“ภูวดล” อัดยับ “เติ้ง-เสธ.หนั่น” ซุกอก “แม้ว” เพราะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว-ไม่เคยทำอะไรเพื่อประเทศชาติ แฉเหตุยังไม่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ครม.ชุดใหม่ เพราะ “รัฐบาลโจร” ใส่ชื่อ “โกวิท-ไชยา” ทั้งๆ ที่ยังมีคดีติดตัว ก่อนปลุก “พันธมิตรฯ” ยึดความเป็น “ชาตินิยม” ช่วยทำประเทศเข้มแข็งเพื่อลูกหลานในอนาคต
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง ศ.ดร.ภูวดล ทรงประเสิรฐ ปราศรัย
วันนี้ (2 ส.ค.) ศ.ดร.ภูวดล ทรงประเสิรฐ อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขึ้นเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยกล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวกลุ่ม นปก.เตรียมป่วนกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า วันนี้คิดว่าจะมีไอ้พวกนรกป่วนกรุง แต่กลับไม่มาเพราะนายทุนบัดซบที่ปล้นชาติ ปล้นแผ่นดิน ซึ่งเป็นสามีของคุณหญิงถอดใจเสียแล้ว ทำให้สุนัขรับใช้ปั่นป่วน โดยเฉพาะ นปก.ทั้งหลาย เพราะมีการหักหลังกันอย่างมโหฬารเรื่องการหักหัวคิดกันจำนวนมาก จนทำให้รวมตัวกันไม่ได้ ฉะนั้น เหล่าบรรดาลูกสมุนของไอ้หน้าเหลี่ยมซึ่งไปกันจำนวนมากที่ศาลอาญา โดยแต่งตัวกันเต็มยศเพราะมั่นใจว่าจะหลุดคดี แต่เมื่อผู้พิพากษาอ่านคำตัดสินคดีแล้ว ยังสอนผู้ต้องหาให้รู้ดีรู้ชั่ว และรู้ถึงความเป็นมนุษย์ จึงถือเป็นบทตัดสินที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แสดงว่ากระบวนการยุติธรรมในประเทศนี้ เราสามารถพึ่งพาได้
“คนที่ไปรายล้อมอยู่หน้าศาลอาญานั้น มีนักวิชาการที่สอนการปล้นชาติ และการโกงแผ่นดิน รวมทั้งสอนให้เลี่ยงภาษีผ่านรายการวิทยุ ซึ่งผมรู้จักดี เพราะคนคนนี้ พ่อเป็นจ่ากองปราบมาก่อน โดยสมัยก่อนเป็นคนเรียนดี แล้วได้เรียนต่อที่เพนซิเวอร์เนีย คนคนนี้ไม่ได้เก่งอะไร แต่อาศัยความลื่นไหล และตีกินในสมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกับนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี หลังจากนั้นก็หากินกับบริษัทต่างๆ แล้วไปอ้างว่าเป็นที่ปรึกษาของประเทศลาว ซึ่งใครก็สามารถเป็นได้” ดร.ภูวดล กล่าว
ดร.ภูวดล กล่าวอีกว่า รัฐบาลที่ผ่านมาเขาไม่เอาคนคนนี้ เพราะเป็นคนขวางคลองตลอดเวลา โดยเฉพาะเวลาให้สัมภาษณ์เรื่องเศรษฐกิจไม่เคยถูกต้อง อีกทั้งยังเอาเศรษฐศาสตร์ไปยำกับโหราศาสตร์ แล้วปวารณาตัวเป็นกูรูทางเศรษฐศาสตร์ ซึ่งทำตัวตีกินตลอดเวลา ที่สำคัญ วันนี้ที่ยังไม่พระบรมราชโองการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีออกมา เป็นเพราะรัฐบาลทำผิดกฎหมาย แต่ยังดึงดันที่จะส่งรายชื่อทูลเกล้าฯ เพื่อที่จะให้มีการลงพระปรมาภิไธย เช่น การแต่งตั้ง พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งโดนลูกน้องฟ้อง แล้วโดนศาลตัดสินลงโทษให้รอลงอาญา นอกจากนี้ยังมีนายไชยา สะสมทรัพย์ ซึ่งมีคดีที่อยู่ในการพิจาณาของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ก็ยังดึงดันกันไป
