ พล.อ.อ.เทอดศักดิ์ อย่างยิ่ง ที่ว่ากองทัพอากาศไทยมีเครื่องบินเอฟ 16 หลายฝูง มีอาวุธยุทโธปกรณ์พร้อม มีงบประมาณด้านการทหารปีหนึ่งนับแสนล้านบาท ซึ่งกัมพูชาไม่มีเหมือนเรา แต่เวลาเจรจากัน ถ้าเรากล้าทุบโต๊ะสักครั้งกัมพูชาต้องยอม แต่เราไม่เคยทำ มีแต่ฝ่ายกัมพูชาที่กล้าทุบโต๊ะ
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า ในอดีตทหารไทยเก่งแต่รับจ้างรบในลาว-กัมพูชา โดยรับจ้างสหรัฐอเมริกาจนเวียดนามมีทัศนะคติในทางลบกับเราและมีความจงเกลียดจงชังทหารไทยฝังอยู่ในคนเวียดนาม จนกระทั่งเมื่อกองกำลังพลพตที่ครองกัมพูชาอยู่ ถูกกองกำลังเฮ็งสัมรินที่มีเวียดนามหนุนหลังตีจนพังทลายลง แล้วมีฮุนเซน และเจียซิม เข้ามาตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดของเวียดนาม จนกระทั่งปัจจุบันทั้งสามคนกลัวน้อยหน้าสมเด็จเจ้านโรดมสีหนุก็ตั้งตัวเองเป็นสมเด็จหมด แต่จิตใจที่ฝังลึกของเวียดนามคือผลักดันให้กัมพูชายึดดินแดนไทย หลักเขตไทย-กัมพูชาที่ทำไว้สมัยรัชกาลที่ 5 จึงถูกขุดออกไปจนเกือบหมด โดยที่ทหารไทยบอกว่าขุดออกไปก็ไม่เป็นไร เพราะเรายังไม่รู้เลยว่าเขตแดนเราอยู่ตรงไหน ได้แต่บอก “ก็แล่วแต๊ว่ะ”
นอกจากนี้ นายสมเกียรติยังเห็นว่า ทหารไทยไม่ห่วงปกป้องดินแดนของตัวเอง แต่กลับส่งไปช่วยเกาหลีรบ ในเดือนตุลาคม 2493 ส่งไปช่วย 23 ผลัด ใช้ 111,786 ตาย 125 คน บาดเจ็บ 318 คน ป่วย 503 คน สาบสูญ 5 คน ทหารไทยยอมพลีชีพเพื่อเกาหลี แต่รับเงินเดือนจากไทย
ในสงครามอินโดจีนปี 2507 ไทยส่งไปรบเวียดนาม ตาย 539 กว่าศพ บาดเจ็บ 1,114 คน ทหารไทยทำเป็นเก่ง ไปชิงดินแดนในเวียดนาม เป็นหุ่นเชิดให้กับสหรัฐฯ แล้วในที่สุดก็ถูกโฮจิมินห์ ถีบส่งออกมา แล้วภายหลังก็ประกาศทฤษฎีโด่ยเหมยพัฒนาประเทศไปทะลุฟ้าแล้ว แล้วปีนี้ก็จะสู้กับไทยในเรื่องข้าว ขณะที่ข้าวในไทยขายได้ราคาดีตอนที่ข้าวออกจากมือชาวนาไปสู่โรงสีแล้วเท่านั้น
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า กองกำลังเฮงสัมริน มีเวียดนามหนุนหลัง แต่ไม่มีเรือรบสักลำ ไทยจะส่งเรือไปรบก็ไม่กล้า เครื่องบินรบก็ไม่กล้าบินเข้าไป ต้องรักษาไว้ให้ใหม่เสมอ เสียดินแดนก็ช่าง ทหารเรือมีกองเรือราชนาวีเต็มไปหมด แต่ก็ไม่กล้า ยังกับว่ากลัวเรืออีโปงของเขมร ทหารบกก็ไม่กล้าทำอะไร คงกลัวทหารกัมพูชาที่เดินเท้าเปล้าแบกจวดอาร์พีจีได้
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดพูดเมื่อวันที่ 13 กรกฎาฯ บอกว่าจะจัดการล้อมรั้วลวดหนามให้เหมือนเดิม จะผลักดันชาวกัมพูชาที่รุกเข้ามา 900 ครอบครัว และไล่วัดร้างออก รวมทั้งจะจัดการยกเลิกแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ซึ่งจนถึงวันนี้ก็ยังทำไม่ได้สัดอย่าง แล้วปีนี้ กระทรวงกลาโหมยังของบประมาณถึง 160,000 ล้านบาท
“ทหารในยามนี้จึงเป็นทหารที่เราเรียกว่าทหารยามนิทรา ส่วนใหญ่จะนอนหลับ สบาย มีคนนวด มีคนเกาหลัง แล้วพวกประชาชนก็ลูบหลังแล้วบอกว่า หลับซะลูกเอ๊ย หลับซะเดี๋ยวจะหางบประมาณมาเป็นเงินเดือนให้ ...อยากได้ยศใช่มั้ย เดี๋ยวจะให้ อยากได้ยศอะไรบอกมา นี่แหละทหาร ไม่งั้นไม่มีศัพท์ใหม่หรอก ทหารพระราชา ทหารพระราชินี แล้วก็กองทัพของประชาชน นี่คือศัพท์ใหม่ของการเมืองใหม่ครับพี่น้อง”
