xs
xsm
sm
md
lg

คำต่อคำ “หมัก” เลี้ยงแกะรายสัปดาห์-ธาตุแท้โผล่ แก้ ม.63 สลายชุมนุม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รายการ “สนทนาประสาสมัคร” วันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม 2551 เวลา 08.30-09.30 น.ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงการจัดงานวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ 3 วัน พร้อมจัดงาน 116 วัน จากวันแม่ ถึงวันพ่อ ให้คนไทยเลิกแบ่งฝ่าย ก่อนป้ายสีพันธมิตรฯ ต้นตอความแตกแยก อ้างอีกจะยึดศาลากลาง ดึงทหารปฏิวัติ ธาตุแท้เผด็จการโผล่อีก คิดแก้ ม.63 สลายชุมนุม อ้างเป็นแผนทำลายชาติ ยอมรับสั่ง นปก.หยุดม็อบ โบ้ยถ่อยตีพันธมิตรฯอุดร เพราะโดนยั่วยุ ฉุนโดนร้องสหประชาชาติ

 คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "สนทนาประสาสมัคร" 

“สวัสดีครับท่านผู้ชมที่เคารพ รายการสนทนาประสาสมัคร 8 โมง 30 วันนี้ ออกช้าไปนิดหนึ่งเพราะเหตุว่าให้เขาถ่าย ถ่ายภาพงานที่กำลังจะต้องทำ มีคนต่อว่าบอกว่า โอ๊ย เดี๋ยวนี้คุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ ไม่คุยเรื่องการบ้านการเมือง การบ้านการเมืองมีตอนท้าย เดี๋ยวจะคุยให้ฟัง แต่ตอนนี้เรื่องของงานสำคัญของบ้านเมือง ที่ตั้งใจไว้ที่จะมาคุยให้ฟังก็จะมาคุยเสียก่อน คือว่าวันนี้เป็นวันที่ 3 วันที่ 12 ก็จะเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ผมจะคุยถวายพระพร เรื่องพระองค์ท่าน ก็จะคุยวันที่ 10 วันอาทิตย์หน้า แต่วันนี้ล่วงหน้า ล่วงหน้า 9 วัน จะคุยอะไรให้ฟัง ก็จะคุยเรื่องงานอย่างนี้ล่ะครับ ก็คือว่า เราจะทำงานถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 12 จะมีงาน 3 วัน วันที่ 10 วันที่ 11 วันที่ 12 สนามหลวง เป็นยังไง สนามหลวงทางโน้นปิดอยู่ครึ่ง เหลืออยู่ครึ่ง จอดรถ ก็ขลุกขลัก ทำไม่ได้ ก็จะมาทำที่ลานพระราชวังดุสิต

ที่ต้องมาเล่าเป็นเรื่องเป็นราว ก็ต้องขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ก็ทรงอนุญาต เมื่อทรงอนุญาตแล้ว ก็ไปดูสถานที่ เพราะว่าจะจัดงานที่ลานพระราชวังดุสิต แล้วก็รับสั่งว่าให้เอาเข้าไปข้างใน คือ ให้คนที่มาดูงานได้เลยเข้าไปที่พระที่นั่งอนันตฯ ผมเนี่ยตั้งใจตั้งแต่มาเป็นนายกรัฐมนตรี 6 เดือนนี่ล่ะครับ จะไป 3 หน 4 หน จะไปประชุม ไปก่อนประชุมสภา คือ มีงานสำคัญอยู่ แล้วเป็นงานเงียบๆ แต่งานคือต้องเรียกว่า มหัศจรรย์ล่ะครับ งานนี้เคยแสดงมาแล้ว 1, 2, 3, 4 ครั้งนี้ครั้งที่ 5 จะแสดงติดพันกันเลย ข้างในนะครับ คือ เอาพระที่นั่งอนันตฯ ทั้งข้างล่างข้างบนจัด เรียกว่า งานศิลป์แผ่นดิน

ทีนี้ก็ไปดูสถานที่ที่จะจัดงานถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ วันที่ 10, 11, 12 ทางเจ้าหน้าที่ ท่านผู้หญิงที่ติดต่อก็บอกว่า เสร็จแล้วจะให้ประชาชนมางาน คือ งานข้างนอก จะเป็นใส่หลังคาปรับอากาศ เพราะหน้าฝนนะ เสี่ยงไม่ได้ จะมีงานแสดงต่างๆ เดี๋ยวจะบอกว่างานแสดงจะแสดงกันยังไง

แต่ว่าทีนี้ก็จะลำดับความอย่างนี้ เรื่องงานจะแสดง ก็จะบอกให้ฟังว่า ทั้งหมดนี้จะจัดเรียกโครงการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 10-12 เนี่ยนะ ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต และลานพระบรมรูปทรงม้า ทั้งสองอันนี้นะ นั่นก็คือว่า ผมเป็นเจ้าของงาน ผมก็ต้องไปดูสถานที่ว่าพระราชทานให้ที่ตรงไหนบ้าง เอาล่ะ ผมจะสลับที่ซะหน่อย ประเดี๋ยวผมจะเล่าเรื่องพระที่นั่งอนันตฯ ไว้ข้างหลัง มันจะได้เรียงแถวกันตามลำดับ คืองานนี้ เมื่อเวลาทำงานนี้เขาก็บอกว่า มูลนิธิเฉลิมพระเกียรติผ่านดาวเทียม ท่านผู้หญิงวิลาวัณย์ วีรานุวัตติ์ เป็นประธานกรรมการมูลนิธิ ท่านก็จะร่วมมือกับนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ผมไปเป็นประธานกรรมการอำนวยงานนี้เอง

งานนี้จะมีแนวทาง จะจัดงานที่ว่านี้ 3 วัน 3 คืน จะจัดอาคารจำลองเฉลิมพระเกียรติพระราชประวัติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในทุกด้าน แล้วก็จะจัดจำหน่ายแสดงสินค้าศิลปาชีพ

สินค้าศิลปาชีพเวลานี้ก็มีมาก ปกติพระองค์ท่านก็มีเวลาของพระองค์ท่านที่จะเอาลงไปจำหน่ายที่สวนอัมพร แต่คราวนี้จะเอามาจำหน่ายข้างนอก สินค้าศิลปาชีพนะ ทุกชนิดล่ะครับ ขายหมดนะ จัดจำหน่ายสินค้าโครงการหลวง ร้านจิตรลดา ร้านภูฟ้า ร้านอื่นๆ ในพระบรมวงศานุวงศ์ ก็จะเอามาจัดงานนี้

ถัดไป ก็ให้ประชาชนมาที่สินค้าราคาพิเศษสินค้าราคาถูก ศูนย์อาคารครัวสวนจิตรฯ ก็จะมีสมเด็จ สมเด็จฯ ท่านพระราชทานว่า มีครัวสมเด็จ พระองค์ท่านมีกับข้าวก็จะมีในครัวนี้ ผมก็จะมีครัวของผม มีหมึกแดงก็มามีครัวนั้น ก็มีการมาแสดงอาหารกันหน่อย แล้วก็มีกิจกรรมบนเวทีด้านศิลปวัฒนธรรม ก็มีทุกคืน

**โยนผิดพันธมิตรฯ ทำบ้านเมืองแตกแยก

ทีนี้ จุดประสงค์ของงานก็ต้องอย่างนี้ เขาบอกว่า การเปิดตัวโครงการ มันจะมีการเปิดตัวโครงการนะครับ คือ วันที่ 12 ถือว่าเป็นวันแม่ วันที่ 5 ถือว่าเป็นวันพ่อ เขาก็บอกว่าคนไทยแบ่งแยกเป็นสองซีกสองฝ่าย ไม่รู้จะยังไง แบ่งแยกกันเลย ใครจะบอกก็แยก แม้กระทั่งศาลจะพิพากษาคดีท่านก็ยังบอกเลยว่าคนไทยแบ่งแยก

คือ เป็นที่ยอมรับกันเลยว่า คนไทยแบ่งแยกเป็นสองซีกสองฝ่าย นะครับ สาเหตุยังไงก็คงจะรู้กันอยู่ล่ะครับ คือว่า ปลุกระดมกันทั้งวันทั้งคืน จะเอากันให้พังกันไปข้างหนึ่งอย่างเนี้ยนะ ก็อย่างที่ว่านี่ล่ะ กำหนดวันอีก 7 วัน รัฐบาลจะต้องลาออก ก็กำหนดไป เอ้าว่าไป ผมไม่ว่าอะไรหรอกครับ แต่ให้รู้ว่ากำลังนี้เป็นที่ยอมรับกันว่า คนไทยเนี่ย เมื่อที่แล้วแบ่งแยกจบไปแล้ว อันนี้แบ่งอีกแล้วครับ แบ่งแยกเพราะว่ามีการออกโทรทัศน์ปลุกระดมให้คนทั้งบ้านทั้งเมืองเข้าใจผิด แล้วก็แบ่งปันกัน แล้วก็จะเอาคนเข้ามา ถ้าพูดง่ายๆ ภาษาฝรั่งเรียกว่าจะ show down กันนี่ล่ะครับ ต่างจังหวัดก็จะเอากันแบบชนิดที่ว่า ที่ผมเคยพูดไว้ไงครับ ก็มีการทำนี่ครับ ก็มีสำนักนี่ล่ะครับ สำนักสงฆ์ที่ถูกยกเลิกไปแล้ว แล้วไม่ยอมเลิก นี่ล่ะครับ อยู่ข้างหลังเรื่องนี้ ดำเนินการ ฟังวิทยุกลางคืนเขาถ่ายทอด ฟังสิครับ อยู่ทั้งนั้นล่ะครับ ที่มานั่งเป็นตัวยืนตัวหลักนั่นล่ะครับ สำนักนี้แหล่ะครับ เป็นตัวอยู่ แล้วสำนักนี้แผ่ไปทั่วประเทศ

** ปดซ้ำซาก “พันธมิตรฯ ยึดศาลากลาง”

ไอ้คนที่ออกมาเป็นตัวแกนอยู่ทั่วประเทศ ก็เพราะว่าสำนักนี้เขาสร้างสมมา ตั้งแต่คดีความปี 38, 39 ก็ไม่จบไม่สิ้น ก็ปล่อยไว้ ก็นี่ล่ะครับ เป็นเชื้อ แล้วอันนี้ล่ะครับเอามาใช้กัน ดำเนินการ ทั้งนี้ ทั้งหมดที่ผมบอกไว้น่ะ จุดหมายปลายทางอยู่ที่ไหน ก็จะมีคำอย่างที่ว่าน่ะครับ อย่างที่เกิดจนกระทั่งฟาดฟันกันที่อุดรธานี และจังหวัดต่างๆ ก็ต้องปะทะกัน ต้องเอาตำรวจมา ต้องเอาทหาร สารวัตรมาช่วย อะไรต่างๆ ก็ต้องการกันไม่ให้ปะทะกัน ทั้งหมดนี้ ก็เพราะว่าสุดท้ายเขาก็จะยึดศาลากลางทั้งหมด ให้ทำงานไม่ได้ ทั้งหมดก็ พูดซะเลยตรงนี้ละกันครับ แก้ไขรัฐธรรมนูญ มีคณะนี้ออกมาต่อต้าน

