xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาลต้องรับผิดชอบหนี้เลือด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ปชป.ชี้เหตุรุนแรงเกิดจากคนรัฐบาล ต้องรับผิดชอบหนี้เลือด จวก ผบ.ทบ.ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ปลัดกลาโหมเผยห่วงบึ้มพันธมิตรฯ สั่งหน่วยข่าวสอบหาข้อเท็จจริง ระบุทักษิณถูกกุนซือ-คนรอบข้างดันก้นโฟนอิน ยันไม่กลัวแม้ว แต่เหตุที่ปิดปากเงียบเพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลาย

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า การทำงานของรัฐบาลไร้ประสิทธิภาพในการบริหารงานทั่วไป และยังเกิดเหตุการณ์ปาระเบิดเข้าไปในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อเช้าตรู่วานนี้ (20 พ.ย.) ทำให้มีผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ใช่เหตุบังเอิญ และได้เกิดขึ้นมาหลายครั้ง ทั้งนี้ สิ่งที่เราเห็นชัดเจนคือ รัฐบาลไม่มีการดำเนินการใดๆ ที่เป็นรูปธรรมทั้งการป้องกันและการตามหาตัวคนผิดเพื่อนำมาลงโทษได้แม้แต่กรณีเดียว
ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า ยิ่งดูลึกลงไปถึงกระบวนการรายละเอียดของเหตุการณ์ และการให้สัมภาษณ์ของบุคคลต่างๆ โดยเฉพาะคนในรัฐบาล ทำให้มีความชัดเจนมากขึ้นว่า รัฐบาลไม่ทุกข์ร้อนกับความสุญเสียที่เกิดขึ้นกับประชาชน อีกทั้งรัฐบาลดูเหมือนอยากจะได้ประโยชน์ และปล่อยให้คนในรัฐบาลมีส่วนกับเหตุการณ์เหล่านี้อย่างชัดเจนอีกด้วย ซึ่งเราเชื่อว่าสังคมไทยยอมรับไม่ได้ เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นความพยายามตามที่คนในรัฐบาลพูดว่า กำลังจะทำให้เกิดลักษณะของสงครามภายใน รวมถึงจะมีความรุนแรงมากขึ้น และจะมีความยืดเยื้อ ซึ่งสอดรับกับข้อมูลที่เรามีว่า เป็นการบงการจากต่างประเทศ

**รัฐบาลต้องรับผิดชอบหนี้เลือด
ดังนั้น สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์เรียกร้อง คือ ความรับผิดชอบและความชัดเจนของรัฐบาลต่อเหตุการณ์ทั้งหมด และเชื่อว่ากำลังจะเกิดขึ้นต่อไป พรรคจึงได้มอบหมายให้นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้ถามสดในการประชุมสภาฯ ซึ่งเราจะไม่ปล่อยให้การตั้งกระทู้ถามครั้งนี้ เป็นการถามและตอบแล้วผ่านไป โดยถ้าสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นและรัฐบาลไม่สามารถนำคนผิดมาลงโทษ รวมถึงไม่ห้ามปรามคนที่อยู่ในกลไกของรัฐบาล หรือหน่วยราชการที่มีส่วนในการส่งเสริมความรุนแรงในขณะนี้ เราจะถือว่ารัฐบาล คือผู้ที่ดำเนินการสร้างความรุนแรงในประเทศทั้งหมด ซึ่งเราในฐานะฝ่ายตรวจสอบรัฐบาล จะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด เข้มข้นมากขึ้นต่อไป
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ นอกจากจะทำให้การแก้ไขปัญหาของประชาชนไม่สามารถเดินไปได้แล้ว ยังสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้กับสังคมไทย เพียงเพื่อประโยชน์ของคนกลุ่มหนึ่ง หรือคนคนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี จะต้องพิจารณา และทบทวนตัวเองว่าที่เข้ามาดำรงตำแหน่งในขณะนี้ กำลังจะพาประเทศชาติเดินหน้าไปในทางใด เพราะถ้าความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นไปตามแผนของผู้ที่ก่อความไม่สงบในขณะนี้ จะยิ่งทำให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายมากขึ้น และจะนำไปสู่ความเสียหายหลายเรื่อง ทำให้ต้องใช้เวลานานมากในการเยียวยากอบกู้ฟื้นฟูต่อไป
