“สุรัตน์” สอนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศข้าราชการกท.ต่างประเทศ อย่ามัวทำยึกยักไม่ขอตัว “อาชญาแม้ว” กลับมาดำเนินคดี ชี้แม้ไม่มีสนธิสัญญาระหว่างประเทศ แต่โดยหลักนิติรัฐสามารถร้องขอได้ทันที ระบุตรรกะในระบอบทักษิณอันตรายที่สุด ชูชาตินิยมอหิงสาตามแบบมหาตมะคานธีเข้าต่อกร พร้อมเรียกร้อง นักวิชาการ-ปชช.ที่ยังหลงมัวเมา เปิดหูเปิดตาให้กว้างมากขึ้น
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง ผศ.สุรัตน์ โหราชัยกุล ปราศรัย
วานนี้ (15 ส.ค.) ผศ.สุรัตน์ โหราชัยกุล อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สะพานมัฆวานรังสรรค์ว่า อยากพูดเรื่องตรรกะมนุษย์ เมื่อครั้งคดีซุกหุ้นศาลบอกว่าไม่ผิดเราก็ไม่ว่าอะไร ไม่เคยออกมาโวยวาย ทีตอนี้คุณผิดออกมาโวยวาย ตอนคุณเปลี่ยนธรณีสงฆ์ให้เป็นสนามกอล์ฟนี่ก็เป็นตรรกะของคุณ
ตอนคุณเปลี่ยนธรณีสงฆ์เป็นสนามกอล์ฟ ก็เป็นตรรกะอีกแบบของระบอบทักษิณ เวลาเขาสืบเรื่องบริษัทซีทีเอ็กซ์ที่สหรัฐ รัฐบาลทักษิณก็บอกว่าไม่เกี่ยวกับเราอีก เวลาอุ้มฆ่าตัดตอนก็บอกว่าทำเพื่อให้สังคมดีขึ้นและมีสันติภาพ มีแต่นายกฯต้องบอกประชาชนเท่านั้นว่าอย่าไปขายธุรกิจที่ล่อแหลมต่อความมั่นคงของชาติ แต่นี้ประชาชนต้องบอกผู้นำว่าอย่าขายธุรกิจเหล่านี้ เวลาพรรคฝ่ายค้านถูกรื้อเวทีที่เชียงใหม่ อยากได้ยินผู้นำบอกว่าเราจะจัดการกับคนที่ก่อกวน แต่กลับบอกว่า ครั้งหน้าจะไม่ให้มีก็แล้วกัน ตอนโดยยุบพรรคก็บอกว่าผิด พอถูกจับได้ว่ามีทนายเอากล่องขนม2ล้านบาทไปให้ศาลก็บอกว่าสงสัยพันธมิตรฯเอาไปให้ ฯลฯ
ทั้งนี้ ผศ.สุรัตน์ ได้ยกตัวอย่างเหตุการณ์ต่างๆ ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคนในระบอบทักษิณ กล่าวอ้างว่าเป็นตรรกะของตนเอง ตนเองไม่ผิดขึ้นมา แม้กระทั่งกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวหากระบวนการยุติธรรมของไทยสองมาตรฐาน แต่ รมว.ยุติธรรมกลับมองว่าไม่ผิด โดยผศ.สุรัตน์ ได้ระบุว่า สิ่งเหล่านี้อยากให้คนที่ฟังอยู่และไม่ได้คิดเห็นด้วยกับพันธมิตรฯ รวมทั้งนักวิชาการต่างๆ ได้คิดตามไปด้วยว่านี่คือตรรกะประเภทไหนกันแน่
ผศ.สุรัตน์ ยังตอบโต้กรณีรายการความจริงวันนี้ของ นปก.ให้ตนเองลาออกจากความเป็นนักวิชาการก่อนจะมาปราศรัยบนเวทีว่า ทีตัวเองไปปราศรัยสนามหลวง ก่อกวนทุกรูปแบบต่างๆนานา แล้ววันนี้มาเป็น ส.ส. ฉะนั้นวันนี้ลาออกจากส.ส.บ้างสิ