เมื่อวานเขาบอกว่ายังไงฮะ บอกว่า ถ้าเผื่อว่าคดีความนายกฯ จบเมื่อไร ค่อยแก้รัฐธรรมนูญ ถ้าจะแก้รัฐธรรมนูญก่อนจะไปกระทบเรื่องคดีความ ไม่ใช่หรอกครับ ได้ประโยชน์กับพรรคการเมือง จะถูกยุบพรรค มาตรา 309 ไม่ใช่ครับ ที่จะต่อต้านไม่ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ อยู่ที่ไหนครับ อยู่ที่มาตรา 63 ท่านไปเปิดรัฐธรรมนูญอ่านสิครับ เขากลัวจะแก้มาตรา 63 ก็ไอ้ที่คาราคาซังกันอยู่กลางบ้านกลางเมืองทุกวันนี้ ถนนนี้ย้ายไปถนนนี้ ยึดถนนนี้ ยึดหน้ากระทรวงศึกษาฯ ยึดกลางบ้านกลางเมือง ว่างๆ มีเวลาก็เดินขบวนไป ปิดถนนหมดทุกหนทุกแห่ง เพราะว่าคณะนี้จะเดินขบวน จะไปสาบถสาบานที่วัดพระแก้ว จะเดินกลับมา โอกาสต่างๆ เพราะอะไรครับ ที่ทำได้อย่างนี้ ทำไมครับ มาตรา 63 ครับ

**ธาตุแท้เผด็จการ หวังแก้ ม.63 สลายชุมนุม

เขากลัวว่า ทางพรรครัฐบาลเนี่ยจะไปแก้มาตรา 63 ถ้าแก้มาตรา 63 แล้วทำอย่างที่ว่านี้ไม่ได้ครับ ไปอ่านมาตรา 63 สิครับ แล้วก็รู้ว่าที่อยากจะแก้ จะแก้ยังไง แก้ให้ทำอย่างทางนี้ไม่ได้ มีสิทธิเสรีภาพแต่ทำอย่างนี้ไม่ได้ ก็ขนาดศาลเนี่ยท่านสั่งออกไป พอถ้ารอบที่ 2 กระทรวงศึกษาฯ ไปร้องอย่างเดียวกับนักเรียนร้อง เขาก็ไปหักล้างทัน ไปแก้ทัน ศาลแพ่งต้องทำยังไง ศาลแพ่งต้องไปหารือศาลรัฐธรรมนูญ เห็นมั้ยครับ แล้วไปดูสิครับหน้ากระทรวงศึกษาฯ เป็นยังไง นี่ล่ะครับ ทำกันได้กลางใจบ้านกลางใจเมือง แล้วจะทำกันทั่วประเทศ ถึงขนาดจะยึดศาลากลางกันเนี่ย ก็เพราะไอ้มาตรา 63

ทั้งหมดเลย พูดไปน่ะไม่ใช่ 237 ไม่ใช่ 190 ไม่ใช่ 309 ไม่ใช่เรื่องอย่างนู้นอย่างนี้ กลัวว่า ถ้าแก้ มาตรา 63 แก้ปั๊บ มันปลุกระดมกันกลางเมืองอย่างนี้ไม่ได้ ก็พูดกันความจริงซะตรงนี้เลยก็แล้วกัน ตรงท้ายผมจะได้ไม่ต้องพูด เพราะอย่างนี้ล่ะครับ ทำไมต้องอธิบายนี้ ทำไมอธิบายวันนี้ ต้องอธิบายวันนี้เพราะเหตุว่า เพราะเหตุว่าศาลจะตัดสินคดีท่านยังต้องออกตัวก่อนเลยครับว่าท่านเป็นกลางนะ แต่ว่าคนไทยมันแบ่งกันเป็นสองซีกสองฝ่าย ท่านบอกท่านตัดสินเป็นกลาง เห็นมั้ยครับ ศาลจะตัดสินคดีท่านยังต้องออกตัวก่อนเลยครับ เพราะมันแบ่งแยกกัน อัตราส่วนเท่าไร อัตราส่วนเท่าไรไม่รู้ครับ แต่ว่าแล้วผมจะทำอะไร ผมจะทำในสิ่งซึ่ง ผมไม่ทำแบบที่พวกนี้ทำหรอกครับ ผมจะทำอย่างนี้ครับ

**แจงกิจกรรม 116 วัน-หวังพันธมิตรฯเลิกชุมนุม

จะมีการเปิดตัวโครงการวันแม่ถึงวันพ่อ 116 วัน อ่ะ ดูให้ดีนะ ให้คนไทยรู้รักสามัคคี เริ่มโครงการ 12 สิงหาฯ แล้วก็ถึง 3 ธันวาฯ 51 ปีนี้นะ แล้วก็ต้องเอา พูดภาษาธรรมดาเป็นชาวบ้าน ก็ต้องเอาลูก เอาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ มาทรงเป็นประธานในงานที่จะให้คนไทยเลิกแบ่งแยกกันนี่ล่ะครับ จะทำอย่างนี้นะ กิจกรรมอย่างนี้นะ ระหว่าง 116 วันจะมีเดิน-วิ่งเทิดพระเกียรติทั่วประเทศ จากวันแม่ถึงวันพ่อ จะรณรงค์ให้คนไทยตระหนักถึงความสามัคคีถวายเป็นพระราชกุศล 116 วัน ทั่วประเทศ

สอง จะจัดจำหน่ายสายรัดข้อมือแบบไขว้คู่ เป็น ristband นี่นะครับ สีฟ้ากับสีเหลืองไขว้กัน รู้รักสามัคคี จำนวน 1 ล้านชุด จะนำรายได้ทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ

สาม การเดิน-วิ่งเทิดพระเกียรติ ผู้ว่าราชการจังหวัด และ อบต.ทั่วประเทศ เหล่าข้าราชการ ประชาชน สาขาทุกอาชีพ ทำยังไงครับ จะเดิน-วิ่งทั่วประเทศ จะมีธงรู้รักสามัคคี ธงชาติ ธงตราสัญลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ รณรงค์ทั่วประเทศ กำหนดรับธงนะ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะทรงมาเป็นประธานในพิธี ทรงมอบธงให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ แล้วนายกรัฐมนตรีก็จะเป็นกรรมการอำนวยการ พระราชพิธีนี้ก็จะมีที่ตึกสันติไมตรี ข้างหน้าเนี่ยนะครับ 25-29 รอหมายกำหนดการอยู่เนี่ยนะ แล้วก็จะเสด็จพระราชดำเนินมา ก็อย่างนี้ล่ะครับ ภาพที่ถ่ายให้ดูแว้บๆๆๆ ทั้งหมดนั่นล่ะครับ

ทั้งหมดนี้ก็คือว่า จะทำก็เพราะว่าคนไทยแยกกันเป็นฝักเป็นฝ่าย ก็จะใช้เวลา 116 จากวันแม่ถึงวันพ่อ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ จะพระราชทานธง แล้วก็จะวิ่งกันทั่วประเทศ ก็ทำอย่างที่พอจะคิดจะทำได้เท่านั้นเอง แล้วก็เอาจาก จะใกล้วันสมเด็จฯ วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ ก็เอามาทำ เพราะงั้นต้องบอกเหตุเสียก่อนว่าเพราะเหตุอย่างนี้นะครับ เพราะแบ่งแยกกันเป็นซีกเป็นฝ่าย ซึ่งข้างไหนมีเท่าไรไม่ทราบได้ แต่ว่างานที่จะทำเนี่ย ก็ยังไม่นับฝ่ายเท่าไหร่หรอกครับ แต่ว่าต้อง มันต้องจบครับ มันต้องเลิก

ทีนี้งานที่จะทำ 3 วันเนี่ยนะ วันที่ 10-11-12 ก็โปรดเกล้าฯ พระราชทานว่า เข้าไปดูข้างในพระที่นั่งอนันตฯ เนี่ย เสียเงิน ฝรั่งก็เสียเงิน ไทยก็ ไทยไม่เสียงเงินหรอกครับ แต่ทว่า ผมน่ะไปตรวจสถานที่เพื่อจะจัดงาน 10-11-12 ก็ต้องเข้าไปข้างใน ท่านผู้หญิงก็บอกว่า เอ้าขึ้นมาดู บอก แหมผมจะมา 3-4 หนแล้ว ไม่ได้มา วันนั้นก็เลยต้องไปดู ถึงตรงนั้นแล้ว ขึ้นไปเลย ก็จะไปดู โอ้โห คือไปเห็นแล้ว พระที่นั่งอนันตฯ กับผมเนี่ย คือ เข้าไปดูตั้งแต่เด็ก เห็นมาตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งโต จนกระทั่งเป็น ส.ส. ส.ส.แต่งตั้งนะสมัยที่ 16-17 ผมได้เข้าประชุมในพระที่นั่งอนันตฯ นะครับ ที่เขาเป็นอัฒจันทร์อยู่ข้างหน้า ก่อนสภาประชุมพระที่นั่งอนันตฯ นะครับ ผมได้ประชุมสุดท้ายก่อนที่สภา ปี 17 จะเปิดสภาใหม่ ผมได้ใช้ที่สภานั้น เคยยืนอภิปรายในสภานั้น เพราะฉะนั้นความคุ้นเคยเปิดสภาครั้งไหนก็ได้เฝ้าที่นั่น

โอย คราวนี้ มูลนิธิศิลปาชีพพิเศษ ได้เอาของที่มีฝีมือ เรียกว่า งานศิลป์แผ่นดินครับ ไปแสดงทั้งชั้น 2 และชั้นล่าง แล้วข้างล่างก็ขายของ คือเหมือนกับว่าแสดงถาวรทั้งปีล่ะครับ ถ้าไม่มีงานอะไร เขาก็จะปรับได้ คือไปดูแล้วจะนึกว่า โอ้โห จุ๊ๆๆ ผมก็ได้รับหนังสือมา 1 เล่ม เล่มนี้ครับ หนังสือเล่มนี้ชื่อศิลป์แผ่นดิน

ถ้าหากว่าจะมีการให้เห็นว่าหนังสือเล่มที่ดีที่สุดระหว่างนี้ เล่มไหน ผมต้องบอกเล่มนี้ครับ เล่มนี้ข้างในนะครับ ประเดี๋ยวผมจะให้เขาถ่ายให้ดูข้างใน เพราะว่านอกจากอันนี้ได้มาแล้ว ก็ยังได้ VTR ที่เป็นการแสดง แต่ว่างานนี้อธิบายโฆษณาเท่าไหร่ผู้คน ก็คือ อยากให้ไปชม ถูกต้อง ไอ้เป็นความภาคภูมิใจว่าอะไร คือ ศิลป์แผ่นดิน วันนี้จะขออนุญาตต้องอ่านหนังสือเล่มนี้นะ รูปภาพจะปรากฏใน VTR แต่หนังสือน่ะดีกวาที่ VTR แน่นอน เพราะจะบอกว่าอะไร อะไรคืออะไร อะไรคือบุษบก อะไรคือเสลี่ยงข้างบน อะไรคือผ้าปัก อะไรคือผ้าทอ ทั้งหมดเป็นศิลปะชั้นสูงของแผ่นดิน

เพื่อให้เห็นตรงนี้ จะขออนุญาต ต่อไปนี้ต้องอ่าน จำมาเพื่อเล่าไม่ได้ครับ ต้องอ่าน แล้ววันนี้จะอ่านกลอน ไม่ใช่กลอน เขาเรียกว่า ยานี กาพย์ยานี 11 ผู้แต่งไม่ปรากฏนามอีก โอ๊ย แต่งแล้วอ่านแล้วซาบซึ้ง เพราะงั้นจะอ่าน 3 ชิ้น เป็นบทนำ และเป็นที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ รับสั่ง เป็นอะไรต่างๆ แล้วสุดท้าย แหม เขาแปลเป็นภาษาอังกฤษ แต่ว่าผมไปงานสถานทูต สถานทูตบอก โอ๊ย คุณสมัคร คุณคุยเช้าๆ ผมก็ฟังไม่ออก ทูตบางคนฟังออก ท่านทูตจีนเงี้ย ฟังสบายเลย แต่ทูตอื่นบอกอยากจะรู้ แหม ที่จริงอยากอ่าน

