“สมเกียรติ” เปิด เอกสารลับที่ทนายรับใช้ “ทักษิณ” ร่างคำแนะนำต่อสู้คดี พบ เตือนภัยอย่ากลับประเทศตั้งแต่ 11ก.พ.51 พร้อมแฉแผนหมายมั่นจะแก้กฎหมายให้คดีของศาลฎีกาฯ อุทธรณ์ ตั้งข้อสังเกตแถลงการณ์ข้ามประเทศ ชี้ชัดว่าไม่คิดจะวางมือทางการเมืองอย่างที่เคยพล่าม
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย
วานนี้ ( 13 ส.ค.) นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวหลบหนีคดีไปประเทศอังกฤษ ว่า ตอนที่หนีครั้งแรก 19 ก.ย.49 พ.ต.ท.ทักษิณคิดจะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น ก็จะอวยพรให้นายกฯทักษิณตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น โดยเอารัฐบาลชุดสุนัขจิ้งจอกหอกหักไปอยู่ที่อังกฤษให้หมดเลย
ทั้งนี้ นายสมเกียรติได้เปิดเอกสารลับฉบับหนึ่ง ระบุว่า เขียนโดยคณะกฎหมายใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณ และส่งให้เมื่อวันที่ 11 ก.พ.51 ซึ่งหลังจากนั้น 17 วัน พ.ต.ท.ทักษิณก็เดินทางกลับประเทศไทย เพราะได้โทรศัพท์ติดต่อแล้วว่าแม้จะถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางเมืองออกหมายจับในเดือนก.พ. แต่รัฐมนตรีจะไปรับทั้งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่เคยเป็นอดีตผู้พิพากษา น้องเขย และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทยในตอนนั้น
นายสมเกียรติ ได้อ่านเอกสารโดยสรุป ว่า คณะทนายบอก 6 ข้อในเอกสาร 6 หน้า ที่ส่งไปให้ทักษิณ ซึ่งเขาบอกว่าคนเขียนอยู่ในคุก ในหัวข้อ 3.1.2. หัวข้อใหญ่ แนวทางการต่อสู้คดีโดยจำเลยที่หนึ่งยังไม่ต้องเข้ามาในประเทศเพื่อต่อสู้คดีในขณะนี้ ก็คือแนะนำว่าอย่าเข้ามา พันธมิตรฯจ้องอยู่ แต่ก็ไม่เชื่อจะไป
นายสมเกียรติ กล่าวว่า คณะนักกฎหมายทำเอกสารตีพิมพ์และอ้างอิงไว้อย่างดี ข้อ1 ไม่มีความเหมาะสมทางกฎหมายที่จำเลยที่หนึ่ง หมายถึงพ.ต.ท.ทักษิณ จะเข้ามาในประเทศ เพราะองค์ประกอบของกฎหมายตั้งแต่รัฐธรรมนูญลงมา มีโอกาสยาก ข้อ2 เสี่ยงมากถ้าเข้ามา ศาลเดี่ยวคือความเสี่ยงที่แท้จริง หมายความว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาปั๊บไม่มีอุทธรณ์ ฎีกา จำคุกยึดทรัพย์เลย
“ดังนั้นตราบใดที่ยังไม่มีการแก้ไขกฎหมายให้คลายอึดอัดก็ยังไม่สมควรที่จำเลยที่หนึ่งจะเข้ามาในประเทศไทย หมายความว่าต้องแก้รัฐธรรมนูญก่อน แล้วแก้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้อุทธรณ์ ฎีกาได้ ให้เป็น 3 ศาลทั่วไป จะได้ถ่วงเวลาออกไป นี่เขาเขียนไว้ตั้งแต่ 11 ก.พ.51 ก่อนมาประเทศไทยแค่427วัน เขาเขียนเตือนไว้แล้วว่าอย่ามา”นายสมเกียรติ กล่าว
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า ข้อ3 ถ้าคิดจะมาให้รอผลคดีก่อน ควรรอผลคดีว่ามีไปในทิศทางใด ซึ่งวันที่ 31 ก.ค.51 คดีแรกมีทิศทางเลยจำคุก 3ปี ข้อ4 ควรดำเนินการขอลี้ภัยทางการเมืองไปประเทศไทยประเทศหนึ่ง น่าจะเป็นหนทางที่ดีทั้งส่วนตัวและส่วนรวม ลี้ภัยเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค. คณะนักกฎหมายที่ใกล้ชิดที่เป็นสุนัขรับใช้เสนอเข้าไป