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ตนตั้งข้อสังเกตว่า สิ่งที่คนของรัฐบาลกำลังพูดตอนนี้ถึงแนวทางต่อไป ล้วนเป็นความรุนแรงในแนวนี้ทั้งสิ้น โดยคนในรัฐบาลที่ไปพบกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้พูดตอนหนึ่งว่า โอกาสที่ดีที่สุดที่พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมายังประเทศไทย คือช่วงที่มีการปฏิวัติรัฐประหาร เพราะฉะนั้น กองทัพต้องชัดเจนว่า จะไม่มีการปฏิวัติรัฐประหาร และต้องไปปัดกวาดสิ่งที่อยู่ในกองทัพ เพื่อไม่ให้เกิดการสร้างเงื่อนไขที่นำไปสู่การรัฐประหารโดยเด็ดขาด
"ทั้งหมดนี้เป็นเกมเพื่อช่วยพวกพ้องเท่านั้น โดยไม่คำนึงถึงบ้านเมือง และชีวิตของประชาชนอีกต่อไป ถ้านายกฯ ยังปล่อยปละอย่างนี้ สังคมมีสิทธิ์ตั้งคำถามว่า คุณจะเลือดเย็นไปถึงขนาดไหน คุณเลือดเย็นกับการล้มตายของประชาชนมาหลายครั้งแล้ว แต่ที่คุณเลือดเย็นกว่าคือ คุณกำลังทำให้สังคม และประเทศชาติเสื่อมถอยอยู่ตลอดเวลา ถ้าท่านไม่คิดทำอะไร ก็ไม่ควรอยู่ในตำแหน่ง แต่ถ้าจะทำก็ต้องทำโดยเร็วที่สุด เพราะวันนี้เศรษฐกิจและสังคมของบ้านเมืองอยู่ในภาวะอันตราย และประชาชนเบื่อหน่ายและมีความทุกข์ร้อนกับเหตุการณ์ที่เกิดสะสมมาตลอดเวลา" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนการที่ทีมกฎหมายของพรรคพลังประชาชน และอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยมีแนวคิดที่จะยกร่าง พ.ร.บ.สร้างความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ. ....โดยจะยกเลิกคดีที่เกี่ยวกับการเมืองทั้งหมด และมีผลย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่มีการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 ก.ย.49 ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการแก้ปัญหาของตัวเองเท่านั้น ซึ่งเขาก็เปลี่ยนไปได้เรื่อยๆ และท้ายที่สุด คนที่ได้ประโยชน์คือ คนที่กำลังจะทำ และพ.ต.ท.ทักษิณ
ทั้งนี้ ตนไม่ได้ขัดใดๆในแง่ที่ว่าใครจะมีเรื่องของหลักกฎหมายดีหรือไม่ อย่างไร แต่ถ้ามีกฎหมายอยู่แล้ว ยังทำผิด และคิดใช้อำนาจลบล้างความผิดของตัวเอง ตรงนี้ถือว่าไม่เหมาะสม

**จวก ผบ.ทบ.ไม่รู้ร้อนรู้หนาว
พล.อ.พิชาญเมธ ม่วงมณี ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรมว.กลาโหม(เงา) กล่าวว่า ขอให้นายสมชาย ในฐานะที่เป็น รมว.กลาโหม และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ตรวจสอบหาต้นตอเหตุการณ์นี้ ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับก้อนภูเขาน้ำแข็งที่อยู่ใต้น้ำและโผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำ โดยเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ เป็นเพียง 1 ใน 10 ของเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ดังนั้นเพื่อป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองควรทำสิ่งที่เป็นรูปธรรมชัดเจน เพราะการข่าวทางลึก ก็จะทราบว่าคนทำอยู่ที่ไหน และมีต้นตออย่างไร และจะทราบที่ตั้งโดยประมาณด้วยซ้ำว่า มีการซ่องสุมผู้คน และอาวุธอยู่ที่ไหน แต่ก็ไม่ทำกัน ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอะไร แต่การนิ่งเฉยก็เท่ากับเป็นการส่งเสริมไปโดยปริยาย ดังนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องจึงไม่สามารถปฎิเสธความรับผิดชอบได้ ขอเรียกร้องผู้ปฏิบัติควรจะมาขันน็อตและเร่งเครื่องปฏิบัติงานให้ชัดเจน

