xs
xsm
sm
md
lg

“โกวิท” อ้างขอเวลาทำงาน-ให้สัมภาษณ์สื่อสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“โกวิท” ถือฤกษ์เข้ากระทรวงมหาดไทย สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มอบนโยบายข้าราชการ เน้นสร้างสามัคคีปรองดองอย่างเร่งด่วน ลั่นลุยลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ พรุ่งนี้ (7 ส.ค.) แจงสื่องดจ้อรายวัน ไม่ต้องตาม ห้ามโทร.สัมภาษณ์ ขอเวลาทำงาน 6 เดือน เพราะต้องการทุ่มเวลาทำงานสางปัญหาบ้านเมือง ตั้ง “ศุภชัย-ม.ล.ปนัดดา” เป็นโฆษก ขอแจงสื่อสัปดาห์ 1-2 ครั้ง

ที่กระทรวงมหาดไทย เช้าวันนี้ (6 ส.ค.) บรรยากาศการเข้ากระทรวงมหาดไทยวันแรก ของ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ นายประสงค์ โฆษิตานนท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3) ได้เข้าทำงานที่กระทรวงเป็นวันแรก โดยมี นายสุพล ฟองงาม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) พร้อมด้วยข้าราชการะดับสูงของกระทรวง คอยให้การต้อนรับ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่ม ส.ส.ในกลุ่มเพื่อนเนวิน อาทิ นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกพรรคพลังประชาชน ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นโฆษกประจำกระทรวง มาร่วมแสดงความยินดีด้วย นอกจากนี้ ภายในกระทรวง ได้มีการตกแต่งบริเวณห้องโถงชั้นล่างของศาลาว่าการ ด้วยการนำป้ายยินดีต้อนรับที่มีรูป พล.ต.อ.โกวิท มาวางไว้บริเวณบันไดทางขึ้นเข้าสู่ห้องทำงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น.นายประสงค์ ได้ถือฤกษ์เดินทางมาถึงกระทรวง เพื่อขึ้นไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนห้องทำงานก่อนจะเดินลงมารอต้อนรับ พล.ต.อ.โกวิท พร้อมกับนายพงศ์โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวง และบรรดาข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ต่อมาเวลา 09.30 น.พล.ต.อ.โกวิท ได้เดินทางมาถึง โดยเข้ามาทักทายข้าราชการก่อนเดินไปสักการะศาลพระภูมิศาล ศาลพระกาฬ และพระอนุสาวรีย์สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ตามลำดับ ท่ามกลางสื่อมวลชนเป็นจำนวนมาก แม้ว่า ก่อนหน้านี้ คณะทำงานของ พล.ต.อ.โกวิท ได้กำชับห้ามช่างภาพเข้าไปบันทึกภาพใกล้ๆ แล้วก็ตาม

ทั้งนี้ พล.ต.อ.โกวิท ได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในห้องทำงาน พร้อมทั้งลงนามปฏิบัติหน้าที่รัฐนมตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก่อนจะมอบนโยบายให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ที่ห้องประชุม 1

พล.ต.อ.โกวิท ได้กล่าวขอขอบคุณทุกคนที่มาต้อนรับ การเข้ามารับตำแหน่งครั้งนี้ ถือเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ เพราะหัวใจของการบริหารราชการกระทรวงมหาดไทย คือ การ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ของประชาชน โดยนโยบายเร่งด่วน คือ การสร้างความสามัคคีของคนในชาติ ด้วยการสร้างจิตสำนึกร่วมของคนไทย เพื่อลดเหตุการณ์การเผชิญหน้า จำกัดความขัดแย้งทุกรณีด้วยการใช้แนวทางสันติวิธี และใช้มาตรการทางกฎหมายเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ พล.ต.อ.โกวิท ยังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาความยากจน ว่า กระทรวงมหาดไทยจะเร่งสำรวจที่ดินรกร้างว่างเปล่า ทั้งที่ดินของรัฐ ที่ดินของเอกชน และที่ดินสาธารณะประโยชน์ทั่วประเทศ เพื่อจัดทำแผนการใช้ประโยชน์ ให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงสุด โดยจะเพิ่มโอกาสการมีที่ดินทำกินให้กับประชาชน ตลอดจนการแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ เพื่อขยายโอกาสให้ประชาชนที่มีที่ดินทำกินอย่างถูกต้องตามกฎหมายให้เหมาะสม และเป็นธรรม รวมถึงจะสนับสนุนโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอาชีพหลัก และส่งเสริมอาชีพให้ประชาชน เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น