“ข้อห้า กล่าวโดยสรุปด้วยความเคารพต่อความเห็นของฯพณฯ กระผมมีความเห็นโดยส่วนตัวว่าฯพณฯ ไม่สมควรเข้ามาต่อสู้คดีในประเทศ ในช่วงเวลาระหว่างนี้ควรพิจารณาแนวทางของลี้ภัยทางการเมืองไว้อีกทางหนึ่งซึ่งไม่เสียหายอะไร แต่จะเป็นต่อการต่อสู้ในระยะยาว ถ้าลี้ภัยแล้วไปตั้งหลักจะเป็นหนทางการต่อสู้ระยะยาว แสดงว่าไม่ได้วางมือ” นายสมเกียรติ กล่าว และว่า ข้อสุดท้าย ระบุว่า ผมในฐานะนักฎหมายรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจาก ฯพณฯ และครอบครัว
นอกจากนั้น นายสมเกียรติ ยังกล่าวถึง คำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณเมื่อครั้งประชุมปราบปรามยาเสพติดครั้งใหญ่ ว่า เมื่อ11 ส.ค.51 วันที่ศาลจะทดสอบว่านายแน่ไหม ทักษิณ ครั้งประกาศปราบยาบ้าอย่างแข็งขัน นายพูดว่า “คนค้ายาบ้ามีที่ไปสองทางคือไม่ไปคุกก็ไปวัด ตอนนี้สมเกียรติขอพูดกับคุณว่า “คนที่หนีคดีไปต่างประเทศ ไม่ตายห่าก็ตายโหง”
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า 11ส.ค.51 ไร้เงาพ.ต.ท.ทักษิณมารายงานตัวที่ศาลฎีกาฯ คนก็ไปถามคนสามคน คนแรกคือพงษ์เทพ เทพกาญจนา อดีตผู้พิพากษาและโฆษกส่วนตัวของพ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่ขอออกความเห็น แล้วไปถามน.ส.ศันสนีย์ นาคพงษ์ โฆษกส่วนตัวอีกคน ก็ไม่ขอพูด แล้วก็ไปถามนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในฐานะเป็นอดีตผู้พิพากษาและน้องเขย ก็พูดไม่ออกเช่นกัน
ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ออกแถลงการณ์ระบุว่า “วันนี้ยังไม่ใช่วันของผม ขอให้ผู้สนับสนุนอดทนอีกนิดหนึ่งครับ”นั้น นายสมเกียรติ กล่าวว่า แสดงว่าไม่วางมือ อดทนอีกนิดหนึ่ง แล้ววันรุ่งขึ้น กาหลิบ เพ็ญแข ได้เขียนคอลัมน์อย่างหนักว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะต้องส่งสัญญาณสู้มาจากต่างประเทศ แล้วเตรียมพร้อมจะก่อสงครามใหญ่ มิฉะนั้นอาจจะเสีย เครือข่ายทางการเมืองและผู้สนับสนุนได้ เครือข่ายทางการเมืองก็คือพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง เครือข่ายตามชนบทกลุ่มหนึ่ง เครือข่ายนปก.
นายสมเกียรติ ยังได้อ่านบทความของกาหลิบต่อ และกล่าวว่า ในตอนท้ายของบทความ กาหลิบเขียนว่า เตรียมประเทศให้หลุดพ้นจากควายตัวเดิมที่ลากจูงประเทศไปช้าๆในอัตราหอยทากเดิม แล้วท้ายสุดกาหลิบถามว่าใครจะเข้าวินระหว่างบิดาของเขาที่เป็นนักโลกาภิวัตน์ในกระแสโลกและความเป็นสากล และฝ่ายอมาตยาธิปไตยที่เขาเรียกว่าควาย หรือที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล เรียกว่า สงครามกับราชบัลลังก์ใครจะเข้าวิน ตนตอบไม่ได้ แต่รู้ว่าที่อยู่ของเขาคือเมรุ
อย่างไรก็ตาม นายสมเกียรติ กล่าวว่า ขณะนี้เราต้องยอมรับว่าสงครามประชาชนเกิดขึ้นจริง ค่อยๆพัฒนาไปสู่ความขัดแย้งและรุนแรง แต่เราพันธมิตรฯ อหิงสาเสมอ แต่มีบริเวณถ้าเข้ามาไม่รอดสักราย อยากจะเตือนว่า อย่างที่นายสมศักดิ์ โกศัยสุข กล่าวว่า มีมือ มีเท้า มีสมองเหมือนกัน ตนก็มีเหมือนกัน ปืนตนก็มี ประทัดก็มี พลุก็มี