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า วันนี้ตนตั้งใจจะมาถล่มแบงก์ชาติ แต่ขาดข้อมูลเล็กน้อยเรื่องเงินคงคลังของหลวงตามหาบัว ที่จะมีการเอาไปตั้งกองทุนทำมาหากินกัน หลังจากนั้นก็จะยุบสภาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า อย่างไรก็ตาม นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ขว้างหอกทิ่มนายทหาร 2 นาย กับตำรวจอีก 1 นายไว้แล้ว โดย 3 คนนี้ปฏิเสธการเมืองใหม่ และต้องการให้การเมืองเป็นอย่างเก่า เพื่อให้ตัวเองมีตำแหน่งก็เป็นพอ นอกจากนี้ยังจะเอาคนที่เคยมีประวัติศาสตร์โหดร้ายในโกงคอมลิงค์มาเป็นนายก อีกไม่กี่วันจะถูกฉีกหน้ากาก คนคนนี้ถูกออกแบบมาให้เป็นนายกฯ ในสถานการณ์สู้รบที่ฉุกเฉิน ถ้าพันธมิตรเพลี่ยงพล้ำคนพวกนี้จะขึ้นมาเสวยอำนาจทันที
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า ปัจจัยสำคัญที่จะใช้เป็นข้ออ้างในการยุบสภา คือ จะอ้างว่าบ้านเมืองคาราคาซังมานาน พันธมิตรก็ไม่ยอมกลับบ้าน อุตส่าห์ให้หนังสือพิมพ์ไปเขียนแล้วว่า ถ้าพันธมิตรฯ เลิกตอนนี้ก็จะลงอย่างสง่างาม เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณก็หนีไปแล้ว แต่หนังสือพิมพ์ฝ่ายก้าวหน้ากลับบอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณออกไปสถานการณ์การเมืองยิ่งร้อนแรงขึ้น
เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณไปอยู่ที่อังกฤษก็จะอยู่ปลอดภัย แต่คงเหลืออย่างเดียว คือ ห้ามไม่ให้คนไทยเอาอะไรไปขว้างใส่ หรือด่าทอไม่ได้ และวันอังคารนี้พันธมิตรฯ จะเขียนจดหมายไปถึงสถานทูตอังกฤษเพื่อบอกให้คนที่อังกฤษต้อนรับอดีตนายกฯ คนนี้ให้ดี และให้คนไทยในอังกฤษเลิกคบหาสมาคม ไปไหนให้ไล่ ส่วนในไทยเราจะทำหมายจับใส่เสื้อเลย
ต่อมา นายสมเกียรติ กล่าวถึงกรณีที่นักเรียนโรงเรียนโยธินบูรณะ 500 คน เดินทางมารัฐสภาเพื่อคัดค้านการสร้างสภาแห่งใหม่ ซึ่งนายกฯ และประธานรัฐสภา หักเอางบประมาณ 6 พันล้านบาท ไปจ่ายชดเชยค่าสถานที่ก่อสร้างโดยที่แบบแปลนก็ยังไม่มี เงินประมาณก่อสร้างจะใช้ทั้งหมดเท่าไหร่ก็ยังไม่ชัดเจน บอกว่าจะเจรากันภายหลัง อย่างไรก็ตาม เมื่ออ่านหนังสือของคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่บอกว่าถ้านายกฯ และประธานรัฐสภา ไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับนักเรียนแล้ว เอ็มโอยูเกี่ยวกับการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ที่เซ็นกันไว้จะถือว่าเป็นโมฆะ แล้ว ก็ถือว่าคุณหญิงกษมามีความกล้าหาญที่จะพูดโดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกเรียกตัวไป อย่างไรก็ตาม ถ้าถูกเรียกก็ขอให้มาที่เวทีพันธมิตร
นายสมเกียรติ ได้กล่าวในเชิงประชดประชันว่า สาเหตุที่นักเรียนที่มาประท้วงแล้วร้องไห้นั้น ไม่ได้ร้องไห้เพราะเสียดายโรงเรียน แต่ร้องไห้เพราะเห็นผู้ใหญ่รับประทานกันมากเหลือเกิน และถือว่านักเรียนกลุ่มนี้ มีความคิดความอ่านที่เทียบเท่าหรือเหนือชั้นกว่านักศึกษาที่เรียนมหาวิทยาลัยกว่า 1.2 ล้านคน ซึ่งเรื่องนี้ตนจะหารือกับแกนนำอีก 4 คน ว่าควรจะไปมอบดอกไม้ให้ลูกหลานที่โรงเรียนโยธินบูรณะหรือไม่ และอาจจะเห็นมือน้อยฟ อันบริสุทธิ์ของเด็กนักเรียนจับกับมือของคนแก่ ลูกจีน ลูกแขก ลูกไทย ลูกอีสาน แล้วร่วมกันกู้ชาติก็ได้
นอกจากนี้ นายสมเกียรติ ให้ข้อมูลว่า ตามมาตรา 35 พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ นั้น โรงเรียนถือเป็นนิติบุคคล ถ้าไม่ยอมย้าย แล้วโดนใครมาข่มเหง สามารถฟ้องต่อศาลปกครองได้ และโรงเรียน 23,000 แห่ง ทั่วประเทศก็เป็นนิติบุคคลหมดเช่นเดียวกัน
ในตอนท้ายนายสมเกียรติ กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (17 ส.ค.) จะชำแหละธนาคารแห่งประเทศไทย และแก๊งออฟโฟร์ จุดจบของ “จิ้งจอกหอกหัก” และลูกสมุน