ส่วนนโยบายการปราบปรามผู้มีอิทธิพล รมว.มหาดไทย กล่าวว่า จะสร้างแนวร่วมประชาชนเพื่อทำลายความเข้มแข็งของผู้มีอิทธิพล โดยใช้มาตรการทางสังคม กดดัน ไม่ต้อนรับ ไม่คบค้าสมาคมกับบุคคลในเครือข่ายของกลุ่มดังกล่าว ควบคู่กับการใช้มาตรการทางกฎหมาย

“กระทรวงมหาดไทยจะยกระดับการปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติด เป็นการทำสงครามกับยาเสพติด โดยสร้างแนวร่วมประชาชนเป็นเครือข่ายป้องกัน กดดัน และต่อต้านการค้ายาเสพติด และจะใช้มาตรการทางสังคมควบคู่กับการใช้กฎหมายกดดัน” พล.ต.อ.โกวิท กล่าวและว่า สำหรับการแต่งตั้งโยกย้าย ขอให้ข้าราชการสบายใจ ตนเคยเป็นข้าราชการเก่า เข้าใจราชการดี อีกทั้งยังมีความเป็นกลาง จากนี้ไปจะทำงานในสิ่งที่เกิดประโยชน์แก่บ้านเมือง จะลงไปสั่งการในพื้นที่ที่เกิดปัญหา และขอเวลา 6 เดือน เพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรม จัดระเบียบสถานบริการ ปราบปรามปัญหายาเสพติด แต่ขณะนี้รัฐบาลมีความจำเป็นต้องขอกำลังตำรวจเพื่อรักษาความสงบ แก้ปัญหาความรุนแรง ปัญหาการทำผิดกฎหมาย ดังนั้นในการประชุมกระทรวงฯ ครั้งต่อไปต้องขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัด ให้เชิญผู้บังคับการตำรวจภูธรในพื้นที่เข้ามานั่งข้างๆ เพื่อสะดวกต่อการสั่งการ เพราะหากมีปัญหาอะไรก็จะได้ช่วยกัน

ต่อมา พล.ต.อ.โกวิท ได้แถลงกับสื่อมวลชนหลังมอบนโยบายการทำงานให้กับข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ว่า ตนได้เซ็นแบ่งงานไปเรียบร้อยแล้ว โดยได้สานงานต่อจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีต รมว.มหาดไทย ซึ่ง รมช.มหาดไทย ทั้ง 2 คน ยังจะดูแลงานตามอดีต รมว.มหาดไทย เคยมอบหมายเอาไว้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทยได้แบ่งงานเพื่อกำกับดูแลในส่วนของ “มท.1” ประกอบไปด้วย สำนักรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง กทม.การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค งานนโยบายและงานบริหารงานบุคคล และเรื่องที่ต้องเสนอนายกฯและคณะรัฐมนตรี ส่วนหน่วยงานที่ นายสุพล ฟองงาม รมช.มหาดไทย (มท.2) มีกรมการพัฒนาชุมชน กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และการประปาส่วนภูมิภาค ขณะที่ นายประสงค์ โฆษิตานนท์ รมช.มหาดไทย (มท.3) รับผิดชอบดูแลกรมที่ดิน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การประปานครหลวง และองค์การตลาด

พล.ต.อ.โกวิท กล่าวว่า นอกจากนี้ได้ปัญหาเร่งด่วน ได้มอบหมายให้ทาง รมช.มหาดไทย ทั้ง 2 ได้ไปช่วยเร่งแก้ไขปัญหาวิกฤติของบ้านเมือง เช่น ปัญหาความสงบเรียบร้อย ปัญหายาเสพติด และความสามัคคีของคนในชาติ ปัญหาตรงนี้ทางกระทรวงมหาดไทยจะเข้าไปดำเนินการโดยเร็วที่สุด โดยขอเวลาแก้ไขปัญหาภายใน 3 เดือน เพราะต้องปฏิบัติหน้าที่รองนายกฯด้านความมั่นคง รวมทั้ง รมว.มหาดไทย ด้วย ทั้งนี้ ส่วนการตอบคำถามสื่อมวลชนจะมอบหมายนายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกพรรคพลังประชาชน และ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ทำหน้าที่เป็นโฆษกกระทรวง ทำหน้าที่นัดหมายชี้แจงต่อสื่อแทน ขณะที่ตนอาจจะให้สัมภาษณ์กับสื่อเพียงสัปดาห์ 1-2 ครั้งเท่านั้น