ผศ.สุรัตน์ กล่าวต่อว่า สำหรับเขาคืออะไร ใครขับแท็กซี่ก็ขับต่อไปไม่ต้องประท้วง ชีวิตจะตายยังไงก็ต้องอยู่แบบนั้นตลอดไป นี่คือตรรกะของเขา สุดท้ายนี่คือการทำงานของทรราชไม่อยากให้เราเกี่ยวข้องกับการเมืองและประวัติศาสตร์อะไรทั้งสิ้น เพราะเขาจะได้ตักตวงผลประโยชน์ต่อไป และอาจจะโยนเศษบางชิ้นบางส่วนมาให้เรากินนี่คือการทำงานของทรราช การใช้ตรรกะแบบนี้ ถ้าเราฟังรายการแบบนี้ ฟังรัฐบาลแก้ตัวแบบนี้เรื่อยๆ ไม่ใช่เป็นการทำลายประชาธิปไตยอย่างเดียว แต่ลูกหลานของเราจะมีตรรกะแบบผิดๆ วันหลังเด็กไปบอกครูว่า 2+2 = 5 ครูบอกผิดต้อง = 4 เด็กอาจจะบอกว่าครูนั่นแหละผิด
“สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด อยากถามว่า สรุปแล้วคุณทักษิณ คุณไม่เคยผิดเลยหรือ บางคนเชื่อในพระเจ้ายังสงสัยเลยว่าพระผู้เป็นเจ้าอาจจะทำผิดบ้าง แต่สาวกของทักษิณเชื่อว่าทักษิณยิ่งกว่าพระผู้เป็นเจ้าไม่เคยทำผิดเลย” ผศ.สุรัตน์ กล่าว
ผศ.สุรัตน์ กล่าวต่อว่า ที่ได้ฟังรายการวิทยุที่พยายามจะปลุกกระแสแนวความคิดเหล่านี้ เขาพยายามจะสร้างตรรกะใหม่ๆ ขึ้นมาเพื่อนิยามคำว่าประชาธิปไตยให้เข้าข้างเขา แล้วเขาจะได้ตักตวงผลประโยชน์ต่อไป หลายคนที่ไปหลงผิดหลงเชื่อต่างๆนานาไม่ยอมตั้งคำถามกับตรรกะเหล่านี้เลย ล่าสุดประธานาธิบดีบุชมาประเทศไทย บอกว่ายินดีด้วยที่ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยแล้ว พวกนี้ดีใจมาก ประธานาธิบดีบุชคืคนสุดท้ายของโลกที่จะพูดเรื่องประชาธิปไตยได้ คุณโกหกประชาชนไปตีหัวคนในอิรัก ใช้เงินไปไม่รู้กี่ล้านล้าน ทำให้บ้านเมืองและโลกวุ่นวายกันไปหมด มิหนำซ้ำยังมาอวดเทศนาอีกว่าประเทศไทยกลับมาเป็นประชาธิปไตยแล้ว
ทั้งนี้ ผศ.สุรัตน์ กล่าวว่า ประชาธิปไตยมีเนื้อหาสาระอยู่ที่ความอยุติธรรม นิติรัฐ นิติธรรม และการกระจายรายได้เท่าเทียมแล้วดีขึ้นกว่าเดิม ที่ผ่านมารัฐบาลทักษิณและสมัครยังไม่เคยเห็นทำอะไรให้สักอย่างเลย การโยนเศษต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสาธารณสุข กองทุนหมู่บ้าน เพื่อตัวเองจะได้ดำเนินนโยบายแบบเสรีนิยมใหม่ ก็คือเมกะโปรเจกทั้งหลาย จะได้ให้คนข้างล่างหุบปากเพราะตัวเองมีธุระที่จะต้องตักตวงอยู่ นี่คือสองข้างของระบอบทักษิณ ข้างหนึ่งก็จะเก็บมวลชนแบบนี้ไว้ใช้ข้อมูลข่าววสารผิดๆอยู่ตลอดเวลา ขณะเดียวกันก็ขอตักตวงผลประโยชนฺแล้วเสริมการดำรงอำนาจของตนตลอดไป นี่คือสิ่งที่อันตรายกว่าระบบใดที่สุด เราจำเป็นจะต้องใช้เวลาในการไตร่ตรองและคิดถึงระบอบนี้มากๆเพราะค่อนข้างอันตราย