เอ้า ยานี 11 เขาแปลเป็นภาษาอังกฤษครับ เจ๋งฮะ แต่ไม่ได้แปลเป็นฉันทลักษณ์นะ แปลเป็นคำให้ใจความ แต่จะอ่านภาษาไทย อ่านยานี 11 ให้ฟัง แต่จะเริ่มอ่านตรงนี้ครับ หนังสือเล่มนี้นะ เป็นหนังสือที่เขารายงานทั้งหมด คือ บันทึกศิลป์แผ่นดิน ความเป็นมายังไงจะอ่านให้ฟัง ทั้งเล่มเนี่ยนะ ถ้าบ้านไหนที่มีอยู่ติดบ้าน ถ้ามีได้นะ นั่งอ่านเถอะครับ แล้วจะได้รู้ว่าโอ้โห มันน่าภาคภูมิใจที่เกิดมาเป็นคนไทยว่าเรามีของอะไรอย่างนี้ ดูนี่ อันนี้เป็นความนำครับ

“ศิลปาชีพกำเนิดขึ้นมาเพื่อสนับสนุนคนไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรให้มีรายได้เสริมมาจุนเจือครอบครัว ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในอันที่จะให้คนไทยสามารถพึ่งตนเองได้ยั่งยืน งานฝีมือในชีวิตประจำวันของคนไทยแต่โบราณหลากหลายชนิด อาทิ งานทอผ้า งานจักสาน ด้วยพืชพันธุ์ธรรมชาติที่มีอยู่ในประเทศไทย งานปักผ้า และอื่นๆ ไปจนถึงงานที่ทำยากขึ้นเป็นลำดับ อย่างเครื่องเงิน ถมทอง ทำคร่ำ แต่เป็นงานมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพจับมือให้ลูกหลานไทยมาสืบทอดศิลปะไทยให้ยืนยงคงอยู่คู่แผ่นดินไทยต่อไป

ฝีมือของสมาชิกศิลปาชีพพัฒนาไปพร้อมๆ กับความเจริญเติบโตของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ซึ่ง ณ บัดนี้มีสมาชิกทั่วประเทศหลายแสนคน หลายร้อยคนในจำนวนนั้นได้พัฒนาฝีมือขึ้นสู่ขั้นสูงล้ำ จนสามารถรังสรรค์งานฝีมือระดับศิลป์แผ่นดิน ขึ้นมาอวดสายตาชาวโลก หนังสือศิลป์แผ่นดินเล่มนี้ได้ประมวลผลงานชั้นเลิศของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพไว้หลายชนิด ซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นอารยชนของชาวไทยอย่างชัดแจ้ง และในอนาคตกาล จะเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ด้านศิลปะว่าคนไทยยุคสมัยนี้มีความเจริญทางศิลปะที่ยอดเยี่ยมอีกสมัยหนึ่ง

พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
22 พ.ค.2550”

ทีนี้ เมื่ออ่านตรงนี้แล้วก็จะต้องอ่านพระราชปรารภของสมเด็จพระนางเจ้าฯ ก่อน ก่อนจะนั่น นี่ๆๆๆ คำนำนะ นี่เป็นพระราชดำรัสนะ

“เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ข้าพเจ้าได้มีโอกาสไปเปิดงานศิลป์แผ่นดิน ครั้งล่าสุด (ครั้งที่ 4) ที่พระที่นั่งอนันตสมาคม เห็นแล้วบังเกิดความสุข ความปีติ โสมนัสอย่างยิ่ง ว่านี่คือ คนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และข้าพเจ้า เอาใจใส่ และเอามาจากครอบครัวชาวนาที่ยากจน บัดนี้กลายมาเป็นครอบครัวชาวนาที่มีความสามารถสูงสุดในทางด้านศิลปะ และที่มาตอบแทนพระคุณแผ่นดินได้

ท่านทั้งหลายคงเห็นกับตาแล้วว่า งานฝีมือชั้นเลิศทั้งหลาย เป็นฝีมือของลูกหลานชาวนาทั้งนั้น วันนั้นเป็นวันที่ข้าพเจ้าปลื้มปีติเหลือเกิน

พระราชดำรัส สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

วันที่ 11 สิงหาคม 2547”

ทั้งหมดนี้นะ ท่านใช้เวลา 50 ปี ในการทำงานนี้ ทีนี้เวลาที่เขาเขียนตรงนี้เนี่ย ที่ผมบอกจะอ่านยานี 11 ให้ฟังเนี่ย ไม่บอกว่าใครแต่ง ไม่บอก ธรรมเนียมไหนก็ไม่ทราบได้ แต่ไม่เป็นไรหรอกวันหนึ่งเขาคงค้นคว้าได้ โปรดดูนะ ทั้ง 2 อัน ว่า อะไรคือศิลปาชีพพิเศษ อะไรคือสิ่งที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ รับสั่งเมื่อสักครู่นี้ แล้วต่อไปนี้ คือ ท่านเอาลูกหลานชาวนาซึ่งว่างจากนาและมีศิลปะติดตัวนั้น เอามาฝึกมาฝนจนกระทั่ง ดูนะ ระหว่างที่ผมอ่านตรงนี้ VTR ที่ทางโน้นให้มาก็ถ่าย VTR ก็ได้ จะได้ดูศิลปะ ฝีมือต่างๆ รูปต่างๆ หนังสืออยู่ในเล่มในนี้ ผมจะอ่านให้ดูนะ นี่ ยานี 11 นะ

“ลางทีก็แล้งร้อน ให้รอหายกับสายฝน
ลางทีอุทกท้น กระทั่งท่วมทั่วผืนนา
ลางทีพายุร้าย ก็กล้ำกรายกระหน่ำมา
ลางทีก็ข้าวกล้า ถูกหนูหนอนเข้าบ่อนเบียน

ชาวนาก็เช่นนี้ กี่ร้อยปีไม่มีเปลี่ยน
ความจนจึงวนเวียน เป็นเพื่อนคู่อยู่เคียงกาย
จวบมีพระแม่เจ้า จึงเหือดเศร้าและโศกหาย
ทุกข์ร้อนก็ผ่อนคลาย เหมือนนํ้าซับให้เย็นทรวง

ทรงสอนให้รู้ค่า ของชาวนาว่าใหญ่หลวง
ปลูกเลี้ยงโลกทั้งปวง เป็นงานเหนื่อยและหนักแรง
ทรงเป็นกำลังใจ เสด็จฯ ไปทุกหนแห่ง
ชาวนาที่ล่มแล้ง พระทรงรับมาร่ำเรียน

จับมือที่แข็งกร้าน มาลองงานละเอียดเนียน
เส้นสายทุกลายเขียน จนอ่อนโค้งกว่าเส้นเคียว
กี่เดือนและกี่ปี กว่าแท่งเหล็กจะบางเรียว
ใยไหมจะยึดเกลียว เป็นกลุ่มแพรที่แพรวพราย

งานนั้นในวันนี้ สำเร็จมีออกมากมาย
กี่หมื่นชีวิตหมาย จะไกลจากความยากจน
อีกเริ่มอรุณศิลป์ สว่างเบื้องท้องฟ้าบน
ที่ฟุบแทบสุธาดล ก็ฟื้นชีพมาชื่นบาน

สมที่อุทิศองค์ อุทิศทรัพย์มหาศาล
ทั้งเสกจินตนาการ จนกำเนิด “ศิลป์แผ่นดิน”
คนใดที่ได้ดู ก็จะรู้ประจักษ์สิ้น
ว่าเพชรจากผืนดิน พระทรงสร้างมาอย่างไร”

อันนี้ขออ่านให้ฟังอีกครั้งหนึ่งสำหรับท่านที่ฟังแล้วจะสะดุดเล็กๆ น้อยๆ มีคุณค่ามีความหมายที่จะอ่านให้ฟังอีกหนหนึ่ง

“ลางทีก็แล้งร้อน ให้รอหายกับสายฝน
ลางทีอุทกท้น กระทั่งท่วมทั่วผืนนา
ลางทีพายุร้าย ก็กล้ำกรายกระหน่ำมา
ลางทีก็ข้าวกล้า ถูกหนูหนอนเข้าบ่อนเบียน

ชาวนาก็เช่นนี้ กี่ร้อยปีไม่มีเปลี่ยน
ความจนจึงวนเวียน เป็นเพื่อนคู่อยู่เคียงกาย
จวบมีพระแม่เจ้า จึงเหือดเศร้าและโศกหาย
ทุกข์ร้อนก็ผ่อนคลาย เหมือนน้ำซับให้เย็นทรวง

ทรงสอนให้รู้ค่า ของชาวนาว่าใหญ่หลวง
ปลูกเลี้ยงโลกทั้งปวง เป็นงานเหนื่อยและหนักแรง
ทรงเป็นกำลังใจ เสด็จฯ ไปทุกหนแห่ง
ชาวนาที่ล่มแล้ง พระทรงรับมาร่ำเรียน

จับมือที่แข็งกร้าน มาลองงานละเอียดเนียน
เส้นสายทุกลายเขียน จนอ่อนโค้งกว่าเส้นเคียว
กี่เดือนและกี่ปี กว่าแท่งเหล็กจะบางเรียว
ใยไหมจะยึดเกลียว เป็นกลุ่มแพรที่แพรวพราย

งานนั้นในวันนี้ สำเร็จมีออกมากมาย
กี่หมื่นชีวิตหมาย จะไกลจากความยากจน
อีกเริ่มอรุณศิลป์ สว่างเบื้องท้องฟ้าบน
ที่ฟุบแทบสุธาดล ก็ฟื้นชีพมาชื่นบาน

สมที่อุทิศองค์ อุทิศทรัพย์มหาศาล
ทั้งเสกจินตนาการ จนกำเนิด “ศิลป์แผ่นดิน”
คนใดที่ได้ดู ก็จะรู้ประจักษ์สิ้น
ว่าเพชรจากผืนดิน พระทรงสร้างมาอย่างไร”

ภาษาอังกฤษอ่านไปเดี๋ยวโดนวิพากษ์วิจารณ์ แต่ว่าขอให้ท่านไปหาหนังสือนี้อ่าน เขาแปลภาษาอังกฤษ ก็แปล ต้องใช้คำว่า เจ๋ง เจ๋งจริงๆ หนังสือเล่มนี้นะครับ ผมจะให้ดูว่านอกจาก VTR ที่เขาถ่าย หนังสืออธิบายความอย่างนี้ครับว่า อะไรคืออะไร เริ่มต้นอย่างนี้นะครับ

ผลงานชิ้นสำคัญ ให้ดูอันนี้เป็นตัวอย่างนะ เขาจะบอกเลยว่า นี่ “บุษบกมาลา” จะได้รู้ว่าอะไรคือ บุษบกมาลา คือ ที่ที่ว่า ทำอย่างนี้ นี่ถ่ายทอดมาจากพระที่นั่งจักรพรรดิพิมานนะ อยู่ข้างหลังพระที่นั่ง พระที่นั่งที่เราเข้าไปทำงานกันเสมอๆ เนี่ยนะ อยู่หลังพระที่นั่ง เอ่อ... เดี๋ยวๆๆ นึกชื่อไม่ออก เดี๋ยวอ่านก่อน คือ นี่อยู่หลังพระที่นั่งจักรพรรดิฯ ข้างหน้าเนี่ยที่เราเข้าไปงานกันเสมอๆ ในพระราชพิธีต่างๆ ด้านหลังที่เสด็จขึ้นไปข้างหลังเนี่ย ข้างหลังจากนี้ นี่ทำย่อส่วนมา

