xs
xsm
sm
md
lg

“พิภพ” จวก “หมัก” ซาดิสต์โดยนิสัย! ใช้เครื่องดักฟังเพื่อเกมการเมืองไม่สนชีวิต ปชช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“พิภพ” จวก “สมัคร-พัชรวาท” สุดอำมหิต! สั่งหิ้วเครื่องดักฟังอุปกรณ์หลักที่ใช้ต่อกรกับโจรใต้ เพียงเพื่อความได้เปรียบทางการเมือง โดยไม่ห่วงสวัสดิภาพประชาชนในพื้นที่ เชื่อ “สมัคร” เป็นซาดิสต์โดยนิสัย ชอบอยู่กับความรุนแรงนับแต่ยุค 6 ตุลาจนถึงปัจจุบัน ชี้พันธมิตรฯ ซ้อมใหญ่วันนี้สวยงามที่สุด และถือเป็นรูปแบบการต่อสู้ทางประชาธิปไตยที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย 

วันนี้ (2 ส.ค.) เมื่อเวลา 21.52 น. นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ สะพานมัฆวานรังสรรค์ว่า จากประสบการณ์การต่อสู้ในเรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชนจะมีการต่อสู้สองแบบคือเผด็จการทหารกับเผด็จการประชาธิปไตย ซึ่งทั้งสองแบบจะมีการต่อสู้ที่แตกต่างกัน เผด็จการทหารเมื่อมาเผชิญหน้ากับประชาชนจะถอยไม่ได้อีกแล้ว นอกจากตัดสินใจว่าจะยิงหรือไม่เท่านั้นซึ่งที่ผ่านมาตัดสินใจยิงประชาชน ประชาชนจึงได้รับชัยชนะ เพราะสังคมไทยรับไม่ได้ที่จะให้ประชาชนต้องล้มตายลงทุกวัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ทรงรับไม่ได้เช่นกัน เมื่อเกิดกรณีแบบนี้พระองค์ท่านต้องทรงออกมาขวางทุกครั้ง

ส่วนในระบอบประชาธิปไตยที่เราสู้กันหนักมากก็คือ ในสมัยรัฐบาลทักษิณ ซี่งจะเห็นได้ว่าในระบอบประชาธิปไตย จะมีลักษณะยืดหยุ่นไม่เผชิญหน้ากับประชาชนโดยตรง เผชิญแล้วหลบ หลบแล้วเผชิญ และมีลักษณะยืดหยุ่นในการถอย ซึ่งผิด ทหารที่ถอยเข้ากรมกองโดยเป็นผู้แพ้ไม่ได้ แต่ระบอบประชาธิปไตยเขาจะถอยเข้าไปในสภา ออกจากสภาแล้วก็ไปยุบสภา ฉะนั้นลักษณะยืดหยุ่นแบบนี้ทำให้เราต้องใช้เวลาต่อสู้ยาวนานและสะสมชัยชนะผิดกับการต่อสู้กับทหาร

“เราจะชนะเมื่อไหร่ การต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จการประชาธิปไตยต้องสะสมชัยชนะ แล้วมาถึงขีดที่สะสมชัยชนะในระดับคุณภาพ เมื่อนั้นรัฐบาลเผด็จการประชาธิปไตยจะสิ้นสุดทันที ถ้าเข้าใจหลักการต่อสู้ระหว่างเผด็จการทหารกรับเผด็จการรัฐสภา ก็จะรู้ว้ารูปแบบการต่อสู้จะยืดเยื้อแบบไหนถ้าเทียบกับการต่อสู้เผด็จการทหาร” นายพิภพ กล่าว