“รัฐบาลชุดนี้คือ รัฐบาลสุนัขรับใช้ของระบอบทักษิณ ดังนั้นจึงไม่มีนักลงทุนเข้ามาในประเทศไทย นอกจากยมบาล เพราะเขารู้ว่าประเทศนี้ไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองอีกต่อไป แต่ทำไมการเปลี่ยนแปลงของประเทศนี้ไม่เกิดขึ้น เพราะกลุ่มพันธมิตรฯ ขับเคลื่อนซึ่งไม่ใช่อนาธิปไตย แต่กลไกของรัฐบัดซบ โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปทำอะไรอยู่ ทำให้ปัญหาบุรีรัมย์ สารคาม เชียงใหม่ และอุดรฯ เกิดขึ้น ดังนั้น รัฐบาลเส็งเคร็งต่างหากที่เป็นคนสร้างอนาธิปไตย วันนี้ข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ให้การสนับสนุนพันธมิตรฯ ตลอดเวลา เพราะเขาเหล่านั้นเป็นคน ไม่ใช่ควาย แต่นักการเมืองบัดซบเอาคนอีสานไปเป็นเครื่องมือสร้างอำนาจทางการเมือง และถ้าชาวอีกสานได้รับรู้ข่าวสารบ้านเมืองก่อนหน้านี้ มีหรือเขาจะยอมรับให้พรรคการเมืองบัดซบไปหลอกลวงทั้งที่ภาคเหนือ และภาคอีสาน” ดร.ภูวดล กล่าว
ดร.ภูวดล กล่าวต่อว่า ส่วนพรรคการเมืองที่ไปร่วมกับรัฐบาลนั้น คนเหล่านี้คิดถึงแต่ตัวเองเป็นหลัก ลองไปศึกษาดูได้ ยกตัวอย่างนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ซึ่งขณะนี้มีเงินเป็นหมื่นล้านบาท ถามว่าเอาเงินมาจากไหน ถ้าไม่ใช่จากการเล่นการเมือง และถ้าไม่รู้สึกผิดชอบชั่วดี ก็อย่าเป็นคนเลย นอกจากนี้ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ซึ่งในอดีตเคยใส่รองเท้าฟองน้ำ เดินเล่นพนันม้าอยู่ที่สนามม้าราชติณมัย แต่วันนี้กลายเป็นมหาเศรษฐีขึ้นมา แต่วันนี้คนเหล่านี้ไม่มีสิทธิหลอกลวงประชาชนได้อีกต่อไปแล้ว โดยเฉพาะพันธมิตรฯ ไม่ใช่ควายที่จะให้หลอกได้อีกต่อไป ส่วน กุ๊ย บางบอน ที่ประสบชะตากรรมอย่างนี้ ได้สร้างความเจ็บปวดให้กับไอ้หน้าเหลี่ยม เป็นเพราะผลประโยชน์ส่วนตัวทั้งนั้น ซึ่งนั่นคืออุดมโกง ไม่ใช่อุดมการณ์
“วันนี้นักการเมืองบัดซบไม่แคร์ว่าปัญหาการเมืองจะเป็นอย่างไร เพราะนึกถึงผลประโยชน์ตัวเอง ดังนั้นอีกไม่กี่วันนี้เราจะตัดสินให้เอง เพราะประเทศนี้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อลูกหลานของเรา และเราจะไม่ตกเป็นทาสในเรือนเบี้ยของระบอบทักษิณอีกต่อไป วันนี้ประเทศของเราบอบช้ำเหลือเกิน ฉะนั้นไม่ว่าอี หรือไอ้ตัวไหนถ้ามาขัดขวาง มันจะต้องถูกประชาชนทำลาย และมีอันเป็นไป และถ้าไอ้คนพวกนี้ไม่ถูกศาลลงโทษ มันก็จะถูกศาลประชาชนลงโทษมันเอง ดังนั้นขอให้พี่น้องยึดมั่นในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระราชินี ยึดมั่นในความดี และยึดมั่นในความรักชาติ ดังนั้น ขอให้เราเป็นชาตินิยม เพราะจะทำให้ประเทศของเรากลับมาเข้มแข็งทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมอีกครั้งหนึ่ง โดยชนลูกหลานของเราจะต้องมีชีวิตที่ถาวรสืบไป ควบคู่กับราชวงศ์จักรีอย่างแน่นอน” ดร.ภูวดล กล่าวทิ้งท้าย