**ชี้"แม้ว"บ้าเลือดเพราะลิ่วล้อ
พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร จะโฟนอินเข้ามาอีกครั้งว่า ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าท่านจะพูดอะไร แต่อยากขอร้องท่านว่า ไม่ควรดำเนินการ เพราะไม่น่าจะเกิดประโยชน์มากนักในแนวทางการต่อสู้ที่ที่ท่านกำลังทำอยู่ คิดว่าท่านอาจจะไม่ได้คิดเรื่องนี้เอง อาจจะเป็นคนใกล้ชิด หรือกุนซือที่กำหนดแนวทางให้ต่อสู้ในลักษณะนี้ เพราะแนวความคิดของท่านเมื่อปี 2544 ที่ท่านได้เคยพูดในรายการทักษิณพบประชาชน ถึงลักษณะของการต่อสู้ว่าจะใช้แนวทางของ มหาตมะ คานธี ในการต่อสู้ หรือในการดำเนินการอะไรต่างๆ แต่ขณะนี้ไม่ใช่ ซึ่งตนวิเคราะห์ว่าน่าจะเป็นกุนซือของท่านที่อยู่รอบข้าง พยายามผลักดันท่านออกมา โดยหวังประโยชน์จากท่านมากกว่า ถ้าพูดไปแล้ว คือห่วง พ.ต.ท.ทักษิณ จะถูกหลอกมากกว่า เพราะทุกคนที่เข้าไปหาท่าน ต้องการรับประโยชน์จากท่านทั้งสิ้น
เมื่อถามว่า ผบ.เหล่าทัพหวั่นไหวหรือไม่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศจัดการกับศัตรูทางการเมืองพล.อ.อภิชาต กล่าวว่า พวกเราไม่หวั่นอยู่แล้ว และไม่ได้เดือดร้อนอะไร ซึ่งเราได้พูดคุยกันตลอดว่า เราไม่ได้เป็นศัตรูทางการเมืองกับท่าน เพราะไม่ได้เล่นการเมือง เราเป็นข้าราชการประจำ เพียงแต่เราดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในภาระหน้าที่ที่เรารับผิดชอบกันอยู่
เมื่อถามย้ำว่า การที่ ผบ.เหล่าทัพ ปิดปากเงียบ เป็นเพราะกลัวอิทธิพลของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า "ไม่มีใครกลัวหรอก แต่ให้สัมภาษณ์ไปแล้วอาจจะเป็นข่าวในเชิงลบกับตัวท่าน ท่านจึงไม่อยากให้สัมภาษณ์ ต้องให้ความเป็นธรรมกับ ผบ.เหล่าทัพ เพราะการไม่ให้สัมภาษณ์ของ ผบ.เหล่าทัพเหมือนกับไม่อยากเป็นข่าว และไม่อยากให้เรื่องราวลุกลาม แม้แต่สิ่งที่ผมพูด สื่ออาจจะไปเขียนหรือไปทำอะไรต่างๆ ทำให้เกิดสถานการณ์บานปลายได้ แต่สิ่งที่ ผบ.เหล่าทัพ ต้องการอยากให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามครรลองที่ถูกต้อง คือฟังทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่ฟังฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือไม่ใช่ต้องไปปรามพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ให้ทำอย่างนั้น อย่างนี้ ในขณะที่อีกฝ่ายก็รุกตลอดให้ดำเนินการอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งทางกองทัพไม่อยากให้สองฝ่ายมีปัญหากัน"
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กล่าวถึงการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ตนอยากเห็นประเทศไทยเดินไปข้างหน้าด้วยความสมัครสมานสามัคคี และเตรียมจะแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจและด้านอื่นๆ ทั้งนี้หากทุกคนอยู่ด้วยความสงบเรียบร้อย และใช้วิธีการแก้ปัญหาโดยใช้แนวทางสันติคงจะดี
พล.ร.อ. กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. กล่าวถึง การโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในวันที่ 13 ธ.ค.นี้ว่า "คนไทยเราเป็นคนฉลาด และมีวิจารณญาณ ผมเชื่ออย่างนั้น" เมื่อถามต่อว่า เหล่าทัพต้องเตรียมอย่างไรบ้าง พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ เราต้องติดตามสถานการณ์ดู เมื่อถามย้ำว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศกลับมาสู้ทางการเมือง พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า คงติดตามสถานการณ์กันต่อไป.
กำลังโหลดความคิดเห็น