นายพิภพ กล่าวต่อว่า แต่ข้อดีคือ การที่รัฐบาลเผด็จการประชาธิปไตยตจะตัดสินใจใช้อาวุธกับเราต้องได้รับความร่วมมือจากทหารและตำรวจ แต่รัฐบาลนี้ก็รู้สึกว่าพวกเราพันธมิตรฯ อันตรายถึงขีดสุดว่าจะล้มรัฐบาลได้ ทั้งๆ ที่อันตรายกับประเทศชาติบ้านเมืองนั้นอยู่ที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้และที่เขาพระวิหารที่ต้องเผชิญหน้ากับกัมพูชา แต่ที่ 3จังหวัดใต้ต้องเผชิญหน้ากับคนไทยด้วยกันเองและเป็นการรบแบบกองโทจ สหรัฐเห็นปัญหาตรงนั้นว่าอาจจะนำมาซึ่งการเสียชีวิตผู้บริสุทธิ์ว่าจะศาสนาใด จึงได้ตกลงขายเครื่องดักฟังราคาเกือบ 200ล้านบาท ซึ่งเทคโนโลยีนี้สหรัฐฯขายให้ประเทศต่างๆยากมาก เพราะเป็นสุดยอดเทคโนโลยี ที่สหรัฐใช้ในสมรภูมิรบอยู่ เพื่อป้องกันชีวิตบริสุทธิ์ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้

นายพิภพ กล่าวต่อว่า แต่รัฐบาลซึ่งอ้างว่าเป็นประชาธิปไตย มาจากการเลือกตั้งที่สกปรกและซื้อสิทธิ์ขายเสียมา 280กว่าเสียง กลับไม่เห็นคุณค่าของชีวิตผู้บริสุทธิ์ที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ กลับยกเครื่องทั้งหมดมาไว้ที่สะพานมัฆวานฯ มาไว้ที่นี่ทำไมเราไม่เคยใช้ความรุนแรงไม่เคยคิดจะทำร้ายทหาร ตำรวจ ประชาชนผู้บริสุทธิ์เลย แต่รัฐบาลกลับไม่เห็นคุณค่าของพี่น้องผู้บริสุทธิ์ที่เป็นเหงื่อความขัดแย้งทางการเมืองไมว่าจะเป็นชาวพุทธ มุสลิม ข้าราชการ ทหาร พลเรือน

นายพิภพ กล่าวต่อว่า เครื่องนี้จะช่วยดูแลไม่ให้กดรีโมทใจจุดต่างๆได้ และเข้าถึงการสื่อสารของผู้ก่อความไม่สงบ ฆ่าประชาชนเป็นผักปลา ฆ่าทหารตำรวจ และบางครั้งฝ่ายเราก็ปฏิบัติการผิดๆ ฆ่าผู้บริสุทธิ์ ฉะนั้นเครื่องนี้ป้องกันการใช้ความรุนแรง เพื่อฝ่ายรัฐจะได้เข้าไปแก้สถานการณ์เพื่อไม่ให้เกิดการล้มตายเป็นเบือ ระยะหลังสังเกตได้ว่าความรุนแรงลดลงมาก โดยผบ.ทบ.เองก็ประกาศออกมาว่าเพราะเครื่องมือนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ผบ.ตร. ไม่เห็นกับพี่น้อง3 จังหวัดใต้ แทนที่จะใช้เครื่องมือนี้ดูแลชีวิตบริสุทธิ์ใน 3 จังหวัดใต้ กลับย้ายมาเป็นเครื่องทางการเมืองของรัฐบาล เพื่อฟังว่า 5แกนนำพันธมิตรฯ พูดคุยปรึกษาอะไรกัน เมื่อดักฟังก็พบว่า 5แกนนำพันธมิตรฯ พยายามระมัดระวังความรุนแรงที่สุด ใช้สันติวิธี

“การกระทำอย่างนี้ของ ผบ.ตร.และนายกฯ สมัคร ถือว่าไม่รักประเทศชาติ และไม่ป้องกันผู้บริสุทธิ์ใน 3 จังหวัดใต้ อย่างนี้ควรจะไล่ไหม เรื่องนี้เรื่องใหญ๋นะ ผบ.ทบ. ทหารเรือ ทหารอากาศ เหล่านาวิกโยธิน ที่ลงในพื้นที่ 3จังหวัด ผู้บัญชาการตชด. ลองคิดสิว่า รัฐบาลที่มีเครื่องมือจะป้องกันชีวิตท่านและหยุดยั้งความรุนแรงไม่ห่วงชีวิตพวกท่านเลยกลับเอามาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองที่นี่ ยอมได้ไหม ผบ.ทบ. ผบ.ทร. ผบ.ทอ. ผบช.ตชด. ยอมได้ไหม” นายพิภพ กล่าว