อันนี้เป็นเครื่องประดับพระเกียรติยศ ทั้งหมดนี้ แต่ว่าให้ท่านได้ดูรูปอันเดียวนะ หนังสือจะแสดงให้ดูยิ่งกว่าที่เราไปเดินดูข้างในจริงๆ จะบอกว่า ตัดชิ้นๆ เป็นชิ้นส่วนมา จะให้ดูว่าจริงๆ จากรูปอย่างนี้ แล้วก็ เขาก็จะตัดชิ้นออกมาให้เป็นชิ้นออกมา แยกส่วนมา ยอดจะทำยังไง ตรงนี้จะทำยังไง แต่ว่าถ้าจะไปแสดงที่ไหนถอดไปได้ครับ อธิบายความ นี่เหมือนตรานพรัตน์นะ แล้วเขาก็จะมีคำอธิบาย แต่ละอันแต่ละชิ้นอธิบายความหมด แล้วพอเสร็จปั๊บ นี่ที่ประดับอยู่ข้างในทั้ง 3 อันนี้ งานไม้ที่เป็นฐานอยู่ข้างล่าง ทั้งหมดจะบอกเลยว่าทำเท่าไรๆ อันนี้ทั้งหมดใช้คน 238 คน ใช้เวลาทำ 1 ปี นี่ก็เป็นที่เรียกว่า สัปคับคชาธาร ความจริงก็เรียกว่าเป็นที่นั่งวางบนหลังช้าง

ทีนี้ หนังสือเล่มนี้ ทั้งหมดนี้จะต้องเป็นว่า เรื่องนี้ๆๆ เรื่องทอผ้า ขึ้นต้นอย่างนี้ว่า ทอผ้า ก็จะเปิดหนังสือว่าอะไรคือทอผ้า ผ้าทอยังไง ผ้าทุกชิ้นต่างๆ นั้น ผ้าทอลายต่างๆ ทั้งหมดนี้ ผ้ายก ผ้าดอก ผ้าอะไรต่างๆ จะแสดงไว้ในนี้หมดครับ นี่ทั้งหมดนี้ศิลปาชีพทั้งนั้นนะครับ ใครที่ดูข่าวสมเด็จพระนางเจ้าฯ เสด็จฯ พระองค์ทรงทอดพระเนตรสิ่งที่คน ชาวนาเอามาถวาย มานั่งหมอบกันแล้วมาถวายกันเนี่ย แล้วก็ทรงตรวจทรงดูอะไรต่างๆ ทั้งหมดนี่ที่ทรงเห็นจากผ้ามัดหมี่ จากอะไรต่างๆ แล้วก็เอามาจัดการไปดำเนินการตาม

ตัวที่จะเรียกว่าคร่ำ คืออะไร ถมเงิน ถมทอง ของพวกนี้เป็นของประดับครับ เวลาที่มีโต๊ะเสวย เครื่องประดับบนโต๊ะเสวยทำยังไง นี่นะครับ เวลามีแขกเมือง มันมีย่านลิเพา ย่านลิเพานี่ก็อยู่ทางภาคใต้ นี่เป็นสลักไม้ นี่เป็นของติดตู้เย็น ผมก็ซื้อมา ว่าจะเอามาให้ดู ซื้อมา 8 ตัว เป็นเด็กนอนครับ เอาไม้แกะนะครับ ไม่ใช่ปูนปลาสเตอร์นะ แกะด้วยไม้แล้วเคลือบสีครับ นี่ของติดตู้เย็น คือใครมาใครก็ต้องซื้อ ฝรั่งมาก็ฝรั่งซื้อ ไทยไม่ค่อยซื้อหรอกครับ เพราะว่าไทยไม่ค่อยเห็นว่าของพรรค์นี้มีนั่นเท่าไร นี่ เด็กเล่นหนังสติ๊ก เด็กเล่นขี่ม้า เด็กเล่นตะกร้อ เด็กเป่าไม้ซาง

อย่างอันนี้งานตกแต่งปีกแมลงทับ นี่ไม่น่าเชื่อ ปีกแมลงทับนะ แต่ท่านผู้หญิงที่พาชมบอก นี่เสื้อนี่ปีกแมลงทับนะ ตายแล้วนะ ไม่ใช่มาฆ่าแมลงทับนะ แมลงทับต้องยืนยันว่าตายแล้วเอามาอะไรต่างๆ เอามาแต่ละปีกๆ มาประดับ แล้วก็ เมื่อเวลาถ้าเราเคยดู เวลาฝรั่งมันเอาทอง เอาเศษพลอยมาเจียระไน แล้วก็มาปะๆๆ แหวน อันนี้ก็เอาปีกแมลงทับมาปะ อะไรต่างๆ คือ ดูแล้ว อย่างภาพ ขึง เราไปเมืองจีนบอก อู้หู ภาพปักผ้าไหม โอ๊ย มาเมืองไทย ทำเป็นใหญ่เบ้อเริ่มเลยครับ เป็นเหมือนจอหนัง Cinema scope ใหญ่มหึมา ใครมีจอโทรทัศน์ใหญ่ๆ ที่บ้าน นี่ใหญ่กว่าร้อยเท่านะ เป็นผนังเลย คือไปดูใกล้ๆ เป็นภาพปัก ภาพปักเป็นเรื่องเล่าต่างๆ ปักแล้วก็คนปักรอบ ที่ดีคืออะไร มีจอ VCD ข้างๆ ไม่ใช่จอเล็กเดี๋ยวนี้นะ จอ 49 นิ้ว ครับอยู่ใกล้ๆ แล้วก็แสดงให้ดูว่าเขานั่งปักยังไง ปักทีละเส้นยังไง นั่งล้อมปักยังไงๆ แล้วออกมาเป็นภาพยังไง คนบรรยายจะเล่าให้ฟังเลยว่าตรานี้ยังไง สำหรับพระเจ้าอยู่หัว จะเป็นตรายังไง สำหรับสมเด็จพระนางเจ้าฯ จะมีตราอะไรยังไง จะได้ครุฑยุดนาค จะได้หนุมานอะไรยังไง

ทั้งหมดเป็นการแสดง คือดูแล้ว โอ๊ย ขึ้นไปเนี่ย งานนี้สมเด็จพระนางเจ้าฯ โปรดเกล้าฯ ว่าถ้าไปชมงานแสดงที่จัดการที่จะขายของศิลปาชีพที่ลานพระราชวังดุสิต ให้เดินเลยเข้าไปข้างใน แล้วขึ้นไปข้างบน ใครไม่เคยเข้าก็จะได้เข้าครั้งนี้ล่ะ ขึ้นไป สะอาด เรียบร้อย งดงาม เพราะว่าองค์พระที่นั่งเองนั้น แหงนขึ้นไปดูสิครับ ศิลปะฝรั่งอยู่ข้างบน ฝรั่งมาทำไทย ฝรั่งมาเขียนภาพคนไทย ฝรั่งเขียนภาพเครื่องตกแต่ง เป็นฝรั่งนะ พระที่นั่งอนันตสมาคมเนี่ย ฝรั่งครับ แต่ว่ามีการแสดงของไทย ฝรั่งที่มาสร้างพระที่นั่งอนันตฯ เนี่ยเป็นชั้นยอดศิลปินที่ทรงจ้างเข้ามาทำเนี่ยนะครับ แต่ข้างล่างนั้น ไม่ใช่ยอดศิลปิน แต่เป็นลูกหลานชาวนาที่ทรงเอามารวบรวมแล้วก็มาฝึก คนเป็นแสนนะครับ เอามาเป็นร้อยเป็นพัน แล้วก็เหลือจำนวน บางชิ้นทำ 8 คน บางชิ้นทำ 235 คน อะไรต่างๆ

โอ๊ย งานแกะไม้น่ะ ไม้เป็นแผ่นๆๆ ไม้สักเนี่ยนะ แกะเลยครับ ขอบๆ เนี่ย แหม เหมือนกับฝีมือ ฝีพระหัตถ์รัชกาลที่ 2 ที่ประตูวัดสุทัศน์ฯ น่ะนะ ประตูวิหารวัดสุทัศน์ฯ โหย เป็นเจาะเข้าไป เป็นโพรง ไม้เป็นแท่งเนี่ย เจาะเข้าไปข้างใน นกหนูเข้าไปอยู่ข้างใน ไม่ใช่ไปอาศัยอยู่นะ เป็นตัวอยู่ข้างในครับ แต่เลียนแบบ แล้วใส่กรอบ แล้วข้างหน้า ใหญ่เบ้อเริ่มมหึมา ประมาณสัก 5 x 5 เมตร 4 x4 เมตร นั่นล่ะ ไม้สักเป็นแผ่นมาปรุกัน รอยลึก สลักลึกข้างใน เล่าให้ฟังว่า ไอ้เพชรทั้ง 9 สีทั้ง 9 คือเขาเรียกอะไรทั้ง 9 นะ

ทั้ง 9 สีเนี่ยล่ะครับ เล่าให้ฟังว่าตั้งแต่เริ่มต้น ตั้งแต่พระอิศวร ที่อยู่ข้างบน มีปราสาทข้างบน ว่าเป็นยังไงๆ แล้วก็เล่าให้ฟังมาจนกระทั่งมาถึงไอ้ยักษ์ ไอ้ยักษ์ถือศีล ยักษ์ถือศีลเขาทำยังไง เป็นไม้สลัก มียักษ์ถือศีล แล้วยักษ์ก็ตาออกมาเป็นอันนี้ (เสียงหาย)

ในสภาเนี่ย เขาเอาไอ้พวกพลอยเนี่ย 9 สีเนี่ย เอามาเป็นก้อนๆ มาแสดง 2,500 กะรัต โห ส.ส.จันทบุรี ถือมาเนี่ย แต่ว่าเป็นเขาทำเทียมให้ดูนะ ผมบอกเนี่ย ถ้าอธิบายเสร็จแล้ว ลงมาๆ แล้วจะต้องบอกเลยว่า เอาโต๊ะมาตั้ง แล้วเอา 9 เนี่ย ทั้ง 9 สีเนี่ยมาตั้งเลย จำได้มั้ยที่เขาท่องกัน 9 อันน่ะ เพชรดี มณีแดง เขียวไขแสงมรกต เหลืองใสสดบุษราคัม แดงแก่ก่ำโกเมนเอก สีหมอกเมฆนิลกาฬ มุกดาหารสีหมอกมัว แดงสลัวเพทาย สังวาลย์สายไพฑูรย์ 9 สีนี่ล่ะครับ ที่เขาเรียกว่า Nine Gems บอกว่าต้องเอาโต๊ะมาวางแล้วเอา 9 ก้อนมาวางเลย เพราะข้างบนเนี่ยเป็นประวัติว่า ทั้งหมด 9 สีนี้มายังไง ก็ดูแล้วก็วิพากษ์วิจารณ์อะไรกันต่างๆ

