xs
xsm
sm
md
lg

นปก.ปากสั่น! สั่งยกเลิกชุมนุม ป้ายผิด “พันธมิตรฯ” พุ่งเป้าสู่ “ปฏิวัติ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ณัฐวุฒิ ใสเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
“เด็ก นปก.” เต้นพล่านป้ายผิด “พันธมิตรฯ” มุ่งสร้างเงื่อนไขสู่ “การปฏิวัติ” โว 3-4 วันรัฐบาลดูแลได้ ก่อนใส่ไฟ “จนท.รัฐ” ผวาขึ้นเวทีพันมิตรฯ เพื่อภารกิจพิเศษ ก่อนยุประชาชนให้ระแวง “แก๊งออฟไฟว์มัฆวานฯ” หวังกลบข่าวแก๊ง “ออฟโฟร์” จ่อยึดอำนาจทางการเมือง

วานนี้ (1 ส.ค.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นัดหมายจะชุมนุมใหญ่เพื่อต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ขอเรียนว่าแม้การเคลื่อนไหวการชุมนุมเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญนั้น แต่ขอให้กลุ่มพันธมิตรฯ คำนึงถึงบ้านเมืองว่า สถานการณ์ขณะนี้จากการเคลื่อนไหวต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนการปฏิวัติ ยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 ก.ย.49 ทำให้ประชาชนมีความรู้สึกว่าสิทธิเสรีภาพที่พึงมี ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายถูกละเมิดตลอดเวลา และมากขึ้น ฉะนั้นบรรยากาศการปะทะกัน และกระทบกระทั่งจนนำไปสู่เหตุการณ์ปะทะที่ จ.อุดรธานี หรือจังหวัดอื่นๆ อยากให้กลุ่มพันธมิตรฯ นำไปเป็นข้อคิดว่าความเคลื่อนไหวใดๆ หากจะนำมวลชนจำนวนมาก ขอให้แกนนำฯ ดูแลให้เกิดความรอบคอบระมัดระวัง

“ขณะนี้ไม่มั่นใจว่ากลุ่มคนที่พันธมิตรฯ ใช้ไปให้ดูแลผู้ชุมนุมนั้น มีศักยภาพหรือไม่ เนื่องจากนักรบศรีวิชัยเมาสุรา แล้วทำร้ายร่างกายประชาชน ขณะเดียวกัน กลุ่มที่เห็นต่างกับกลุ่มพันธมิตรฯ หากจะมีเคลื่อนไหวต่อต้าน ก็ขอความกรุณาให้ใช้ความอดทนอดกลั้น อย่าเข้าใกล้ที่ชุมนุม โดยอย่าแสดงการใดๆ ที่ก่อให้เกิดการยั่วยุที่จะสุ่มเสี่ยงต่อการกระทบกระทั่งบานปลาย จนกลายไปสู่การปะทะได้ ส่วนการชุมนุมของกลุ่มพีทีวีที่ท้องสนามหลวงวันที่ 2 ส.ค.นี้นั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์สุ่มเสี่ยง กลุ่มพีทีวีได้ยุติการชุมนุมที่ท้องสนามหลวงในวันดังกล่าวแล้ว และจะเลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนด” นายณัฐวุฒิ กล่าว

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า เราไม่ได้กังวลว่า 7 วันนี้เป็น 7 วันอันตรายอย่างที่กลุ่มพันธมิตรฯพยามข่มขู่ แต่ไม่อยากให้ 7 วันนี้เป็น 7 วันอันตรายของคนไทยด้วยกันเอง และไม่อยากให้เป็นอันตรายต่อสังคมไทย ซึ่งไม่สามารถแบกรับความขัดแย้งแตกแยก จึงอยากฝากข้อคิดไปถึงกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า หากเราใช้สิทธิ และเสรีภาพของตัวเองเพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือประชาธิปไตย แต่หากการใช้สิทธิของตัวเองไปละเมิดสิทธิของผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่จะตามมาคืออนาธิปไตย ไม่มีใครฟังใคร ภาวะที่อำนาจรัฐจัดการกับความขัดแย้งต่างๆ ไม่ได้ เชื่อว่าไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดก็ไม่ใช่เป็นฝ่ายที่ได้รับประโยชน์จากสถานการณ์ดังกล่าว
 
“ขณะนี้มีแก๊งออฟโฟร์ที่พยามเคลื่อนไหว พยามยึดอำนาจของบ้านเมืองเอาไว้ในรัฐบาลชุดนี้ ขอเรียนว่า รัฐบาลทำงานตามนโยบายปกติ ครม.ก็กำลังรอการโปรดเกล้าฯ อยู่ ฉะนั้นแก๊งออฟโฟร์ที่จะยึดอำนาจการบริหารรัฐบาลจึงไม่มี ผมอยากให้สังคมระแวดระวังแก๊งออฟไฟฟ์ที่สะพานมัฆวานฯ มากกว่า เพราะแก๊งนี้มีแนวโน้มให้เกิดความวุ่นวายแล้วนำไปสู่เหตุการณ์ไม่พึงปรารถนาของประชาธิปไตยอีกครั้งหนึ่ง เหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ก.ย.49 อีกครั้ง คนที่อยู่ในหน้าที่ของฝ่ายบ้านเมือง ทั้งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ หากจะเข้าร่วมชุมนุม ขอให้กระทำอยู่ในกรอบกฎหมาย” รองโฆษกฯ กล่าว

รองโฆษกฯ กล่าวอีกว่า ไม่อยากให้กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดที่อยู่ในฝ่ายบ้านเมืองเข้าไปผสมโรง โดยมีจุดมุ่งหมายบางประการให้เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ทางการเมือง ถ้าหากมีภารกิจพิเศษขอให้ทราบว่า ความเคลื่อนไหวของท่านถูกรัฐบาลจับตามองเช่นกัน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังมองไม่เห็นถึงทางลงของกลุ่มพันธมิตรฯ นายกฯ ยังยืนยันว่าจะไม่ลาออก หรือยุบสภา ตนจึงตั้งข้อสังเกตว่า ความเคลื่อนไหวต่างๆ เหล่านี้ต้องมีเงื่อนไขพิเศษ ที่ทำให้กลุ่มพันธมิตรฯ ประกาศชัยชนะได้อีก ตนจึงมีสิทธิคิดว่า อาจจะเหมือนเหตุการณ์ 19 ก.ย.49 ก็ได้ ส่วนการประเมินการชุมนุมนั้น เราประเมินกันตลอดเวลา

เมื่อถามว่า รัฐบาลประเมินหรือไม่ว่าภายใน 3-4 วันนี้จะเกิดการปฏิวัติ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ยังไม่กังวลถึงขนาดนั้น เพราะต้องดูว่าเงื่อนไขที่สร้างขึ้นมาปลุกระดมได้หรือไม่ คาดว่า ภายใน3-5 วันนี้ ยังพอดูแลได้อยู่ เรายังมั่นใจว่าคนส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้บ้านเมืองเกิดอะไรขึ้น แม้ว่ารัฐบาลนี้จะขี้เหร่อย่างไร แต่รัฐบาลนี้ก็มาจากการเลือกตั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น