“ผมจะไม่ตอบคำถามที่บ้านหรือทางโทรศัพท์ ไม่ว่าเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น ขอให้สื่อมวลชนรออยู่ข้างนอกห้องทำงาน ถ้าผมสะดวกจะมาพูดคุยด้วยเอง ไม่ว่า เรื่องการเมือง หรือเรื่องต่างๆ เพราะกลัวจะเกิดความเข้าใจผิด ถ้าผมยิ้มหรือไม่ตอบคำถาม สื่อก็อย่าบังคับให้ตอบคำถามก็แล้วกัน ผมต้องขออภัยด้วย” พล.ต.อ.โกวิท กล่าว

สำหรับกรณีที่ พล.ต.ท.นิสสัย บุญ ศิริ ได้ไปยื่นฟ้อง พล.ต.อ.โกวิท สมัยดำรงตำแหน่งเป็น ผบ.ตร.ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ แล้วศาลได้พิพากษาจำคุก 1 ปี แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี จะกระทบต่อการทำหน้าที่รัฐมนตรีหรือไม่นั้น รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ไม่มีอะไร ไม่ผิดกฎหมาย เพราะสมัยเป็น ผบ.ตร.ได้ทำตามระเบียบตามกฎหมายอยู่แล้ว เรื่องนี้เป็นการตีความกฎหมายที่มองคนละมุม ซึ่งนักกฎหมายหลายคนได้บอกว่า ทำถูก เรื่องนี้ยังไม่จบ แต่เป็นเพียงการรอลงอาญาไว้

สำหรับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทยที่หลายฝ่ายกังวลนั้น รมว.มหาดไทย กล่าวว่า อย่าไปกังวล ทุกอย่างมีหลักเกณฑ์ ซึ่งตนจะทำตามระเบียบเดิมทั้งหมด ซึ่งจะให้ถูกใจร้อยเปอร์เซ็นต์คงจะเป็นไปไม่ได้ ส่วนการสร้างความสามัคคีนั้น ตนทำไปเรื่อยๆ เพราะมีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบงานอยู่แล้ว โดยการประเมินผลงานของตนจะเป็นหน้าที่ของนายกฯ และรัฐสภา

เมื่อถามว่า มีกระแสจะนำ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ น้องชาย นายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย มาทำงานด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.โกวิท กล่าวว่า ใครมีความสามารถก็ต้องมาช่วยกัน อย่าไปปิดกั้น ตนเป็นกลางไม่เข้าข้างฝ่ายใดและยอมรับฟังความเห็นทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.โกวิท มีกำหนดการเดินทางไป 3 จังหวัดชายแดนใต้ ในวันที่ 7-8 ส.ค.นี้ โดยจะเดินทางเครื่องบินกาซ่าของตำรวจ ในเวลา 07.00 น. เพื่อไปจังหวัดนราธิวาส และขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปตรวจเยี่ยม ศปก.ตร.ส่วนหน้าที่จังหวัดยะลา พร้อมตรวจเยี่ยมศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ทั้งนี้ กำหนดการไม่ได้นำคณะสื่อมวลชนให้ร่วมเดินทางลงพื้นที่แต่อย่างใด

พาทีมงานขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำเนียบ

ต่อมา เมื่อเวลา 15.00 น.พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ นำคณะทำงานขึ้นไปสักการะศาลพระพรหมที่อยู่ชั้นดาดฟ้าของตึกไทยคู่ฟ้า และจากนั้นก็ลงมาไหว้ศาลพระภูมิบริเวณริมรั้วทำเนียบรัฐบาลติดกับถนนพิษณุโลก ภายหลังการสักการะ พล.ต.อ.โกวิท ให้สัมภาษณ์ว่า ได้มอบหมายให้นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกพรรคพลังประชาชนทำหน้าที่โฆษกกระทรวงมหาดไทย

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น รองนายกฯ และ มท.1 ได้ขึ้นไปตรวจห้องทำงานบนตึกบัญชาการ พร้อมกับตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าการแต่งตั้งให้เป็นรองนายกรัฐมนตรีเพื่อเตรียมตัวเป็นนายกรัฐมนตรีตัวสำรองว่า “ไม่มี ไม่มี” อย่างไรก็ตาม ในส่วนการมอบหมายงานของนายกตนก็ยังไม่เห็นคำสั่งว่าจะมอบหมายอะไรบ้าง

ส่วนการแก้ไขปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.ต.อ.โกวิท กล่าวว่า ให้รอฟังคำชี้แจงเมื่อมีโอกาสลงไปตรวจเยี่ยมในพื้นที่


กำลังโหลดความคิดเห็น