คือ งานฝีมือ โอ้โห งานปัก ดอกบัว ไอ้ตัวใบบัวเนี่ยนะ ฝีมือปักไหมนะ มองดูเนี่ย ถ้าของจริง ถ้าใครเคยเห็นบัวจริง มันจะฝ้า ฝ้าอยู่บนใบบัว ฝ้าเป็นไง มันเป็นไอ้ใครมาถักไว้บางๆ เป็นฝ้าขาวๆ พอน้ำหยดปั๊บก็จะวิ่ง เหมือนกับที่บอกว่าน้ำกลิ้งบนใบบัว เนี่ย ปักเป็นน้ำหยดอยู่อัน ยังไม่กลิ้งเลย คือแสดงว่าการปักอย่างรวดเร็ว น้ำหยดอยู่บนนั้น แล้วก็มีฝ้าอยู่บนใบบัว มีดอกบัว มีทั้งเหี่ยว ทั้ง คือเห็นแล้ว โอ้โห ดูแต่ละอันๆ เป็นยอดศิลปินแห่งประเทศไทยมาทำ จักรพันธุ์ โปษยกฤต อะไรอย่างนี้ นี่ใครที่ไหนก็ไม่ทราบ ชื่อเสียงยังไงก็ยังไม่มี แต่ฝีมือนั้นยอด สุดยอด ก็มาเชิญชวนนะครับ มีงานวันที่ 10, 11, 12 ลานพระราชวังดุสิต รอบพระบรมรูปทรงม้านั่นล่ะครับ พอเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เข้าไปข้างใน เดินหน่อยนะครับ เข้าไปข้างใน พระราชทานให้เข้าไปชมข้างใน มาเถอะครับ มาดูซะว่าเป็นยังไง คือความยอดเยี่ยมนั้น ผมเองเนี่ยบอกได้ ตั้งแต่เป็นนายกรัฐมนตรีก็บอกว่า งานศิลป์แผ่นดินรอบใหม่เนี่ย บอกจะมีการแสดงทั้งปี จะไปๆๆ สุดท้ายก็ได้ไปครับ ไปเมื่อวานซืนนี้เองครับ ก็เก็บเอามาเล่า ไปวันศุกร์นะ มาเล่าวันอาทิตย์ ให้รู้ว่าอะไรเป็นอะไรยังไง

ทีนี้ถัดไปก็ เอาล่ะ หมดงานหมดการก็จะดูซิว่าจะต้องคุยอะไรกับท่านทั้งหลายวันนี้ แหม หนังสือเล่มนี้วางไม่ค่อยถนัด ถึงว่าคุยไม่ค่อยถนัด เอาล่ะครับ ต่อไปก็ เขามีคนเขียนหนังสือ นี่ๆ มาสด เขาจดไว้ให้นะ ส่งมาเป็นแผ่น คำถาม เดี๋ยวจะตอบอย่างนั้นไป นี่แผ่นนี้มาอย่างนี้ครับ

คุณสุกิจ จาก กทม.ทำไมนายกรัฐมนตรีชอบแขวะไทยพีบีเอส อ่า ต้องตอบคำถาม ผมตอบให้ฟังได้เลย
- ทำไมจะไม่ชอบแขวะล่ะครับ 3 วันที่ผ่านมาเนี่ย เขาก็ไปให้ปากคำ คืออะไร เขากำลังพิจารณางบประมาณกัน คนที่เขาเป็นพวกพีบีเอส เขาอยู่ในสภานั่นน่ะ ข้าราชการไปล่ะ โอ้โห โดนล่อซะ โดนสับ โดนโขกซะไม่มีอ่ะ กรมประชาสัมพันธ์เนี่ยนะครับ ทำงานกรมประชาสัมพันธ์เนี่ย มีสถานีโทรทัศน์ทั่วประเทศ มีสถานีวิทยุ มีงานมีการ มีกรม มีทำงาน มีข้าราชการ 3 พันคน มีเงินเดือน 600 ล้าน นั่นนะครับ ทั้งหมดเนี่ย องคาพยพกรมประชาสัมพันธ์เนี่ย บริการทั่วประเทศ มีสถานีโทรทัศน์ 8 แห่งอยู่ต่างจังหวัด มีสถานีวิทยุ 2 แห่งอยู่ในกรุงเทพฯ อะไรต่างๆ ทั้งหมดเนี่ย ได้งบประมาณ 1,500 ล้านครับ ข้าราชการ 3 พันคน ไอ้พีบีเอส สถานีเดียวเนี่ย งบประมาณ 2 พันล้าน เอ้า ว่าไง ว่ายังไง พีบีเอสนี่ล่ะครับ ออกข่าวบางครั้งก็กระทบกระแทกแดกดันรัฐบาล สาธารณะ แต่ชอบกระแทกแดกดันรัฐบาล รัฐบาลต้องจ่ายให้ปีละ 2 พันล้าน แต่กรมประชาสัมพันธ์เนี่ยทำงานทั้งบ้านทั้งเมือง กรมประชาสัมพันธ์ทำงาน 3 พันเนี่ย คนทั้งประเทศรู้จัก งบประมาณ 1,500 ล้าน ข้าราชการ 3 พันคน อย่างนี้ไงครับ เนี่ยคือตอบคำถามว่าทำไมถึงชอบกระแหนะกระแหน ต้องกระแหนะกระแหนครับ ก็มันอยู่ดีๆ สถานีดีๆ ไปยึดเอามาจัดทำให้จอมืดแล้วออกมา ออกกฎหมายมานั่นน่ะ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ขอ 2 พันล้าน เพราะเป็นสาธารณะ รัฐบาลต้องให้ มีกำหนดกฎเกณฑ์เสร็จ ขนาดแต่ก่อน 5 คนตั้งชั่วคราว เดี๋ยวนี้ตั้งหามาแล้ว 9 คน ต้องเซ็น ไม่เซ็นวันนั้นบอกผิดรัฐธรรมนูญ ต้องเซ็น แล้วไง ต้องให้ 2 พันล้าน แล้วเป็นไง ก็ทำได้แค่กระแนะกระแหน เท่านั้นล่ะครับ

ทีนี้ก็นี่เขาเขียนมาให้นี่นะ ดูนะ อ่อ เอกสารเขาไม่ส่งมาให้วันนี้ ตั้งกรรมการ คือว่า บอกหน่อยว่าโปรดเกล้าฯ ลงมาแล้วว่ายังไง
- ก็ไม่ว่ายังไง ก็มีคณะอีก 5 คนครับ มีผู้เชี่ยวชาญ มี ดร.โกร่ง ที่เขาว่ากันนี่ล่ะครับ เป็นประธาน มี ณรงค์ชัย อัครเศรณี มี 5 คน ออกประกาศไปแล้วครับ จะเป็นคนที่มาเป็นที่ปรึกษาคณะรัฐมนตรีในการที่จะดูแลเรื่องเศรษฐกิจ คือ ก็พวกนี้เขาเก่ง แต่มาเป็นรัฐมนตรีไม่ได้ คือ มาแล้วก็รายได้ที่เขามีอยู่หายหด เขาไม่ต้องการที่จะต้องการมา ไม่ต้องการมา ต้องแสดงทรัพย์สิน ต้องอะไร เขามีความคิดความอ่าน ก็บอกแล้วไงฮะ คนเป็นรัฐบาลเวลานี้ต้องเสียทุกอย่าง ขาเข้าไปอยู่ในตะรางข้าง เขาบอกเขาไม่ต้องการอยู่ เพราะงั้นเขามาช่วยงาน อ่ะ นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งคนเก่งมา 5 คนครับ จะมาช่วยกันนี่ล่ะครับ จะมาช่วยกันดูเรื่องเศรษฐกิจ เดี๋ยวเขาคงประกาศ บ่ายๆ เขาคงประกาศชื่อ 5 ท่านฮะ ผมก็ไม่ต้องประกาศเอง ผมเซ็นไปเองไม่ต้องประกาศเองหรอก ก็ 5 ท่าน มีเนี่ย ดร.โกร่ง เขาเป็นประธาน แล้วก็มีเนี่ย ที่ผมจำชื่ออันหนึ่ง ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี ทั้งหมดนี่ 5 ท่าน เป็นกรรมการ ก็จะมาช่วยงาน นะครับ หลังจากที่โปรดเกล้าฯ มาเรียบร้อยแล้วนะ

ทีนี้ถัดไปเขาโน้ตมาให้นี่นะ วันที่ 8 สิงหาฯ มีข่าวบอกจะไปปล่อยสัตว์ที่เพาะเลี้ยงใหม่เข้าป่า เห็นว่าจะไม่อยู่ ไปโอลิมปิก หรือจะออกข่าวไปห้วยขาแข้งได้ยังไง
- ก็ต้องขอประทานโทษครับ คนที่ออกข่าวเขาไม่ได้นัดหมาย ผมก็ฟังข่าว ได้ฟังข่าวจากวิทยุบอกว่าจะไปปล่อยสัตว์ ถ้าอยู่ก็ต้องไปฮะ ไม่อยู่ก็ต้องรองนายกฯ คนอื่นไปปล่อยแทน ไม่เป็นไรล่ะ เขาเพาะเลี้ยงไอ้ตัวที่มันไม่มี มันหายไป 30 ปี เขาเอาพันธุ์มาเพาะเลี้ยงได้ แล้วเขาเอามาเลี้ยงดู ดูแล้วฝึกให้มันเข้มแข็ง แล้วปล่อยเข้าไป เข้าไปจะไปถูกเสือกินรึเปล่าไม่ทราบได้นะ ละมั่ง ละอง เนี่ย แต่เขาบอกว่า เขาคงกันเสือไว้ต่างหาก ให้มันอยู่ได้ ผมนี่ไม่ชอบเรื่องพรรค์นี้อันนึงตรงที่เขาบอกว่ามันเป็นห่วงโซ่อาหาร ไอ้นั่นกินไอ้นี่ ไอ้นี่กินไอ้นั่น เมื่อคืนดูทีวี โอ๊ย ไอ้ตัวหอยมันมีมาก เพราะไอ้ตัวนี้มากินนก มากินหนู ไอ้หนูก็งูมากินหนู โอ๊ย ฟังแล้วไม่ชอบเรื่องพรรค์อย่างนี้ ห่วงโซ่อาหาร แล้วจะปล่อยเข้าไป 70 กว่าตัว จะปล่อย ได้ข่าวนะ ก็ขอตอบอย่างนี้