นอกจากนั้น ผศ.สุรัตน์ ยังระบุด้วยว่า ถ้าโลกกำลังเป็นเสรีนิยมใหม่ มีผลประโยชน์แค่จะทำเมกะโปรเจค แล้วตักตวงผลประโยชน์กันเองระหว่างรัฐกับรัฐด้วยกัน ชาตินิยมเป็นสิ่งจำเป็นในการต่อสู้กับสิ่งเหล่านี้ ชาตินิยมมีหลายแบบ ที่นำไปสู่ความเกลียดชังผู้อื่น ไปด่าผู้อื่นโดยไม่มีเหตุผล เอาตนเองเป็นใหญ่อย่างเดียว อย่างนั้นเป็นค่านิยมที่ไม่ดีซึ่งเราก็ไม่เคยกระทำ ชาตินิยมของเรามีไว้เพื่อต่อสู้กับทรราชไม่แตกต่างจากชาตินิยมดีๆในอดีตเคยใช้กันมา
ผศ.สุรัตน์ ได้ยกตัวอย่างแนวทางชาตินิยมที่มหาตมา คานธีเคยใช้ โดยกล่าวว่า ทำไมนักวิชาการที่โจมตีเรื่องชาตินิยม ไม่พูดถึงชาตินิยมอหิงสาแบบคานที ที่สามารถเตะจักรวรรดิ์อังกฤษออกไปโดยไม่มีปืนแม้แต่กระบอกเดียวบ้าง ถ้าเราไม่หาอัตลักษณ์ในความเป็นตัวของตัวเรา เราไม่สามารถจัดกลุ่มจัดก้อนได้ เพื่อที่จะบอกว่าเราเป็นใครและต้องการอะไร เราจะไมใช้ชาตินิยมได้อย่างไร ดังนั้น ทุกครั้งที่มีคนกล่าวหาโจมตีวิพากษ์วิจารณ์ ยิ่งเป็นคนสนิทของท่าน จงอย่าโกรธเขา จงใช้วาจาอย่างสุภาพเพื่ออธิบายให้เขาฟัง ว่าเรามีเหตุผลในวันนี้ นี่คือจักรวรรดิ์ประเภทหนึ่ง จักรวรรดิเสรีนิยมที่ผ่านทักษิณนิยม ที่เราจำเป็นจะต้องต่อสู้แล้วกำจัดให้เร็ววันที่สุด การกำจัดระบอบทักษิณเป็นผลดีต่อประชาธิปไตยเพราะจะดีต่อสังคามโดยรวม สังคมโดยรวมประกอบไปด้วยประชาชนส่วนใหญ่ การจำเป็นที่จะต้องจัดการกับระบอบทักษิณและพวกพ้องไม่กี่คนเพื่อให้สังคมส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่ดี นี่ไม่ใช่สิ่งผิด
ทั้งนี้ ผศ.สุรัตน์ ยังได้กล่าวถึงการขอส่งตัวพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ร้ายข้ามแดนจากอังกฤษ ว่า ข้าราชการโปรดทำตามหน้าที่ของท่านอย่างถูกต้องเสียเถิด ท่านจะต้องดำเนินการเมื่อกระบวนการศาลยุติธรรมครบถ้วนแล้ว ท่านมีหน้าทีดำเนินการจงดำเนินการ อย่าเอาการคาดคะเนใดๆ ทั้งสิ้นมาเป็นข้ออ้างเพื่อที่จะไม่ทำงานเพราะตัวเองเป็นพวกพ้องของใครอีก
“ต่อให้ประเทศไทยไมมีสนธิสัญญาระหว่างประเทศ หรือไม่มีสัญญาระหว่างกันก็ตาม มันเป็นตรรกะของนิติรัฐที่จะต้องบอกกับอีกประเทศหนึ่งว่ามีคนของเราที่ศาลตัดสินผิดไปแล้ว เป็นอาชญากรไปอยู่ในดินแดนของท่าน ดังนั้นท่านจึงต้องกรุณาช่วยส่งบุคคลเหล่านี้ให้เราด้วย นี่เป็นตรรกะ นักกฎหมายบางคนกำลังเหลวไหล บอกเราว่าเดี๋ยวจะยุ่งยากมีปัญหา จะยุ่งยากหรือมีปัญหาขึ้นอยู่กับฝีมื่อของท่านและดุลพินิจของศาลอังกฤษ ซึ่งเราประชาชนจะเป็นคนตัดสิน ไม่ใช่หน้าที่ของคุณ หน้าที่ของคุณไม่ได้อยู่ที่การประเมินผล หน้าที่ของประชาชนคือการประเมินผล อย่าสับสนในหน้าที่” ผศ.สุรัตน์ กล่าว