นายพิภพ กล่าวต่อว่า คน 3 จังหวัดใต้ต้องการความสงบ ฉะนั้นอะไรที่ทำให้รักษาชีวิตและความสงบได้เขาก็ต้องการ ใช้เครื่องมือนั้น แต่ทำไมพล.ต.อ.พัชรวาทจึงละทิ้งไม่ดูแลชีวิตพี่น้องที่ 3จังหวัดภาคใต้ ทำไมถึงอำมหิตอย่างนี้ รวมทั้งนายสมัคร สุนทรเวช ด้วย อยากได้ยินคำสัมภาษณ์ของนายกฯ ผบ.ตร.ว่า ที่เรารู้มานี้ท่านจะปฏิเสธหรือยอมรับ

ทั้งนี้ นายพิภพ กล่าวว่า นายสมัครนอกจากจะแสดงลีลาไม่เอ่ยถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากการกระทำของคนของรัฐบาลที่อุดรธานี ศรีสะเกษ มหาสารคาม แล้วประวัติคุณสมัครก็มาจากความรุนแรงตลอดตั้งแต่เหตุการณ์เดือนตุลาฯ วันนี้พิสูจน์แล้วว่า คุณสมัครก็ยังสนับสนุนให้เกิดความรุนแรงใน 3จังหวัดชายแดนใต้โดยเอาเครื่องมือที่ดีที่สุดออกมาเสียทั้งๆที่สะพานมัฆวานฯไม่มีความรุนแรงอย่างเด็ดขาด จิตใจที่อำมหิตและโหดร้ายของนายกฯเป็นเช่นใดได้รู้แล้ว

นอกจากนั้น นายพิภพ ยังกล่าวถึงการเดินขบวนใหญ่วันนี้ของพันธมิตรฯ ด้วยว่า วันนี้การเดินขบวนสวยงามใหญ่โตมาก พิธีกรรมต่างๆ การเคลื่อนขบวน เราได้เห็นเส้นทางประวัติศาสตร์การต่อสู้ของประชาชนในอดีตมาเปรียบเทียบกับการต่อสู้ในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญในการเดินขบวนวันนี้คือ นานาชาติยอมรับ ว่าเราใช้กระบวนการยุติธรรมในการตรวจสอบนักการเมือง ไม่มีผู้สื่อข่าวต่างประเทศใดรายงานไปเลยว่ากรณีหญิงอ้อจะมีปัญหาเรื่องการปกครองแบบประชาธิปไตย ต่างรายงานเป็นเสียงเดียวว่ากระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยเริ่มทำงานแล้ว

“การต่อสู้กับเผด็จการประชาธิปไตยที่มาจากการซื้อสิทธิขายเสียง และมีปัญหาทางจริยธรรมต่ำ และพยายามใช้เล่ห์กลทางกฎหมาย มีการยืดหยุ่น มีการชักเข้าชักออก บอกจะยื่นแก้รัฐธรรมนูญวันนี้ เห็นว่าเราจะมามากก็อยากจะดูว่ามากแค่ไหน วันนี้มามากจนรัฐบาลหวั่นไหวบอกว่า 18 ส.ค.ก็ไม่แน่ว่าจะยื่น ฉะนั้นเราจึงบอกว่าไม่ชักคะเย่อกับคุณหรอก เพราะคุณกล้าๆกลัวๆ ไม่แน่จริงนี่ ทำไมไม่ยื่นเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ฉะนั้น เราจะรอคุณตัดสินใจยื่นจริงๆ เราจึงจะเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องมาแสดงพลังคัดค้านเพราะเรายอมไม่ได้ที่รัฐธรรมนูญฉบับจะแก้ไขแล้วไปทำลายกระบวนการยุติธรรม แล้วดึงเอาคดีของคุณทักษิณออกทั้งหมด ยอมไม่ได้” นายพิภพ กล่าวทิ้งท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น