นี่ๆๆๆ ว่าไง อ่อ มีความเห็นยังไงที่มีคนเขียนบทความแสดงความเห็น เอกสารมีความสำคัญกับถูกระงับไม่ให้ไปใช้ แต่ว่ารัฐมนตรีช่วยต่างประเทศเมื่อ 8 ปีก่อน ไปเซ็นรับรองเอกสารที่เคยมีปัญหาเสียดินแดนมาแล้ว ไม่เห็นมีใครว่ากระไร แถมตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจ
- อ๋อ (หัวเราะ) ว่าไม่ได้หรอกครับ ถือถ้าเป็นรัฐบาลล่ะก็ เขาต้องสับต้องโขกครับ แต่กำลังนี้ก็ คือสิ่งที่นพดล ปัทมะ ไปตกลงกันไว้ที่ปารีส ว่าจะเอาไปขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวพระวิหาร นั่นล่ะไปเซ็นกับเขามา ก็เฉพาะตัวพระวิหาร เอกสารชิ้นนี้เพิ่งจะมีคนเห็นว่าเป็นเอกสารดี มีความสำคัญ ยืนยัน เขมรก็มาตกลงแล้วว่าจะเอาเฉพาะนี่ไปขึ้น แต่ด่าทอว่ากล่าวกันซะจนกระทั่งเกิดเหตุจะต้องล่อกันอยู่นี่ แล้วไง แล้วเสร็จแล้วก็ปรากฏว่า ปรากฏว่าเมื่อ 2543 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ซึ่งเป็นสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ไปลงนามโดยใช้เอกสารไอ้ที่เคยมีปัญหามาแล้วเมื่อ 45 ปีที่แล้ว จะมีการปรับปรุงเขตแดนชายแดน ใช้เอกสารที่มีปัญหาแล้ว โอ่ย อย่างนั้นไม่เป็นไร อย่างนพดลนี่ไปจัดการไปเซ็น ไปตกลงว่าเอาเฉพาะพระวิหารไปขึ้น เอาพระวิหารไปขึ้น ล่อกันซะจนกระทั่งเกิดเหตุ จนกระทั่งจะต้องกรีฑาทัพมารบกันเข้าล่ะ เดี๋ยวนี้มันเงียบกันไปหมดเลย พอตึงเครียดกันอย่างนี้เข้าล่ะเงียบกันไปหมดเลย ถามผมว่า แล้วมีความเห็นยังไงอย่างนี้ ไทยรัฐก็เขียน เดลินิวส์ก็เขียน ไม่มีใครรับลูกเลย หดหัวกันหมด ไม่หรอกครับ ก็ปล่อยไปตามธรรมชาติ ผมก็ขอประทานโทษนะ ขอประทานโทษจริงๆ ที่จะต้องใช้คำพังเพยเฉพาะตัวครับ คือแต่ก่อนนี้เขาบอกว่า ทำดีเป็นศรีแก่ตัว ทำชั่วต้องอัปราชัย อะไรต้องว่ากันไปอย่างนั้น แต่ว่าคติพจน์ของผมเวลานี้ อย่างนี้นะ อย่างนพดลเนี่ย ที่นพดลทำเนี่ย เขาเรียกว่า “ทำดีอัปรีย์กินหัว” ถ้าคนทำชั่ว อย่างไปเซ็นไว้อย่างนั้นล่ะก็ มีคนช่วยปกป้องให้ คือ ไม่มีใครพูดถึงเลย เท่านั้นเองนะ เอาเท่านั้นก็แล้วกัน เดี๋ยวนี้เมืองไทยมันเป็นอย่างนี้ล่ะ

ถัดไปก็คือว่า ปาฐกถาวันภาษาไทยแห่งชาติ คนอื่นพูดก็มีออกอากาศ แต่นายกรัฐมนตรีไปพูดวันภาษาไทย ภาษาไทยของเราที่โรงเรียนหอวัง เห็นแต่ข่าว ไม่เห็นมีรายงานข่าว ไม่รู้ไปพูดอะไร หรือพูดอะไรไม่เข้าท่า
- (หัวเราะ) ไม่หรอกครับ พูดเข้าท่าครับ แต่ว่าไม่มีการโฆษณา เพราะว่ามันกลัวจะว่าเป็นการโฆษณาว่านายกฯ พูดเข้าท่าเกินไป แหม พูดเกือบ 2 ชั่วโมงแน่ะครับ บางคนพูดคืบเดียวก็ออกอากาศครับ แต่พูด 2 ชั่วโมงไม่ออกครับ ไม่มีปัญหาหรอกครับ ใครอยากฟังก็ไปขอที่กระทรวงศึกษาฯ กระทรวงศึกษาฯ เขาเป็นเจ้าภาพ คุณหญิงกษมา วรวรรณ ท่านเป็นคนชวนไป โอ๊ย ไปดูแล้วประทับใจ ผมไม่เล่าที่ผมพูดหรอกครับ แต่ประทับใจตรงที่ว่า เขาหลายโรงเรียนไปรวมกันที่หอวังนะ ไปถึง ไปช้าไป 20 นาที เพราะว่าทางกระทรวงวัฒนธรรมเขาเชิญไปให้ไปพูด บอก ไม่ได้ คุณดำรง พุฒตาล พูด ผมพูด ให้คุณดำรง พุฒตาล พูด ผมจะไปแจกรางวัลให้ ผมก็ไปแจกรางวัล อ่าว เขามีการแสดงอะไรๆ ดักหน้าอยู่ เลยต้องโทรศัพท์บอกหอวัง บอกรอ 20 นาที เพราะว่าออกช้าไปหน่อย หอวังก็เรียบร้อย ไอ้สะพานตรงนั้นทำเรียบร้อย ไปหอวัง โอ๊ย ลงไป นักเรียนเข้าแถว บอกนักเรียนไม่ต้องเข้าแถวล่ะ นักเรียนแต่งไทย ติดดอกไม้ โอ้โห อ่านยานี 11 ต้อนรับนายกรัฐมนตรี ถือดอกไม้ให้ ปากก็พูดไป ผมฟังก็บอก โอ๊ย น่าประทับใจ ปากเขาก็พูดจา เอาดอกไม้ให้ รับนายกรัฐมนตรี รับด้วยกาพย์ยานี 11 ครับ ขึ้นไปไอ้หนู 2 คน ก็พูดจา โอ๊ย ไปนั่งเสร็จเรียบร้อย คนหนึ่งมาจากโรงเรียนสวนกุหลาบ คนหนึ่ง ผู้หญิง ผู้ชาย โอ้โห เหมือนกับขับเสภา แต่เป็นลำนำนะครับ เอ่ยถึงนายกรัฐมนตรี พูดจา โอ๊ย ฟังแล้วบอก โอ่ย คนจัดน่ะเขาให้เด็กเป็นคนจัด แต่ว่าเด็กที่นั่นเขาพูดจากันนึกถึงสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ที่เวลาที่ สมัยก่อนเขาโต้ตอบกันโคลงสุภาพนะ โต้ตอบเลย พวกจากในวังเห็นศรีปราชญ์ ก็บอกว่า แหวนนี้ท่านได้แต่ใดมา ศรีปราชญ์ก็บอกว่า จอมพิภพโลกาท่านให้ บรรทัดสอง บรรทัดสามก็บอก ทำชอบสิ่งใดมา วานบอก ศรีปราชญ์ก็บอกว่า เราแต่งโคลงถวาย ไท้ท่านให้รางวัล สมัยลพบุรีนะ เขาพูดกันแบบนี้ อย่างนั้นเลย แล้วทำไง เขาบอกว่า ศรีเอย พระเจ้าหื้อปางใด (หื้อ แปลว่าให้) ถามอีก ศรีเอย พระเจ้าหื้อปางใด ศรีปราชญ์ก็ตอบ หื้อเมื่อพระเสด็จไปป่าแก้ว รังสีบ่สดใสสักหยาด ศรีปราชญ์ก็ตอบว่า ดำแต่นอกในแผ้วผ่องเนื้อนพคุณ ศรีปราชญ์ไปตอบโต้กับพวกนางพระกำนัลยังอีกนะ อะไรล่ะ หายกระต่ายเต้นชมจันทร์ นางกำนัลก็บอกว่า มันบ่เจียมตัวมันต่ำต้อย ก็ว่ากันไปสมัยก่อนนี้นะ เป็นโคลงสี่นะ หลังจากนั้นก็ เด็กเขาพูดจาประทับใจ ผมก็เลยปาฐกถา ก็ประทับใจล่ะครับ ยาวเกือบ 2 ชั่วโมง เขาต้องส่งสัญญาณบอก รายการอื่นรออยู่แล้ว ก็ต้องจบตรงนั้น อย่างนี้ไม่เป็นข่าวหรอกครับ เป็นข่าวไม่ได้ เดี๋ยวสมัครยิ่งดังเข้าไปกันใหญ่ นายสมัครนี่ดังไม่ได้ (หัวเราะ)

ฟังวิทยุรายการลับลวงพราง นักข่าวหญิงสายข่าวทหาร คุยกับนักจัดรายการพูดจาทำนองยกย่องว่า ทางผู้นำเขมรเขามาทำพิธี ทางเขมรดูแล ผู้บังคับบัญชาเขาดูแลดี เอาของเขิงมาให้ทหารทางโน้น แต่ทางเราผู้บังคับบัญชาไม่เอาใจใส่ เหมือนไม่รับผิดชอบ ปล่อยให้ทหารอยู่กันอย่างทนทุกข์ทรมาน แถมยังเอาทหารมาสัมภาษณ์ทางวิทยุด้วย
- อ่อ ผมก็นึกว่าผมฟังคนเดียวนะครับเนี่ย มีคนฟังเขียนมาถาม ผมก็ไม่ว่าอะไรยังไงหรอกครับ แต่ว่าผมได้ทำหน้าที่ของผม ก่อนที่เธอทั้งหลายจะมาคุยอะไรต่างๆ ผมก็ทำ ผมก็นึกถึงครับ ผมนึกถึง ผมก็รู้ข่าวเขามาทำอย่างนั้น ผมก็ทำของผม เพียงแต่ว่าเงียบๆ ผมไปซื้อของเองนะ ซื้อของส่งให้ทหาร ก่อนอื่นเนี่ย ผมถามว่าเขาอยู่กินกันเรียบร้อยดีหรือไม่ ผู้บัญชาการทหารบกบอกเรียบร้อยดี มีอาหารไป ชุดไหนไปเขาก็มีใส่สูตกรรมไปทำกับข้าว ยังคุยเลยบอกวันพรุ่งนี้จะมีข้าวมัน มีส้มตำ มีลาบ มีอะไรต่างๆ ก็บอกเป็นพิเศษ จะทำให้ ก็อยู่สุขสบาย ผมบอก อ๋อ สงสัยว่าเราก็จะต้องส่งอะไรเป็นพิเศษมั้ง ข้างบนเขามีการเอาของมาแจก เขาขึ้นมา โหยรายงานบอกว่าเป็นพัน บางวันวิทยุเขาบอกเป็นหมื่น เขารายงานนะ 450 คัน รถ 450 คัน จอดข้างล่างเขามาให้ของ โหย ชื่นชมกันใหญ่ ผมก็บอกว่า แล้วยังไง ผมก็ไปทำของผม ผมก็คิดของผมง่ายๆ ผมคิดว่า ผมจะเอาอะไรไปให้เขา ผมไปโฆษณาสินค้าเขาที่โน่น ที่อะไรล่ะ ที่โคราชน่ะ ที่เขาทำกัน ไอ้ข้าวตังหมูหยอง แล้วก็หมูแผ่น เขามีแหนม ผมก็บอกว่า เออ พรรค์อย่างนั้นเอาสักพันนึง เอาอย่างละพันซอง ช่วยส่งไปให้ที แล้วผมก็ไปตลาดของผมเอง ไปตลาดไทนะ ซื้อลำไย โห ลำไยออกใหม่นะ ลูกสะอาดเลยครับ ไม่รู้ว่าห่อหรือเปล่า อีดอ เบ้อเริ่มเลย ซื้อลำไยไป 2 พันกิโลฯ ทหารพันนึง ให้คนละครึ่งกิโลฯ คือเขามัดไว้มัดละกิโลฯ บอกคนละครึ่งกิโลฯ ให้ใส่ถุง ไปดูทหารต้องกินอย่างอื่น ถามเขา เขาบอกว่า มีมังคุด เงาะอะไรส่งไป บอก เออซื้อแอปเปิลให้ทหารกินหน่อย ใครจะว่าก็ว่าเถอะวะ น่ากิน เราก็ลืมไปเลย คือเขามาให้ลูกดีก็ตามไปซื้อ เอายี่ห้ออย่างนี้ๆ ซื้อแอปเปิลไปพันลูก ก็เอาแอปเปิลใส่ถุง ลำไยครึ่งกิโลฯ เอาไอ้นั่นใส่ซองต่างๆ ไป มีแหนม มีอะไรต่างๆ อ่อ ขนมขบเคี้ยว ขนมบ้านอัยการ ซื้อปั้นสิบทอด ของกรอบๆ ใส่ 2 อย่าง ใส่ไป ทั้งหมดมี 7 อย่างใส่ถุง ผมก็ทำของผมครับ ไม่มีใครรู้ด้วย ไม่มีใครบอก นี่ถามมาผมก็เลยเอามาอวดซะหน่อย ผมทำของผม ไปซื้อเองด้วยนะครับ สั่งเอง ทำเอง ติดต่อเขาเองเลยว่าใส่ถุงยังไง ทำยังไงๆ ช่วยเอาไปส่งให้ที ก็ไม่โฆษณาครับ แต่ว่าทางโน้นเขาโฆษณาว่าไงฮะ คนต่างชาติเขามาจัดงาน ยังมีคนในชาติเรามาเที่ยวพูดจากระทบกระแทกแดกดันผู้บังคับบัญชาทหารทางนี้ คือเหมือนกับทางโน้นก็ยกย่องไอ้ทางโน้นเขาล่ะครับแล้วก็เหยียบย่ำทางนี้ เป็นทำนองว่าทหารไทยไปนอนกลางดินกินกลางทราย ผู้บังคับบัญชาไม่ดูแล ดูแลครับ เขาดูแลก่อนผม ผมถามว่าเขาอยู่กันยังไง เขาบอกอยู่กันเรียบร้อยดี แล้วเขาก็แบ่งปันกันกิน ไอ้ข้างบนนั่นน่ะนะ กับข้งกับข้าวดี ผมถามเรียบร้อย ผู้บัญชาการทหารบกเป็นคนยืนยันเอง ผมก็ทำของผมก็เท่านั้นเอง แต่ว่าเขาบอกว่า โหย ภรรยานายกรัฐมนตรีฮุน เซน ขึ้นไปข้างบน ผมว่าภรรยานายกฯ สมัคร คุณหญิง ไม่ทำอย่างนั้นล่ะ ไม่เอิกเกริกอย่างนั้นล่ะ ถ้าผมจะส่งคุณหญิงสุรัตน์ ขึ้นไป เอาของไป ไม่ๆๆ ผมห้ามไว้ ไม่ให้ ให้ทหารเขาไปให้กันเอง ถึงมือแน่นอนไม่เป็นปัญหา มันไม่ใช่ทำบุญเอาหน้าภาวนากันตาย ผมไม่ชอบแบบนั้น

