สภาฯสั่งแขวนร่างจริยธรรม พปช.เหน็บห้าม ส.ส.ขึ้นเวทีข้างถนน

ที่ประชุมสภาฯยอมถอนร่างประมวลจริยธรรม หลังวิปทั้งสองฝ่ายมีมติต้องผ่านการพิจารณาของที่ประชุมรัฐสภา ขณะที่แก๊งลูกกรอกโชว์วุฒิภาวะ เสียดสี ปชป.อ้างจริยธรรมให้ครอบคลุม ห้าม ส.ส.ปราศรัยข้างถนน

วันนี้ (7 ส.ค.) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มี พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาร่างข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ. ...ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญยกร่างเสร็จแล้ว มี 40 ข้อ มีสาระสำคัญ อาทิ หมวด 1 ส่วนที่ 1 ว่าด้วยอุดมคติของการเป็นสมาชิกและกรรมาธิการ ส่วนที่ 2 ว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นสมาชิกและกรรมาธิการ ส่วนที่ 3 ว่าด้วยจริยธรรมเกี่ยวกับการดำรงตน ครอบครัว และผู้อื่น ที่ครอบคุลมถึงการเป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย การปฏิบัติหน้าที่โดยยึดถือประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นสิ่งสูงสุด การไม่แสดงกิริยา หรือใช้วาจาอันไม่สุภาพ ใส่ร้ายป้ายสีบุคคลใดโดยไม่มีพยานหลักฐาน หรือนำเรื่องเท็จมาอภิปรายในที่ประชุม

ส่วนหมวด 2 ว่าด้วยการควบคุมให้เป็นไปตามจริยธรรม ให้มีคณะกรรมการจริยธรรมของสภาผู้แทนราษฎร ประกอบด้วย ประธานสภาฯ เป็นประธาน และกรรมการอื่น ซึ่งสภาเลือกจาก ส.ส.ของแต่ละพรรค พรรคละ 1 คน มีอำนาจหน้าที่ กำกับดูแลให้มีการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมฯอย่างเคร่งครัด พิจารณาสอบสวนวินิจฉัยคำร้องเรียนและลงโทษ และวางหลักเกณฑ์ ระเบียบในการพิจารณาโดยความเห็นชอบจากสภา ทั้งนี้ ระเบียบดังกล่าวต้องมีหลักประกันการพิจารณาคำร้องโดยเปิดเผย ส่วนคำวินิจฉัยถือมติไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ และมีอำนาจลงโทษสมาชิก หรือกรรมาธิการผู้นั้น โดยโทษ หากเป็นความผิดไม่ร้ายแรง ให้ลงโทษโดยตักเตือน ตำหนิ หรือประณามให้เป็นที่ประจักษ์ แล้วรายงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่วนถ้าผิดร้ายแรง ให้ลงโทษโดยเสนอถอดถอนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยถือมติไม่น้อยกว่า 3 ใน 5 ของจำนวนกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ทั้งนี้ ให้คำวินิจฉัยของคณะกรรมการถือเป็นที่สุดและรายงานต่อสภาเพื่อทราบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมมีการอภิปรายกว้างขวาง โดย นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน อภิปรายว่า หากมี ส.ส.ไปอภิปรายข้างถนน และสร้างความแตกแยก จะถือว่าเข้าเกณฑ์ประมวลจริยธรรมหรือไม่ ถ้าเข้า ก็มีหลักฐานพร้อมยื่นได้ทันที ขณะที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า ร่างข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรม ที่เสนอเข้าสภาอาจขัดรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเป็นสมัยประชุมนิติบัญญัติ ที่ให้พิจารณาเฉพาะกฎหมาย ซึ่งข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรม ไม่ใช่กฎหมาย ถ้าจะพิจารณาก็ต้องให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภาให้ความเห็นชอบ ทำให้ พ.อ.อภิวันท์ สั่งพักการประชุมเวลา 14.35 น.เพื่อหารือร่วมกับวิปทั้งสองฝ่าย

เมื่อเปิดประชุมอีกครั้ง พ.อ.อภิวันท์ ชี้แจงว่า ผลการหารือร่วมกันของประธานวิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน และตน มีความเห็นตรงกันว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา 127 บัญญัติไว้ชัดว่า ในสมัยประชุมนิติบัญญัติจะพิจารณาเรื่องใดได้บ้าง สำหรับร่างข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรม ต้องผ่านความเห็นชอบของที่ประชุมรัฐสภา จึงขอให้ประธาน กมธ.ถอนร่างออกไปก่อนเพื่อให้ประธานรัฐสภานัดประชุมรัฐสภาเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป จากนั้น นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ประธาน กมธ.ได้ยอมถอนร่างออกไป