ทะเลฟ้า ณ ราชดำเนิน
๑ บ่ายคล้อยท้องฟ้าคราม
งามปุยเมฆเมื่อเคลื่อนคล้อย
วับวาวพราวแพรวพลอย
ระริ้วพร้อยดุจแพรพรรณ
๒ แพรพรรณสานแพเพลิน
สู่ราชดำเนินรังสรรค์
ซุ้มโค้งระโยงยัน
พรรณแพรฟ้าโอบหล้าโลม
๓ ตลอดทอดท้องถนน
ธงฟ้าท้นถะถั่งโถม
ปักยอดกระโจมโดม
สะบัดริ้วละลิ่วลม
๔ พร่างฟ้าเพื่อแม่ฟ้า
ประดับประดาด้วยเหมาะสม
เทอดแม่ด้วยแพรพรม
แห่งแพรพรรณสีสันฟ้า
๕ ย่ำค่ำยิ่งเข้มคราม
คนล้นหลามละลานตา
อาภรณ์สะท้อนทา
สีฟ้าทาบดุจท้องทะเล
๖ ทะเลคนที่กล่นราย
ร่ายระรื่นเหมือนคลื่นเห่
นับเนื่องเกินคะเน
และเกินนัยน์เนตรนับ
๗ ทะเลฟ้าบนหล้าแหล่ง
กระจะแจ้งกระจ่างจับ
หากใครไม่รู้รับ
เพราะวาระอันลับเร้น
๘ ตื้นตันอย่างเต็มตา
ยะเยือกทาอุราเย็น
ดับร้อนและผ่อนเข็ญ
ด้วยปารมีพระแม่เมือง
๙ เสียงก้องผองพันธมิตร
สถิตหล้าแลลือเลื่อง
ทะเลฟ้าอันรองเรือง
จารึกหล้านิรันดร์กาล
ภู-ติ-รัก
(หมายเหตุ : แรงบันดาลใจจากการจัดงานเฉลิมฉลอง “วันแม่” ประจำปี 2551 ณ สะพานมัฆวานรังสรรค์ของผองพี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย)
สำหรับ “ภู-ติ-รัก” เป็นนามปากกาของสื่อมวลชนแห่งลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา แต่ถิ่นเกิดอยู่ที่ลุ่มน้ำน่าน เป็นหนึ่งในกวีผู้ร่วมก่อตั้ง “กลุ่มกาแล” กลุ่มวรรณกรรมที่ถือกำเนิดขึ้นในรั้วมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เมื่อกว่า 20 ปีมาแล้ว ถือเป็นกวีสายตระกูลช่างแรคำ เพราะเป็นศิษย์ของ“แรคำ ประโดยคำ” กวีซีไรต์แห่งลุ่มน้ำแม่ปิง