มีคำถาม เวลายกป้ายหมด จวนจะหมดเวลาอีกแล้ว เอ้าดูซิ หนังสือที่นายกฯ โชว์วันก่อนไม่ทราบจะหาซื้อได้ที่ไหน
- เขาพิมพ์จำนวนไม่มากหรอกครับ ผมก็แหม มือไม่ดี ปากไม่ดี ได้ไปเจอของดีก็เอามาอวด มีหนังสือดีอยู่เล่มนึงอยากจะแนะนำให้อ่าน แต่เดี๋ยวจะว่าไป เอาไว้วันหลังๆๆ จะแนะนำหนังสือดีให้อ่าน ต้องขอประทานโทษเขาคงไม่พิมพ์มาให้ใหม่ล่ะครับ เขาพิมพ์เนื่องในวาระ 200 ปี ในกรมหลวงวงศาธิราชสนิท เพราะฉะนั้นก็ คือถ้าเขาคิดจะพิมพ์ขายก็คง มันเป็นกึ่งวิชาการ ผมก็ไปชื่นชม เดี๋ยวอ่านเดี๋ยวก็มาว่าผมเข้า คือใครคงชอบภาษาไทยก็ต้องอ่าน ถ้าชอบอย่างนั้นนะ เอาเถอะครับ เขาอยู่ที่กรมศิลป์ ผมให้เบอร์ไว้แล้วนี่ฮะ

ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ยังลดราคาลงอีกหรือเปล่า น้ำมันลดลง
- ผมไม่ได้ทำลด ฝรั่งเขาลดครับ ผมไม่ลดล่ะ แต่ว่าที่ลดน่ะทางคุณหมอเขาทำโครงการ บังเอิญเราก็ลด ฝรั่งก็ลด ก็เลยได้ลดกันใหญ่ ก็ยินดีด้วยล่ะครับ ก็เบาบางลง

ขณะนี้ประเทศไทยวุ่นวายเพราะพันธมิตรฯ ขอให้คนไทยพยายามนำความจริงมาพูดกัน เอาใจช่วยประเทศไทยให้พบความสุขอีกครั้งหนึ่ง
- ผมได้พูดไว้เริ่มต้นแล้วครับ ว่า มีการปลุกระดมกันโดยใช้โทรทัศน์ ASTV ปลุกระดมให้คนไทยแบ่งค่ายกันอีกแล้ว ฟังไปๆๆ ผมก็ฟังด้วยครับแต่ว่าปลุกระดมผมไม่ได้ คนอื่นปลุกได้ ปลุกคนอย่างผมไม่ได้ ผมฟังครับ ด่าทอหยาบคายว่ากล่าว อู๊ย.. ก็เมื่อวานก็ไปเขาโฆษณาไว้แล้วข้างๆ รัฐบาลเถื่อนออกไป นี่เหรอครับรัฐบาลเถื่อน เขาเขียนว่ารัฐบาลเถื่อน ขีดเส้นด้วยนะ 7 วัน 7 วันต้องออกไป จะเป่านกหวีด จะระดมกัน เป่านกหวีดน่ะแปลว่าอะไร เป่านกหวีดแปลว่ายึดศาลากลาง ทำอะไรไม่ได้ บ้านเมืองเป็นอย่างนั้น แล้วทหารจะออกมาปฏิวัติ ก็ลองดูสิครับว่าเขาจะทำยังไง ผมไม่ได้ท้าทายอะไรใครหรอกครับ แต่ว่างานการต่างๆ ที่รัฐบาลทำ ทหารได้ทำ ทุกฝ่ายได้ทำนั้น เราทำให้บ้านเมืองมีความสงบสุข ใครจะเป็นคนปลุกระดมท่านก็พิจารณาหากระจกส่องดูตัวเองใครมันเป็นคนปลุกระดม ไม่ปลุกล่ะครับ ขนาดคนจะปลุกวันที่ 2 ผมยังสั่งขอร้องออก ห้ามเลย บอกอย่าๆ กรุณาอย่า ก็เงียบไป คือให้เอาไปข้างเดียวไม่มีปัญหา

ทำไมรถเมล์สายร่มเกล้าไม่มีรถบริการฟรี ทั้งๆ ที่มีโรงเรียนเยอะมาก
- เดี๋ยวๆ ต้องจัด เดี๋ยวจัดการให้ สายร่มเกล้านะ ร่มเกล้าชายแดนรึเปล่า ไม่ใช่นะ ร่มเกล้าในกรุงเทพฯ (ขำๆ) รถเมล์สายร่มเกล้า เดี๋ยวจะตามให้ ต้องมีแน่ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องมีแน่อันนี้นะ

การให้บริการรถเมล์ฟรีไม่เห็นด้วย
- อ้าว

ขอให้เน้นปัญหาความยากจนให้มากกว่านี้
- ยังไงล่ะครับ

ขอให้ดูแลประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ด้วย
- โอย ก็ทำดูทุกอย่างล่ะครับ ที่ภาคใต้ ก็ทำไว้ ทั้งหมด 4-5 หมื่นล้าน ที่ทำใส่ลงไปเนี่ยนะครับ แต่กระจัดกระจาย แก้ไขบนทางอื่นครับ ทางใต้รุนแรงนะครับที่แล้วนั่นก็ล่อกันไป เคราะห์ดีก็บาดเจ็บไม่มากเท่าไร แต่ว่าเห็นได้ชัดล่ะครับถ้าอะไรจะดีเขาต้องทำให้มันเสีย อย่างเนี้ย หาดใหญ่ผู้คนหลั่งไหลเข้ามา เอาเลยครับ สะดุดอีกแล้ว ก็ดูเถอะครับ ตกลงว่าใครมันดีใครมันเลวยังไงก็ลองดูก็แล้วกันนะครับ

เอ๊ บริการรถเมล์ฟรีไม่เห็นด้วย
- ทำไมล่ะครับ ผมดีใจตรงที่ว่า อัตราส่วนไม่เปลี่ยนแปลง คือไม่ได้แย่งยื้อกันขึ้นฟรี คนขึ้นฟรีก็ขึ้นฟรี คนไม่ขึ้นฟรีเขาก็ไม่ขึ้นฟรี อันนี้สภาพนี้ดีมากครับ ที่ยังตะขิดตะขวงใจอยู่หน่อยตรงรถไฟเนี่ย รถไฟขึ้นฟรี ชั้น 3 ที่ท่านบอกว่าไม่ติดแอร์ ทีนี้รถไฟที่มันเป็นรถเร็ว เขาจะมีรถชั้น 3 ที่จริงถ้ารถชั้น 3 ไม่ติดแอร์ ควรจะเก็บค่าธรรมเนียม เช่น ค่าธรรมเนียม 10 บาท ก็เก็บค่าธรรมเนียมรถเร็ว 10 บาท แต่ถ้ารถให้เขาฟรีก็ควรจะให้เขาฟรี จะ 1 ตู้ 2 ตู้ 3 ตู้ ก็ควรจะ แต่เดี๋ยวจะไปรุกล้ำการกำหนด เขาคำนวณไว้แล้วนะ คือว่าหนึ่ง ถ้าคนไม่ไปนั่งรถเที่ยวก็โอเค คนที่นั่งรถก็ได้ประโยชน์ ก็เฉลี่ยลงไปครับ คนจนล่ะครับจะได้ประโยชน์จากการนี้นะครับ

ให้วันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาฯ ปีนี้ จัดการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่
- อ๋อ ก็ทำกัน ก็ทำกันยาวล่ะครับ เฉลิมฉลอง แต่ว่าอ้างเหตุขอบารมีเจ้านายมา จะดับชนวนล่ะครับ จะดับชนวน มันแบ่งซีกกันอย่างนั้น ผมก็พยายามไม่ให้แบ่งซีก นี่จะใช้ 116 วัน จากวันแม่ถึงวันพ่อนี่ล่ะครับ

คนไทยในสหรัฐฯ และแคนาดา แบ่งเป็นสองพวกด้วยครับ
- อ่อ มีฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายต่อต้านรัฐบาล เห็นมั้ย ก็รัฐบาลอย่างนี้ยังต่อต้านแล้วจะทำยังไงครับ รัฐบาลนี้มันทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวงยังไงรึยัง มันคดโกงอะไรยังไงรึยัง แหม ผมล่ะ โอย ขอบคุณที่ส่งข่าวมานะเนี่ย

สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนที่ 3 เรื่องสิทธิหน้าที่ให้เท่าเทียมกัน มีแต่คนเรียกร้องสิทธิแต่ขาดหน้าที่
- ครับๆๆๆ โอเคครับ ตกลงครับ เขากลัวจะแก้มาตรา 63 ครับ จะยึดหน้ากระทรวงศึกษาฯ ไว้ไม่ได้ ก็ต้องแก้มาตรา 63 ล่ะ พัวะเลย แหม

การผันน้ำแม่น้ำโขงมาให้ภาคอีสานจะเริ่มเมื่อไร
- กำลังดำเนินการครับ กำลังดำเนินการ ต้องใช้เวลานะ ไม่ใช่กดสวิตช์ได้นะ กดสวิตช์ได้น่ะเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ กดสวิตช์กันทุกเย็นๆ 6 โมงเย็นล่ะกดสวิตช์เลย เดินเครื่องเลยครับ เดินเครื่องก็แปลว่าปล่อยน้ำทำไฟ นั่นล่ะ ทำเสร็จแล้วอย่างนั้นได้นะ

