“ชูศักดิ์” แก้เกี้ยวไม่รับรู้ร่าง รธน.63 เวอร์ชันนายกฯ กระโดดรับลูกบ้านเมืองยามนี้ต้องมีกฎหมายควบคุมการชุมนุมใหม่ สั่งการ “ปธ.วิปฯ” หารือพรรคร่วมก่อนยื่นญัตติแก้รธน.เพื่อความเป็นเอกภาพ ยันรัฐบาลเดินหน้าแก้ 100%
วันนี้ (4 ส.ค.) นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาและแก้ไขรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการสนทนาประสาสมัคร ว่า กลุ่มพันธมิตรฯกลัวว่า พรรคจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 ว่า กมธ.ยังไม่ได้ยกร่างใดๆ และไม่เกี่ยวข้องกับมาตราดังกล่าวเลย ตนเข้าใจว่า มาตรานี้หากกลับไปศึกษาดูจะพบว่าบัญญัติไว้เหมือนรัฐธรรมนูญ 2540 แต่ปัญหาบ้านเมืองในตอนนี้ต้องมีกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมในที่สาธารณะ หมายความว่าต้องมีข้อกฎหมายจำกัดเรื่องการชุมนุม ฉะนั้น จึงมีการยกร่างและข้อบัญญัติการชุมนุมในที่สาธารณะว่าเป็นเช่นใด การชุมนุมในที่สาธารณะควรมีข้อจำกัดเช่นใด กฎหมายนี้จะบัญญัติไว้
เมื่อถามว่า ล่าสุด เช้าวันนี้ นายสมัคร ได้มอบหมายให้ทีมโฆษกรัฐบาลนำยกร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 ที่นายสมัครได้ยกร่างขึ้นมาแจกจ่ายให้สื่อมวลชน นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบและยังไม่เห็นรายละเอียด ทั้งนี้ สื่อมวลชนพยายามยื่นเอกสารที่นายสมัครนำมาแจกจ่ายไปให้นายชูศักดิ์อ่าน แต่นายชูศักดิ์ปฏิเสธไม่อ่านเอกสาร
เมื่อถามว่า การชุมนุมนั้นควรบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ หรือ พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญบัญญัติการชุมนุมในที่สาธารณะว่าจะกระทำได้เพื่อประโยชน์ของประชาชนในการใช้เส้นทางสาธารณะ โดยทั่วไปเรียกว่ากฎหมายการชุมนุมในที่สาธารณะ หากชุมนุมแล้วปิดกั้นการจราจรของประชาชน มันก็ต้องมีกฎหมายออกมา
เมื่อถามว่า การเปิดประชุมสภาสมัยนิติบัญญัติในวันที่ 6 ส.ค.นี้ พรรคพลังประชาชนจะยื่นยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้สภาฯบรรจุเข้าวาระทันทีหรือใม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนได้คุยกับนายสามารถ แก้วมีชัย ประธานวิปรัฐบาลแล้ว และเสนอไปว่า ต้องไปสรุปว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นใดบ้าง โดยให้พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคหารือกัน หากเห็นพ้องต้องกันทั้งหมดก็ดำเนินการไปสู่การปรับปรุงแก้ไข เหตุที่ตนเสนอเช่นนี้เพราะอยากให้มีความเป็นเอกภาพ คุยกันให้เป็นหลักเกณฑ์ว่าจะเป็นอย่างไร ไม่ใช่พรรคนั้น พรรคนี้ออกมาพูด ท้ายที่สุดก็ต้องกำหนดประเด็นแล้วกำหนดวันเวลา ตนทราบว่านายสามารถจะนำประเด็นต่างๆมาหารือในวันนี้พร้อมกับนำผลการศึกษาและแก้ไขรัฐธรรรมนูญ กมธ.วิสามัญฯรัฐสภา มาร่วมพิจารณาพร้อมกับการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับของตนประกอบกันด้วย โดยข้อสรุปในช่วงท้ายก็ให้ส่งไปยังพรรคร่วมรัฐบาลด้วย
เมื่อถามว่า ต้องรอข้อสรุปของ กมธ.วิสามัญฯ เสียก่อน และยังไม่จำเป็นต้องบรรจุญัตตินี้หรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่าไม่ บางประเด็นก็มีข้อยุติแล้วเพียงแต่นำผลการศึกษามาดูเพื่อให้มันเรียบร้อยและมอบให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณาและเสนอความเห็นว่าเป็นอย่างไร เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้รัฐบาลบอกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นหน้าที่ของรัฐสภา นายชูศักดิ์กล่าวว่าถูกต้องแต่มันต้องส่งให้พรรคร่วมรัฐบาลไปดูก่อน และต่อมาจะให้ ส.ส.ร่วมลงชื่อเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่า ยืนยันว่า จะเดินหน้า 100 เปอร์เซ็นต์ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และกลุ่มพันธมิตรฯยืนยันจะเคลื่อนไหวทันทีหากเรื่องนี้เกิดขึ้น นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญโดยต้องดูว่าผลการสำรวจประชามติจะเป็นเช่นใด ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่ แต่คิดว่ากระทำด้วยความรอบคอบแล้ว สิ่งสำคัญคือ ต้องชี้แจงแสดงเหตุผลกันให้ประชาชนรับทราบว่าจะแก้รัฐธรรมนูญในประเด็นนี้เพราะอะไร เท่าที่ตนรับฟังจากนายสามารถก็ได้ข้อชัดเจนและเห็นพ้องต้องกันทุกพรรค โดยเฉพาะระบบเลือกตั้ง เนื่องจากระบบนี้ไม่ดี ส่วนประเด็นอื่นๆต้องหารือให้รอบคอบ
เมื่อถามว่า จะแก้ไขมาตรา 237 และมาตรา 309 จะยืนยันแก้ไขหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่าบางคนบอกว่า มาตรา 309 ไม่มีความจำเป็์นต้องแก้ไข และตนไม่ว่าอะไร ขอเพียงไปหารือกันให้ชัดเจนก่อน เมื่อถามว่าวิเคราะห์หรือไม่ว่า หากเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรรมนูญอาจนำไปสู่วิกฤต นายชูศักดิ์กล่าวว่า ต้องชี้แจงแสดงเหตุผล ประเทศไทยนั้นอยู่ที่การรับฟังเหตุผล หากตั้งธงแบบนี้มันไม่ดีหรอก
เมื่อถามว่า มองว่าวิกฤตจะใหญ่กว่าเหตุการณ์เดือนตุลาหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่อยากให้มีวิกฤต พยามยามหลีกเลี่ยง ตนก็หลีกเลี่ยงเต็มที่ เมื่อถามว่ารัฐบาลจะจัดทำประชามติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ท้ายที่สุดรัฐบาลก็ต้องสอบถามประชามติจากประชาชน ไม่ว่าในชั้นใดก็แล้วแต่ซึ่งอาจเป็นชั้นสุดท้าย