ข้าราชการบำนาญจะได้รับค่าครองชีพเหมือนข้าราชการประจำหรือไม่
- เดี๋ยวจะไปดูให้นะครับ อันนี้แยกไว้ต่างหาก เดี๋ยวตอนนี้ตอบทันทีไม่ได้ เดี๋ยวต้องถามเขาหน่อย

ขอพระสยามเทวาธิราชคุ้มครองพรรคพลังประชาชน ขอให้อยู่ดีมีสุข
- ครับๆๆๆ เอาล่ะครับขอบพระคุณครับ

อยากให้ช่วยคนพิการด้วย เรียนจบปริญญาตรีแล้วยังไม่มีงานทำ
- อ๋อ อยากรับราชการ ครับ เขาก็บอกว่ามีรัฐธรรมนูญเขารับรองไว้นะครับต้องได้รับราชการ แต่ว่าไอ้คนที่มันไม่พิการก็ไม่รับราชการก็มีนะครับ มันตามสภาพทางเศรษฐกิจนะ

นโยบาย 6 ข้อ นำเงินมาจากไหน มีโครงสร้างยังไง อธิบายด้วย
- ปัดโธ่ ก็วันนั้นออกอากาศถ่ายทอดสด ไปอยู่ที่ไหนล่ะครับน่ะ คือบอกครับ เงินมันจะหายไปประมาณสัก 4 หมื่น ถ้าหายไป 4 หมื่น แต่ว่าเก็บภาษีได้จากไอ้การที่น้ำมันขึ้นมาสัก 9 พันกว่า ก็หมายความว่า อะไรที่ได้มามาก ก็แทนที่จะเอาไปทำตั๋วคูปองแจก ก็เอาไปให้คนนี้ คนนี้ไม่ต้องเสีย คือเป็นวิธีที่คนจนนี่ล่ะครับจะได้อนุเคราะห์ ใช้น้ำล่ะครับ ใช้น้ำไม่เกิน 50 คิว ก็ไม่ต้องจ่ายเงิน มีมั้ย ใช้ไฟไม่เกิน 80 ไม่ต้องจ่ายเงิน ถ้าถึง 150 จ่ายครึ่งเดียว อย่างนี้ดีมั้ยฮะ นี่ล่ะครับเป็นการช่วยที่ถูกหลักเกณฑ์ ครับๆๆ

มาตรการ 6 เดือน ยังไม่ถึงคนพิการ
- อ่อ คนพิการ เอาล่ะ โอย เดี๋ยวๆ ผมจะดูซิคนพิการยังไง คนพิการขึ้นรถเมล์ไม่ถนัด หรือว่ายังไง หรือว่าขึ้นรถไฟไม่ได้ หรือว่าที่บ้าน คนพิการใช้น้ำเกิน 50 คิว ใช้ไฟน้อยก็ช่วยคนพิการนะ ใช้น้ำน้อยก็ช่วยคนพิการนะครับ

เงินช่วยเหลือคนพิการเดือนละ 500 บาท ให้เพิ่มเป็น 1,000
- ต้องไปถาม เดี๋ยวไปดูให้ครับ

ค่ารักษาพยาบาล 30 บาททุกโรค ถ้าหมอสั่งยานอก
- 30 บาทก็ไม่เอาแล้ว เขาไม่เก็บแล้วเดี๋ยวนี้

ถ้าหมอสั่งยานอกบัญชียาหลัก ไม่สามารถทำได้
- เรื่องนี้ก็จะพยายามขยับต่อไปครับ บัญชียาหลักต้องเป็นยาดีครับ ถ้าเป็นยาหลักตกลงแล้วนะ เหมือนยาเถื่อนไม่ได้แน่นอนครับ

ประชาชนต่างจังหวัดได้รับบริการ 6 เดือนยังไง ค่าน้ำ ค่าไฟ
- ด้วยครับๆ ทั่วประเทศครับ ไม่ใช่เฉพาะ ทั่วประเทศครับ

สนับสนุนแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ขอให้เป็นไปด้วยความโปร่งใส
- อ้าวทำไมล่ะครับ ไปแก้ใน

ประชาชนลำบาก สามารถตรวจสอบ
- ปุดโธ่ ก็ผู้แทนประชาชนน่ะเลือกมาอยู่ในสภา 480 คนน่ะครับ วุฒิฯ น่ะแต่งตั้งมา 74 เลือกไปอีก 76 นั่นล่ะครับผู้แทนประชาชน เขาเป็นคนจัดการแก้ครับ

รัฐธรรมนูญ สั่งให้แก้ยังไง
- ไม่มีลึกลับล่ะครับ จะไปแอบแก้ก็ไม่ได้ แต่จะบอกคนเขากลัวแก้ เขาไม่ได้กลัว 237 ไม่ได้กลัว 309 เขากลัว 63 ครับ แก้มาตรา 63 ปั๊บล่ะ หน้ากระทรวงศึกษาฯ น่ะตั้งทัพไม่ได้เลยเชียวครับ เขาเขียนเอาไว้ เขาพยายามกันมานานครับ นั่นน่ะ ไอ้พวกหน้าแหลมฟันดำ พวกอะไรทั้งหลายนั่น ทำกันจนสำเร็จล่ะครับ ทำกันจนกระทั่งเอามาตรา 63 มาใส่ได้ จนกระทั่งทำได้ แผนการที่จะทำลายล้างประเทศไทยมีอยู่ครับ ทำกันอยู่ครับ ไอ้ที่ทำกันอยู่ทุกวันนี้ล่ะครับ เอาสถาบันพระมหากษัตริย์ไปเหยียบย่ำคนอื่น คิดจะฆ่าคนอื่นให้ตาย แล้วก็เพื่อตัวเองจะจงรักภักดี ไอ้คนพวกนี้ล่ะครับที่จะต้องระมัดระวัง ไอ้คนพวกนี้ล่ะครับ แหม

เมื่อไรจะมีมาตรการขั้นเด็ดขาดกับพวกก่อความไม่สงบ สร้างความวุ่นวายให้บ้านเมือง
- มันก็บอก เขาบอกเขาโดยสงบครับ โดยสงบ โดยสันติ แต่ว่าปลายทางน่ะเขาจะยึดศาลากลางทั่วประเทศน่ะครับ ให้ทำงานไม่ได้ เขาจะให้ทหารออกมา บังเอิญทหารไม่ออกน่ะฮะ กำลังนี้มันทำอะไรไม่ได้ เพราะทหารไม่ออก ทำยังไงก็ไม่ออกครับ นะ

ตอนนี้ยาเสพติดเยอะมาก
- ปราบปรามครับ ปราบปรามแน่นอนไม่มีปัญหาครับ

โครงสร้างการศึกษาไม่ดี ทำให้พื้นฐานคนไทยไม่ดี ไม่มีจิตสำนึก เห็นแต่ได้
- โห (หัวเราะ) ว่าคนไทยด้วยกันนะฮะ ผมไม่กล้าว่าหรอกครับ แต่ก็เอาเถอะ จะทำให้โครงสร้างดีแล้วกันครับ

หมู่บ้านแผ่นดินทอง สมเด็จพระเทพฯ ให้รางวัล ที่มีนบุรี เป็นตัวอย่างอย่างดี น่าจะให้เป็นต้นแบบ
- ครับๆๆๆๆ

ขอให้รัฐบาลเสริมสร้างให้มีรถไฟฟ้า 4 ทิศ
- มีครับ มี 9 ทิศ รถต้องไม่ใช่ 4 ครับ มี 9 ทิศครับ

ให้บรรจุเรื่องพลังงานเป็นวาระแห่งชาติ
- แน่นอน ไม่เป็นปัญหาครับ

อยากให้พูดเรื่องทางใต้บ้าง เพราะโดนระเบิดทุกวัน
- อ๋อ พูดไปก็บอกว่า ไอ้สมัครพูด ถึงเกิดเรื่อง สมัครไม่พูดก็ยังเกิดเรื่องครับ เพราะงั้นที่ผมระมัดระวัง ไม่พูดไม่แสดง ไม่อะไรต่างๆ เพราะทุกอย่างมันกำลังจะค่อยยังชั่วขึ้น เขากำลังเข้าที่เข้าทาง ไม่ประกาศชัยชนะ ไม่เหยียบย่ำซ้ำเติม ต้องการให้อยู่กันตามปกติ บ้านเมืองของเรา เป็นเจ้าของด้วยกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระนางเจ้าฯ พระองค์เดียว สถาบันพระมหากษัตริย์สถาบันเดียวกัน อยู่ด้วยกัน ต้องการให้มันจบอย่างนี้ครับ ให้คนเถียงไม่ได้
เหมือนไอ้คนที่กำลังจะแว้กๆๆ อยู่กลางถนนนั่นล่ะครับ ของผมอยู่ในอาคาร อยู่ในที่ทำการ ไม่ไปอยู่ริมถนน ไม่โวยวายอย่างนั้น ก็จะดูซิว่าพวกนั้นจะทำยังไง ผมก็จะดูซิว่าบรรดาสื่อสารมวลชนทั้งหลายจะสนับสนุนไอ้ความไม่มีเหตุผล ความเอาแต่ได้ ความที่ทำให้บ้านเมืองยุ่งยาก จะสนับสนุนไปแค่ไหน
 ผมก็ไม่วิพากษ์วิจารณ์น่ะครับ วันนี้ไม่วิพากษ์วิจารณ์ คือขอความกรุณาว่า ทุกอย่างก็พยายามหลบ พยายามหลีก พยายามเลี่ยง พยายามอดทน เหมือนกับว่าโอ๊ย ทางนี้ก็แก้ไม่ได้ ทำอย่างนั้นไม่ได้ เขาต้องการให้เลือดตกยางออกครับ เขาต้องการให้อะไรฟาดหัวลงไป ก็ไปล่อกันเข้า ผมไม่ได้สั่ง ผมไม่ได้เกี่ยวข้อง เขาอดรนทนไม่ได้ไปล่อกันเอง ผมก็ยังเดือดร้อนอยู่จนทุกวันนี้ เอาไปยื่นโน่นเอาไปยื่นนี่ เอาไปยื่นองค์การสหประชาชาติแน่ะครับ คิดดูสิครับ เขาจะหัวเราะมั้ยครับว่าบ้านเมืองยังไงไม่ได้
 
ก็คนมันก็ยั่วกัน ลองคิดสิครับว่า ถ้าหากว่าไม่ไป ถ้าไม่ไปตั้งวงไปด่าทอกันอย่างนั้นจะมีใครออกมาตีใครมั้ยครับ ไม่มีครับ เรื่องนี้ลองพยายาม ลองนึกสิครับว่ามันต้องมีเหตุถึงทำให้เกิด เพราะงั้นเรื่องนี้ก็ขอความกรุณา วันนี้ก็พยายามหลีกเลี่ยง ไม่พูดอะไร เขายกป้ายหมดเวลาแล้ว ก็ขอความกรุณานะ
 
วันอาทิตย์หน้ายังได้มีเรื่องมาคุยกันตามปกติครับ วันนี้เวลาหมดนะครับ ขอขอบคุณทุกท่านที่ส่งคำถามมา ถึงแม้ว่าจะตอบไม่ได้หมดทุกอย่าง วันอาทิตย์หน้า 8 โมงครึ่งพบกันใหม่ครับ วันนี้สวัสดีครับ”






กำลังโหลดความคิดเห็น